วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

พลังจิตสำนึก "มนุษย์ต่างดาว" จากดาวต่างๆ ต่างจากมนุษย์อย่างไร?

มีเทคนิึคอีกประการที่จะจับสังเกตุมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่ในร่างของมนุษย์โลก จะมาเม้าืท์ให้ัฟังละ แต่วันนี้ เอาแค่เกริ่นๆ นำก่อนนะ ยังไม่เข้ารายละเอียดมาก จะไ้ด้เข้าใจกว้างๆ หลักๆ ก่อน มันเป็นเรื่องของ "จิตสำนึก" ครับ ซึ่งเหมือนๆ กันใน "มนุษย์ต่างดาว" ที่มาจากดาวดวงเดียวกัน ทำให้จำกันได้ และเข้ากันได้ง่ายมาก แต่มันจะไม่เหมือนมนุษย์โลก ก็เท่านั้นเอง ซึ่งพี่ชายจะได้เม้าืท์ให้ฟัง ดังต่อไปนี้


อย่างแรก พี่ชายขอปูพื้นฐานก่อนว่่าจิตวิญญาณนั้นจะมี "มโนสำนึก" ของตัวมันเองในแต่ละระดับครับ เช่น มโนสำนึกของสัตว์เดรัจฉาน ก็อย่างหนึ่ง เหมือนสัญชาติญาณใน การล่า, การหนี, การหากิน, การสืบพันธุ์อะไรทำนองนั้น มนุษย์โลกเองก็มี "มโนสำนึก" แบบหนึ่งครับ ถามว่า มันคืออะไร "มโนสำนึก" หรือ "จิตสำนึก" เี่นี่ย? มันก็คือ สิ่งที่รู้ได้เอง ไม่ต้องให้มีใครมาสอนในระดับมาตรฐานของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นครับ เช่น นกย่อมต้องรู้ได้ด้วยมโนสำนึกของมันเองในเรื่องการบิน, การสร้างรัง แต่ในสัตว์เราจะใช้คำว่า "สัญชาติญาณ" แทน ซึ่งในสัตว์นี้ เราจะไม่แบ่งออกหลายแบบเหมือนมนุษย์นะครับ ในสัตว์เราจะใช้่คำรวมๆ ว่า "สัญชาติญาณ" ไปเลย ไม่แบ่งแยกว่าส่วนดีหรือส่วนไม่ดี อะไร แต่ในคนเราจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ ครับ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

๑. จิตสำนึก คือ ภาวะการรู้เองของจิต อันจะทำให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์ เช่น การรู้ว่าอะไรถูก, ผิด, ดี, ชั่ว ทำให้ปรับตัวอยู่กับสังคมมนุษย์ได้ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ดี ทำให้เป็นสัตว์สังคม ไม่ใช่กิเลสอันดิบเถื่อน

๒. จิตใต้สำนึก คือ ภาวะการรู้เองของจิต อันเป็นแรงขับดันที่ดิบเถื่อน ตามธรรมชาติ เช่น การสืบพันธุ์, อารมณ์เพศ, การกิน-นอน, ขับถ่าย ในบางคนก็มีจิตใต้สำนึุกที่รู้มากเป็นพิเศษไปอีก เช่น รู้ภัยในอนาคต

๓. จิตเหนือสำนึก คือ ภาวะการรู้เองของจิตภายหลังที่ได้รับการฝึกจิต หรือพัฒนาในแบบต่างๆ แล้ว ทำให้เกิดปัญญามากกว่าเดิม เช่น การบรรลุธรรมของมนุษย์ หรือการมีญาณหยั่งรู้พิเศษ ที่ได้จากการฝึกฝน

เอาละ ทีนี้ เราจะมาดูเฉพาะ "จิตสำนึก" ก่อน ก็แล้วกัน แต่เราจะไม่ได้ดูในมนุษย์โลกและสัตว์โลกนะครับ เราจะมาดู "มนุษย์ในดาวต่างๆ" ที่มี "จิตสำนึุก" อันแตกต่างกันไป อันจะส่งผลให้มนุษย์ในดาวนั้นอยู่ร่วมกันได้เป็นสังคมครับ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ "จิตใต้สำนึก" เป็นสิ่งที่หยั่งรู้แบบดิบเถื่อนไม่เกี่ยวข้องกับใคร ส่วน "จิตสำนึก" เป็นสิ่งที่หยั่งรู้แบบสากลร่วมกันของทั้งสังคมของมนุษย์ในดาวดวงนั้นๆ เพื่อปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้ นั่นเอง ซึ่งมนุษย์แต่ละดาวจะมีจิตสำนึกไม่เหมือนกันนะครับ เพราะการดำรงอยู่ของแต่ละดาวนั้น ไม่เหมือนกันไงครับ


อย่างที่สอง เราจะมาเริ่มต้นจาก "จิตสำนึกของมนุษย์โลก" กันก่อนครับ จะได้ทราบว่าความเ็ป็นมนุษย์โลกนั้น จะต้องมีสำนึกอะไรในจิตบ้าง ถ้าไม่มีแล้ว แสดงว่าไม่น่าจะใช่มนุษย์โลก หรือดวงจิตที่อยู่ในสังขารอาจไม่ใช่ดวงจิตของมนุษย์โลก เป็นต้น เอาละ สรุปง่ายๆ ก็คือ จิตสำนึกของมนุษย์โลกนี้ จะมีความถูก-ผิด, ดี-ชั่ว ฯลฯ แยกแยะเป็นคู่ๆ อย่างชัดเจนครับ เพื่อให้ระบบสมองทำงานได้ง่าย สมองของเราก็มีสองซีกครับ สมองรับกับพลังจิตหยั่งรู้ได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยระบบคู่ตรงข้ามนี่แหละครับ ด้วยการหยั่งรู้แบบนี้ ทำให้มนุษย์โลกอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องเข้าโรงเรียนตั้งแต่เกิด หรือแม้แต่คนที่ไม่ไ่ด้เรียนอะไรเลย ก็ไม่มีปัญหาในการเข้าสังคมมนุษย์ครับ แต่ในโลกนี้ยังมีคนที่มีจิตวิญญาณเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ "มนุษย์โลก" อยู่ด้วยครับพวกเขาจะมีจิตสำนึกไปอีกแบบหนึ่ง ที่พวกเขารู้กันเอง มีเหมือนๆ กันเอง โดยไม่ต้องบอก ไม่ต้องสอน ไม่ต้องเีรียน เช่น ในบางสังคมที่คนในสังคม นั้นๆ จะรู้กันเองว่าควรทำอย่างไร อย่างไรไม่ควรทำ อุปมาก็เหมือนกับมนุษย์ต่างดาวแทรกตัวอยู่ในโลกมนุษย์แล้วมาเจอญาติกันแหละครับ  มันก็เข้าใจกันเองได้ง่ายมากเร็วมากเช่น คนบางกลุ่มที่เข้ามาเล่นเน็ต  แล้วมีภาษาแปลกๆ หรืออะไรเฉพาะกลุ่มที่รู้กันเองได้อย่างรวดเร็ว แต่คนบางคนกลับไม่เข้าใจ หรือเข้าใจมันได้ยากมากๆ เอาง่ายๆ เลย ที่มีคนอุปมาว่า "ผีย่อมเห็นผีด้วยกัน" อ่ะ ฮ่าๆๆ ตลกดี แต่มันก็ใช้ได้ครับ เราสามารถทดสอบได้ครับ อย่างคนที่มีองค์ หรือพวกคนทรงเหมือนกันก็จะดูกันออก คนไหนเพิ่งเริ่มต้นใหม่ เขาก็ทักให้ไปรับขันธ์เพราะเขารู้ว่ามันใช่ มันเหมือนกันกับเขาครับ หรือคนในแวดวงบันเทิง เขาก็ดูกันออกว่าแบบนี้แหละ มันใช่ หรือแบบไหนที่มันไม่ใช่ ไม่ว่าเขาจะมีความพยายามแค่ไหน มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี อะไรแบบนั้นอ่ะ แล้วจะข้ามไปวงการอื่นได้ยากนะครับ แต่ก็มีได้เหมือนกัน เช่น จากวงการบันเทิงข้ามไปวงการการเมือง มันก็พอไปได้ แต่ไม่ได้ดีเท่ากับพวกมีมาจากสายเลือดหรอกครับ ทีนี้ "จิตสำนึุกมนุษย์่ต่างดาว" เอง แต่ละดวงมันก็ไม่เหมือนกัน และพวกเขาจะเหมือนกันอย่างนั้น โดยไม่ต้องบอก ไม่ต้องเรียนรู้ ก็รู้กันได้เองเลยครับ แถมยังแตกต่างไม่เหมือนชาวโลกนี้ อีกด้วย แปลกไหมละ ดังนั้น เราจึงพบอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นในกลุ่มอันเฉพาะพวกเขานั้นๆ ได้ แล้วพวกเขาก็รู้กันเอง คนภายนอกไม่รู้ด้วยสิ


เอาละ พี่ชายเริ่มง่วงละ คิดว่าหลายคนคงอยากพักผ่อนเหมือนกัน ไม่เม้าท์ยาวแล้ว วันพรุ่งนี้ ค่อยมาหาเรื่องเม้าท์ใหม่ วันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน