อย่างแรก เรามารู้จักพลังของพระสุริยเทพก่อน ก็คือ พลังของเทพที่มีพื้นฐานธาตุไฟมาก ส่องสว่างรอบทิศ ท่านจะชอบความเท่าเทียมกัน และมีเสรีภาพแบบประชาธิปไตย ตรงนี้ ต่างจากพระนารายณ์ จะชอบความมีชนชั้นนะ พระนารายณ์จะดูแลเรื่องชนชั้นวรรณะ แต่พระสุริยเทพนี้จะไม่สนใจเรื่องความแตกต่างของมนุษย์และชนชั้นวรรณะเช่นนี้ ดังนั้น ประเทศไทยจึงเกิดปัญหาเรื่องประชาธิปไตยขึ้นไงล่ะ เพราะพลังของพระสุริยเทพเข้ามาแล้ว (พี่ชายเจอใครที่มีพลังนี้ รับพลังนี้ได้ก็จะดูดซับมาเก็บไว้ก่อน เพื่อยื้อเวลาให้เทพชุดปีที่แล้วอีกครึ่งปี) หากพลังของพระสุริยเทพเต็มกำลังเมื่อไร ประชาธิปไตยจะแรงมาก จนกระทบต่อชนชั้นวรรณะและแม้แต่สถาบันกษัตริย์ซึ่งมีพลังของพระนารายณ์หนุนอยู่ ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ถ้่าพี่ชายยังดูดซับพลังของพระสุริยเทพไว้ได้ ผลกระทบต่อวรรณะต่างๆ ก็จะลดลง แต่จะทำเช่นนี้ตลอดไปไม่ได้เพราะหลังจากครึ่งปีแรกแล้ว พี่ชายจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามบัญชาสวรรค์ละ ยื้อเวลาให้ได้เท่านั้นเองครับ ทีนี้ พลังที่สองที่เป็นพลังของเทพนักษัตรคือ พลังของเทพวานร เป็นเทพกึ่งสัตว์ที่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานอื่นๆ คือลำตัวค่อนข้างตรงไม่เป็นพาหนะให้ใครขี่ แม้ปีหน้าเป็นปีม้า แต่เทพม้าเป็นพลังงานเก่า ดังนั้น พระถังซัมจั๋งก็จะลงจากม้าขาว ขี่ม้าขาวแล้วไม่เวิร์กอ่า แล้วมาประสานกับซุนหงอคงแทน เพื่อเปิดยุคของประชาธิปไตยแบบพระสุริยเทพ
สำหรับปี ๒๕๕๗ นั้น เดิมพลังพระพุธ (ค้าขาย-สื่อสาร) จะมาทำกิจแต่เพราะเป็นพลังงานเก่า จึงเอ้าท์ ตกไป เปิดทางให้พระสุริยเทพ (การปกครอง-บุรุษเพศ) มาแทนที่ ซึ่งก็จะตกไปพร้อมๆ กับเทพม้า ดังนั้น พระถังซัมจั๋งจะไม่ไ้ด้มาในอวตารแห่งเส้นทางสายไหม ขี่ม้าเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ดังอดีต แต่จะมาในอวตารใหม่ คือ อวตารแห่งพระผู้ปกครองเดินทางน้อยลง ขึ้นขี่สัตว์น้อยลง อยู่ประจำที่มากขึ้น นี่เอง เอาละ พี่ชายบำเพ็ญรับพลังเทพซูสในอวตารของเหยี่ยวได้ตั้งนานละ ม็อบนกหวีดเพิ่งตื่นมาทำงานได้ตอนจะสิ้นปี แจ้งข่าวตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งทำงานกันตอนจะหมดเวลา แล้วยังมาขอต่อเวลา ยื้อเวลาอีก เอ้า สงสารพวกบำเพ็ญอ่อน ก็ให้เขาไป ยื้อเวลาให้อีกครึ่งปี ให้ได้มีอำนาจทำหน้าที่ต่อไป (แถมยังคิดไม่ออกอีกว่าประชาธิปไตยที่พวกเขาเรียกร้องกันนั้น มันคืออะไร สุดท้าย จะเป็นผู้ทำลายประชาธิปไตยเสียเองหรือเปล่าก็ไม่รู้สินะ เหอๆ) ไอ้เราก็บำเพ็ญบารมีเยอะมากแล้ว คนอื่นเขาได้น้อย วิ่งตามเราไม่ทัน เบื้องบนก็ส่งสัญญาณให้เราเดินช้าๆ แต่ไอ้พวกหลงโลก หลงกิเลส อยากได้ อยากมี อยากเป็นนี่ มันก็ยังไม่ตื่น ไม่ยอมบำเพ็ญบารมี เห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขความสบายที่ฉาบฉวย อันเป็นแค่ของสมมุติบนโลก เลยบำเพ็ญบารมีได้น้อย ได้ช้ากัน แต่เราก็ยังยอม อดทน รอต่อไป ให้พวกเขาบำเพ็ญตามเรามาให้ได้ ให้ทันกัน เลยต้องยื้อเวลาไปอีกนิดหนึ่ง ซึ่งก็จะส่งผลให้พญาครุฑองค์พี่ออกจากไ่ข่ก่อนเวลามาเป็นพระอรุณ ขับรถม้าให้พระสุริยเทพ ส่วนพญาครุฑองค์น้องที่สมบูรณ์กว่าก็จะไม่ได้ออกมาทำกิจ ซะอย่างนั้น เห็นมั้ย ผลกระทบมันต่อเนื่องกันไปถึงโน่น โอเคมั้ยครับ
เอาละ สรุปก็ไม่มีอะไรมากนะครับ หุๆ ไม่บอกมากไปกว่านี้ละ บอกแค่นี้ก็เกรงใจอาจารย์ที่ไม่ยอมให้เราเปิดเผยอะไรบางอย่างในเน็ต ที่ได้บอกไปนี้ก็ไม่นับว่าผิดจากคำห้ามของอาจารย์นะ เพราะไม่ได้บอกในแบบของอาจารย์ แต่บอกในแบบที่เราเข้าใจเอง ปฏิบัติได้เองนะ อิอิ บอกได้เท่านี้ มากกว่านี้ไม่ได้ละ ใครมีบุญวาสนารู้และเข้าใจ ก็จะเอาไปใช้ทำกิจต่อได้ เลือกใช้พลังงานได้ถูก ก็จะได้รับชัยชนะไป ใครที่เลือกใช้พลังงานผิดก็จะถูกเก็บ ไม่ได้ถูกฆ่านะ คือ ใครเลือกพลังงานเก่าก็เข้าสายตันตระ เก็บตัวไปบวชซะ ใครเลือกพลังงานใหม่ก็เข้าสายวัชระ ออกมาทำกิจ ได้อำนาจทางโลกไป ดังนั้น จะเข้าข้างใครก็ไม่ได้ ขอจบเรื่องราวลงแต่เพียงเท่านี้เลยก็แล้วกันครับ สวัสดี ...