อย่างแรก พี่ชายอยากจะปูพื้นฐานก่อนเรื่อง "ด่านที่สำคัญ" ซึ่งพี่ชายไม่รู้จะใช้ศัพท์เรียกว่าอะไรดี มันเหมือน "สภาวะที่ไม่ดีบางอย่าง" ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนพลังพิเศษจะถูกปลุก ตื่นขึ้น แล้วทำงานครับ ตัวอย่างเช่น บางคนได้รับอุบัติเหตุรุนแรงก่อน, กระทบกระเทือนจิตใจรุนแรงก่อน, ป่วยหนักก่อน, เจ็บปวดบางส่วนผิดปกติก่อน ฯลฯ หรืออาจเ็ป็น อะไรก็ได้ ซึ่งเราไม่อาจคาดคิดได้ครับ ทั้งหมดนั้นเป็นผลมาจากพลังพิเศษที่อยู่ในตัวเรา ซึ่งมันถูก "ปิดผนึกไว้นาน" ซ่อนอยู่ลึก มันกำลังตื่นขึ้น ถูกปลุกให้ออกมาน่ะครับ ช่วงที่มันกำลังจะออกมานั้นเอง มันก็จะเกิดเหตุกับเราได้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะสอดคล้องกับพลังพิเศษที่เกิดขึ้นนั้นๆ ด้วย เช่น บางคนหลังประสบอุบัติเหตุ กลายเป็นคนที่มีพลังจิตในการหยั่งรู้ภัยก่อนล่วงหน้า, บางคนหลังป่วยหนัก กลายเป็นคนที่มีพลังฟื้นฟู-รักษาโรค, บางคนหลังปวดไมเกรน กลายเป็นคนมีปัญญาญาณมากพิเศษ, บางคนหลังปวดตาอย่างหนัก กลายเป็นคนมีตาทิพย์ได้, บางคนหลังเจ็บปวดใจเพราะความรัก กลายเป็นคนมีพลังใจเข้มแข็งพิเศษ ฯลฯ น่านละ คือ "ด่านสำคัญ" ที่พี่ชายกำลังบอกว่ามันคือสิ่งที่เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ แล้วพลังพิเศษที่ถูกปิดผนึกไว้ในตัวเรา มันก็จะถูกปลุก ถูกกระตุ้น ดึงออกมาใช้ได้ในที่สุดครับ ยังมีบางท่านที่ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว "บรรลุธรรม" ก็มีครับ เอาเป็นว่าอาจมีพลังพิเศษอะไรบางอย่างก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นทางบู๊หรือบุ๋นนะครับ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เป็นแบบนี้แล้ว จะได้รับพลังพิเศษนะครับ มันจะต้องเข้าทางของมันด้วย เพราะบางคนผ่านสิ่งเหล่านี้มาโดยไม่ได้รับอะไรเลยก็มีครับ เราไม่อาจสรุปได้ทั้งหมด เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเป็นอยู่ เช่น บางคนก็เหมือนบ้าๆ เหมือนเพี้ยนๆ เรียกว่าใกล้จะถูกจับเข้าโรงพยาบาลบ้าแล้ว ก็อย่าเพิ่งตกใจ อาจผ่านด่านได้แล้วได้พลังพิเศษได้ครับ พี่ชายเขียนไว้เพื่อบอกกับคนที่กำลังจะผ่านด่านเหล่านี้อยู่ ให้่มีกำลังใจไปต่อให้ผ่านด่านให้ได้ แล้วจะหายจากอาการเหล่านี้
อย่างที่สอง จะเริ่มเข้าสู่ระดับ advance แล้วนะครับ ในระดับนี้ บางคนอาจผ่านมาได้ด้วยตัวเองไม่ต้องมีใครช่วย แต่ถ้าบางคนได้รับการช่วยจากผู้ที่มีความรู้ มีความชำนาญ ก็จะดีไม่น้อยนะครับ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาการหลงทางผิดไปได้ ยกตัวอย่างเช่น พี่ชายได้เคยคุยกับคนๆ หนึ่ง เขาเล่าว่าเขาไปเรียน "มูลกัจจายน์" มา (เป็นการเรียนภาษาบาลีสัณสกฤติอะไรประมาณนั้น) แล้วเขาไม่สำเร็จ ทำท่าว่าจะบ้าไปสองปี แล้วจึงเลิกเรียนไปครับ เขาเลยเรียนไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่บ้า หยุดกระบวนการไปได้ก่อน (ถ้าเขาผ่านด่านบ้าได้ ไม่แน่นะว่าเขาอาจกลายเป็นอัจฉริยะไปเลยก็ได้) ดังนั้น การได้ัรับการช่วยเหลือให้ผ่านด่านไปได้ จึงดีกว่าการหยุดแล้วจบลงกลางคันเพราะการหยุดแล้วจบลงกลางคันนั้น เราไม่เสี่ยง ไม่เป็นอะไรไปกว่านั้นก็จริง แต่เราก็จะไม่ไ่ด้อะไรจากสิ่งที่เราต้องทนทรมานผ่านมานั้นเลยครับ เรียกว่า เราโดนทดสอบด้วยอะไรที่ยากแก่การอดทนแล้วก็หยุดกลางคัน โดยไม่้ได้อะไร สอบไม่ผ่านนั่นเอง อีกประการหนึ่ง หลายคนที่มีอาการบ้า มักได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลบ้า แต่พี่ชายพบว่าอัตราการหายจริงๆ นั้น น้อยมากเหลือเกิน จนพี่ชายไม่แน่ใจว่า วิธีการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน (เช่น ใช้ยาควบคุมสารในสมอง) จะำทำให้คนไข้หายได้จริงๆ หรือไม่? ถ้าคนไข้่ไม่หาย หมอจะรับผิดชอบอะไรบ้าง? หรือกล่าวเพียงว่า "เป็นธรรมดา คนบ้าก็ไม่หายง่ายๆ อย่างนี้แหละ" เพราะแท้จริงแล้ว การรักษาของหมอแผนปัจจุบัน คือ การใช้ยาเพื่อควบคุมระบบการทำงานของสมอง แต่ไม่เคยสนใจเลยว่่า "จิตใจของคนไข้" ได้รับอะไรมาบ้าง มีอะไรอยู่เป็นปมในใจบ้าง ซึ่งหมอจะส่งไปให้ฝ่าย "จิตวิทยา" ดูแลอีกทีครับ ทว่าฝ่ายจิตวิทยาส่วนใหญ่จะจบมาทางจิตวิทยา ซึ่งไม่ได้เีรียนแพทย์มา ถ้าใช้จิตวิทยากับคนปกติ ก็ทำ ได้ครับ แต่พอนำมาใช้รักษาคนไข้ มันเลยกลายเป็นการเรียนรู้ร่วมกันไป ไม่ใช่การรักษาเสียนั่น แต่ว่่า ในโรงพยาบาลที่มีวิทยาการสูงๆ จะเริ่มสนใจการแพทย์ที่กว้างขึ้น มากกว่าแค่การแพทย์แผนตะวันตก ที่เขาเรียกว่า "การแพทย์ทางเลือก" นะครับ คนไหนที่ยึดแต่การแพทย์แผนตะวันตก แสดงว่าเรียนมาแคบครับ คนไหนใจกว้าง เข้าใจหลักการแพทย์ได้หลากหลาย แสดงว่าเรียนมาเริ่มสูงแล้วครับ ฮ่าๆๆ มันก็เป็นอย่างนี้จริงๆ ไม่เชื่อลองไปคุยกับศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ดูก็ ได้ ส่วนคนบางคนที่ทำตัวเหมือนเป็นผู้รู้มาก แต่ดันยึดการแพทย์แบบแขนงเดียวไปไล่ด่าคนนั้นคนนี้ว่าบ้าก็ช่างเขาเถอะึครับ ปล่อยให้โลกแคบต่อไป ถ้าใครมาหาพี่ชายๆ ก็บอกว่าไม่ใช่หมอ รักษาไม่ได้ แต่จะเป็นเพื่อนเขาครับ เราคือเพื่อนมนุษย์ ไม่ต่างกัน คุณจะบ้าหรือไม่ ก็ไม่ต่างจากใครทุกคนบนโลกนี้ เรามาเรียนรู้เพื่อการพัฒนาไปพร้อมๆ กันครับ และพี่ชายเชื่อว่า "มันไม่ใช่ความบ้า" มันเป็นเพียงด่านสำคัญที่จะต้องผ่านไปให้ได้ อย่าจมปลักอยู่กับมันตลอดไป แล้วคุณจะได้พบกับโลกใบใหม่ ที่รอคุณอยู่ คุณคือผู้มีพลังพิเศษที่จะใช้สร้างสรรค์ให้โลกนี้น่าอยู่ต่อไป นี่ไม่ใช่คำปลอบใจ แต่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นครับ
เอาละ พี่ชายมีธุระไปจีบสาวๆ เอ้ย ไม่ช่าย มีธุระไปเม้าืท์่ต่อเว็บอื่นๆ เลยไม่กวนเวลาผู้อ่านมากแล้ว สรุปสั้นๆ คือ "ถ้าพบเจอด่านสำคัญก็พยายามผ่านมันไปให้่ได้" แล้ว "พลังพิเศษในตัวคุณ มันจะตื่นขึ้นมาทำงานเอง" นะครับ สำหรับวันนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ