พระบิดาจักรวาล

สู่อ้อมกอดกระบิดาจักรวาล 


สวัสดีครับ สำหรับกระทู้นี้ จะเป็นบทความที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของผมที่ได้สัมผัส "พระบิดาจักรวาล" นะครับ บางท่านอาจเรียกท่านในนามอื่น เช่น "จิตจักรวาล" เป็นต้น แต่ชื่อก็ไม่ได้สำคัญมากเท่ากับใจเรามีศรัทธาตรงหรือเปล่านะครับ เอาละ อย่างแรกผมจำต้องอธิบายเรื่อง "ระดับของจิต" ก่อน อย่างนี้ครับ ระดับของจิตทั่วจักรวาลนี้ มันมีอยู่หลายระดับมากครับ สำหรับสัตว์ในโลกของเราแล้วจะมีระดับของจิตไม่สูงมากนัก มีกำลังไม่มากและนิพพานได้เร็วมากๆ ครับ โดยจิตเหล่านี้เป็นเหมือนแค่เศษเล็กๆ อณูน้อยๆ เลยจบง่ายอะไรประมาณนั้น  ทว่า ในจักรวาลนี้ก็ยังมีจิตที่มีระดับสูงๆ อีกมาก ที่ยังไม่นิพพานง่ายๆ นะครับเช่น จิตที่อยู่ในระดับจักรวาลทั้งหลายทั้งจิตจักรวาล (พระบิดาจักรวาล) และจิตอื่นๆ ที่ทำงานให้กับพระบิดาจักรวาล ในระดับของจักรวาล ซึ่งแต่ละดวงจิตจะมีขอบเขตหน้าที่ในการดูแลและกระทำกิจของตนต่างกันไป เช่น จิตพระพุทธเ้จ้า ก็ดูแลนำพาปวงสัตว์ในโลกนี้เข้า่นิพพาน ก็พอครับ ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดไปนำพาดวงจิตจักรวาลเข้านิพพา่นไปด้วย ก็ได้ครับ (ขอบเขต-หน้าที่แต่ละจิตไม่เท่ากัน) 



ลองหันกลับมาพิจารณาดาวโลกของเรากันบ้าง ด้วยเนื่องจากในโลกของเรามีระดับจิตที่ไม่สูงมาก ทำให้มนุษย์บางคนหลงไปว่าระดับของจิตที่สูงกว่าที่พวกเขาพบเจอในโลกนั้น ไม่มีอีกแล้ว แท้จริงเป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ จิตนั้นมีระัดับอันเกี่ยวเนื่องกับสรรพสิ่งทั้งหมดทั้งมวล โดยจัดสรรกันไปครับ เช่น จิตบางกลุ่มก็มีระดับไม่สูงเกินไปกว่าดาวเคราะห์โลก แต่จิตบางกลุ่มก็มีระดับสูงกว่านั้นแต่ไม่เกินระบบสุริยจักรวาลในขณะที่จิตบางกลุ่มก็มีระดับอันเกี่ยวข้องกับจักรวาล เป็นต้น ความหมายของ "ระดับของจิต" คืออะไร? มันก็คือ ระดับความผูกพันที่จิตนั้นเกี่ยวข้องด้วยเ่ช่น จิตบางกลุ่มจะนิพพานก็เมื่อเมืองที่เขาดูแล ไม่จำเป็นต้องดูแลอีก ในขณะที่จิตบางกลุ่มจะนิพพานก็เมื่อจักรวาลที่เขาดูแล ไม่จำเป็นต้องดูแลอีกแล้ว (ถึงวาระแปรสภาพ) ดังนั้น จิตที่มีระดับสูงๆ เกินกว่าโลกและยังไม่นิพพานก็ยังมีอยู่ครับเช่น จิตจักรวาล เป็นต้น ซึ่งมนุษย์โลกไม่ค่อยได้สัมผัส จึงคิดว่าไม่มีอยู่จริง เป็นต้น แต่การที่มนุษย์โลกจะสัมผัสจิตระดับสูงๆ ได้ ก็ต้องมีระดับจิตที่สูงไปพอๆ กัน หรือไม่ก็อาศัยกำลังญาณสูงๆ หยั่งขึ้นไปรับรู้แทน หรือไม่ก็อาศัยกำลังบุญ (ซึ่งในผลเพียงชั่วขณะที่ได้รับผลบุญ) ทำให้ตนได้มีโอกาสสัมผัสจิตระดับสูงๆ ก็ได้เช่นกันครับ (มีหลายวิธีในการสัมผัส)



เอาละกลับมากล่าวถึงพระบิดาจักรวาลบ้าง ท่านมีหน้าที่ดูแลจักรวาลทั้งหมดครับ และท่านจะยังไม่นิพพานจนกว่าจะหมดหน้าที่ครับ ส่วนพระพุทธเจ้าท่านก็มีหน้าที่ "โปรดสัตว์ในโลกของตน" ครับ ท่านไม่มีความจำเป็นต้องไปโปรดพระบิดาจักรวาล หรือจิตที่มีระดับสูงไปกว่านี้ เพราะยังไม่ถึงวาระนิพพานและต้องมีผู้ดูแลจักรวาลอยู่ดี อันนี้ พอจะเข้าใจนะครับ ว่าหน้าที่ของท่านต่างจากพระพุทธเจ้าอยู่อย่างไร? ทีนี้ ท่านก็ช่วยเหลือโลกเราด้วยครับ ทั้งในเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น, การยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์ และการสานต่อพระพุทธศาสนาที่หักกลาง ท่านก็มีส่วนช่วยด้วยทั้งหมดครับ แต่ท่านจะไม่ลงมาทำงานในระดับนี้นะครับ มีระดับที่ "ล่างๆๆๆ" ลงไปกว่าท่านมากมาย ทำงานอยู่ครับ ท่านก็จะ "ประสานพลังและข้อมูลมา" เท่านั้นเองครับ ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่ได้รับพลังและข้อมูลแล้ว ก็จะทำกิจให้ตรงทางต่อไปได้ เอาละ สำหรับบทความนี้ ผมก็จะขอแนะนำเพียงพื้นฐานเท่านั้น ส่วนบทความที่เกี่ยวข้องและลึกซึ้งมากกว่านี้อยู่ในส่วนต่อไป ซึ่งอาจจะมีหลายบทความที่ผมได้รับพลังและข้อมูลสื่อสารจากพระบิดาจักรวาลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในส่วน "ภัยพิบัติ" ก็ดี, "พลังจักรวาลที่เปลี่ยนไป" ก็ดี, "การยกระดับจิตวิญญาณของโลก" ก็ดี หรือเรื่องอื่นใดที่น่าสนใจ ก็ดี ผมก็จะนำมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันนะึครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ   







1 ความคิดเห็น:

  1. ขอกล่าวสรรเสริญพระมหากรุณาธิคุณของพระบิดา ที่ช่วยดูแลจักรวาลมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งไม่อาจที่จะนับเวลาว่าเป็นเอนกอนัตน์กาล นานเท่าใดกัน

    เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก

    ขอน้อมคารวะและอนุโมทนาสาธุการ

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน