อย่างแรก อยากจะเม้าท์ให้ทราบก่อนว่าพลังงานบางชนิด เป็นกลุ่มพลังงานที่คนทั้งหลายสามารถรับได้เหมือนๆ กัน เป็นล้านๆ คนเลย ก็ได้ครับ แต่มันจะมีระดับชั้นของพลังงานไม่เท่ากัน โดยจะมีพลังที่เรียกว่า "ระดับราชัน" อยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นจากทั้งหมดของกลุ่มพลังงานนั้นๆ เหมือนกับผึ้งรังหนึ่งจะมีพญาผึ้งแค่ตัวเดียวนะครับ ทีนี้ โดยลักษณะพื้นฐานของพลังงานแล้ว จึงมีลักษณะที่คล้ายกันเป็นกลุ่ม หรือมีคนที่ได้รับพลัง, ความสามารถพิเศษ ในลักษณะเดียวกันได้ แต่คุณสมบัติและระดับความสามารถ จะไม่เท่ากัน สูงสุด จะอยู่ที่พลังของราชัน นั่นเอง และหลายครั้งเราจะพบว่าคนที่ได้รับพลังระดับนี้ ก็จะได้เป็นหัวหน้าหรือเจ้าขององค์กร, ระบบ ฯลฯ อะไรสักอย่างนะครับ
ดังนั้น ในการเลือกใช้พลังบางท่านอาจไปได้ดีกับพลังบางชนิดแล้วพัฒนาความสามารถของตนขึ้นไปตามลำดับ จนกว่าจะถึงชั้นราชัน ก็ได้ครับ เหมือนคนที่ทำงานอยู่ที่เดียวตลอด ไม่เปลี่ยนงานไปไหน เลยอย่างไรละครับ ทว่า บางคนอาจเปลี่ยนแปลงกลุ่มพลังงานที่ใช้ ไปใช้พลังงานอย่างอื่นแทนก็มี ซึ่งเขาก็อาจจะต้องเริ่มต้นในการที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แต่ก็ไม่ยากเกินไปครับ ถ้าผ่านการฝึกฝนและการใช้พลังงานบางกลุ่มมาแล้ว พลังงานกลุ่มอื่นๆ ที่ต่างกัน ก็ใช้หลักการไม่ต่างกันนะครับ อย่่างเช่น ในคนที่ย้ายงานจากบริษัทหนึ่งไปสู่บริษัทหนึ่ง อะไรประมาณนั้นนะครับ ในแต่ละบริษัทหรือองค์กร จะมีพลังงานที่หนุน, รักษา, ค้ำจุน ฯลฯ มันอยู่ครับ เข้าไปทำงานก็จะได้รับสืบทอดพลังงานเหล่านั้นมาได้ บางทีจะได้รับจากระดับตื้นๆ ต้นๆ ก่อนนะครับ จนกว่าจะไต่ระดับไปถึงขั้นพลังระดับราชัน หรือบางคนอาจเปลี่ยนไปรับพลังงานกลุ่มใหม่แทนก็ได้ครับ ซึ่งพลังงานทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงได้ ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ครับ ทั้งนี้ พลังงานที่อยู่ในบริษัท, องค์กร ฯลฯ ต่างๆ มักเ็ป็นกลุ่มพลังงานมืด ส่วนพลังงานธรรมชาติของโลกที่ไม่ใช่กลุ่มพลังงานมืดจะหายากกว่า หรือหาไม่ได้ ในระบบ, องค์กร, บริษัท ต่างๆ มักจะอยู่ตามธรรมชาติ เช่น ถ้ำ, เกาะ, ป่าเขา, หน้าผา ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลและมีอิทธิพลต่างกันครับ
ดังนั้น การได้รับ "พลังงาน" จึงสามารถได้รับมาจากหลายแหล่งมาก เช่น จากคนสู่คน ถ่ายทอดให้แก่กัน, จากธรรมชาติไหลถ่ายเทไปยังบุคคล ฯลฯ เป็นต้น การได้รับการถ่ายทอดพลังงานแบบไหน จะทำให้เรามีลักษณะหรือได้รับอิทธิพลตามนั้นไปได้ครับ เช่น พลังงานจากที่ทำงาน ทำให้เรามีลักษณะเป็นคนทำงาน, พลังงานตามถ้ำ อาจทำให้เรามีชีวิตเหมือนฤษีที่อยู่ตามถ้ำได้ แต่ที่แตกต่างมากกว่าพลังงานในแบบอื่นๆ คือ "พลังจักรวาล" ที่จะส่งตรงมาจากจักรวาล ซึ่งอยู่นอกโลก ทำให้ผู้ืี่ที่ได้รับไปแล้ว มีพฤติกรรมเหมือน "คนหลุดโลก" ได้ คือ จะทำตัวไม่เหมือนปุถุชนคนทั่วไปในโลก อาจทำหน้าที่ตามแบบอันแตกต่างไปจากคนทั่วไป และอาจมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับโลก ก็ได้ บางครั้ง การเปลี่ยนแปลงกลุ่มพลัง อาจทำให้เราสูญเสียสภาวะผู้นำได้ เช่น ถ้าเราเปลี่ยนไปใช้พลังงานในกลุ่มที่มีระดับสูงขึ้น จากเดิมที่เราอาจไต่ระดับไปชั้นรองราชันได้แล้ว อีกนิดเดียวเราจะได้รับพลังงานระดับราชัน แต่เราเปลี่ยนไปรับพลังงานในกลุ่มที่เหนือกว่าแล้วเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่แทน เราก็จะตกอันดับ กลายเป็นเหมือนพวกตัวเล็กตัวน้อยได้ เช่น เดิมเป็นรองผู้อำนวยการ เกือบจะได้เป็นผู้อำนวยการอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนไปเล่นการเมือง ก็อาจจะต้องกลายเป็นได้แค่เพียง "สมาชิกพรรค" เท่านั้น เริ่มต้นจากไม่มีตำแหน่งสำคัญอะไรในพรรคก่อน เป็นต้น นี่คือ ผลกระทบอย่างหนึ่งของการเปลี่ยนพลัง
เอาละ ท่านไหนที่จะเปลี่ยนกลุ่มพลังงานหรือจะใช้พลังงานกลุ่มเดิมเพื่อไต่เต้าไปให้ถึงระดับ "ราชัน" ก็แล้วแต่จะพิจารณากันเองนะครับ ทุกอย่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเองทั้งนั้น ผมก็คงจะแนะนำได้เพียงข้อมูลเบื้องต้นอย่างนี้ แต่เดี๋ยวนี้ "พลังระดับราชัน" มันมีให้เลือกเยอะนะครับ เหมือนการได้เป็นเจ้าของกิจการ มันก็มีกันได้เยอะ เป็นกันได้เยอะครับ เคยได้ยินสุภาษิตจีนว่า "เป็นปากหมา ดีกว่าเป็นตูดมังกร" อะไรประมาณนั้น (หากผิดพลาดต้องขออภัย) แต่ใครจะไปชอบหรือเลือกอะไร ก็แล้วแต่ท่านแล้วกันครับ สำหรับบทความวันนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก มาเร็ว เคลมเร็วครับ โฮ่ๆๆ ยังไม่ถึงเวลานอน สวัสดีครับ
เคยได้ยินแต่ว่า เป็นหัวงูดีกว่าเป็นหางมังกร ไม่ใช่เรอะ?
ตอบลบไม่รู้ครับ จำไม่ค่อยได้ ถ้าเขียนผิด ขออภัยด้วย
ลบชาวไซย่าแบบดราก้อนบอล มันมีไม๊ครับ ผมอยากจะลองเชื่อมต่อพลังงานดู
ตอบลบลองดูเองสิ
ลบ