วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

พลังคลื่นเสียงเงียบสะท้านโลกันต์!

วันนี้ จิตใจผ่องใสมากจริงๆ ถึงมากที่สุด แต่ไม่รู้จะเล่นมุขอะไรละ 555 เอาเป็นว่าเข้าเรื่องของเราวันนี้เลยนะ เป็นเรื่องของพลังคลื่นเงียบ อ๊ะ ยังไง? คลื่นเีสียงอะไรถึงได้เงียบ? ไม่ได้ยินแล้วจะเป็นเสียงได้ยังไง? เอ้า ไม่รู้สิ มันลึกลับอ่ะ ถ้าอยากรู้ ก็คงต้องอ่านดูแล้วแล้วสินะครับ 


อย่างแรกพี่ชายอยากจะขอปูพื้นฐานก่อนว่า "คลื่นเสียง" ก็ไม่ต่างจากคลื่นแสงตรงที่มีทั้งที่สังขารมนุษย์รับรู้ได้และไม่ได้ครับเช่น คลื่นแสง UV มนุษย์ก็มองไม่เห็น ใช่ไหมครับ? เช่นกัน คลื่นเสียงก็มีทั้งที่หูของมนุษย์ได้ยินและไม่ได้ยิน อนึ่ง แม้คลื่นเสียงที่หูของมนุษย์ได้ยิน จะมีผลกระทบต่อจิตใจขับดันให้คนเกิดพฤติกรรมต่างๆ ได้ก็จริง ทว่าคลื่นเสียงที่หูของมนุษย์ไม่ได้ยินนั้น "กลับมีพลังเหนือกว่า" ซึ่งพี่ชายจะขอเรียกคลื่นเสียงที่หูของมนุษย์ไม่ได้ยินเหล่านี้ว่า "คลื่นเสียงเงียบ" นะครับ ซึ่งคลื่นเสียงทั้งหมดไม่ว่าหูมนุษย์จะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ตาม ล้วนมีต้นกำเนิดมาจาก "การสั่นสะเทือน" แล้วการสั่นสะเทือนนี้เอง ก็มีเหตุมาจาก "การกระทบกระทั่ง" (ภาวะทุกขัง) นั่นเองครับ ดังนั้น ทุกอย่างในโลกซึ่งเดิมก็ล้วน อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา อยู่แล้ว ย่อมไม่พ้นไปเสียจากการกระทบกระทั่งกันได้ เช่นนี้ ทุกอย่างในโลกจึงล้วนเป็น "ต้นกำเนิดเสียง" ทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากใบไม้ไหว, สายน้ำหลั่งริน, ลมผ่านภูผา, ดอกหญ้าไหวเอน ฯลฯ หรือแม้กระทั่งคลื่นเสียงที่มาจากการกระทบกระทั่งกันของพลังจิตในมนุษย์แต่ละคน และเพื่อให้เห็นภาพโลกแห่งคลื่นเสียงนี้ง่ายๆ พี่ชายอยากให้เราลองนึกถึงว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางวงโอเปร่าอยู่นะครับ โดยทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้คือ "เครื่องดนตรี" ที่กำลังบรรเลงประสานเสียงกันอยู่ รวมทั้งเราเองก็คือ "เครื่องดนตรีชิ้นหนึ่ง" ซึ่งบรรเลงประสานอยู่้ด้วยตลอดเวลา ทีนี้  เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นมีท่วงทำนอง หนักเบา, ค่อยดัง, สูงต่ำ, โดดเด่นไม่เท่ากันครับ เราเองก็อาจกลายเป็นเพียงเครื่องดนตรีชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ค่อยได้มีผลกับการบรรเลงของวงดนตรีนี้ทั้งวงมากนักเลยหรือบางคนอาจเ็ป็นเหมือนเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญมาก และมีผลต่อการบรรเลงในวงดนตรีนี้มาก เอาละ ทีนี้ คำถามก็คือ "แล้วทำอย่างไรเราจึงจะมีสิทธิ์มีเสียง มีพาวเวอร์ในวงดนตรีนี้ได้มากขึ้นละ?" หรือ "จำเป็นไหมที่เราจะต้องเด่นดังที่สุดอยู่ตลอดเวลา?" คำตอบคือ เราไม่จำเป็นที่จะต้องโดดเด่นตลอดเวลาก็ได้ เพราะวงดนตรีนั้น "มีจังหวะของมัน" มันย่อมมีขึ้นมีลง เราเหมือนเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งย่อมมีขึ้นมีลง เฉกเช่นกันครับ


อย่างที่สอง พี่ชายจะกล่าวถึง "เคล็ดลับในการทำให้พลังของเรา ซึ่งเป็นเหมือนเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่ง" ส่งผล หรือมีอิทธิพลต่อทั้งวงได้มากขึ้น เรียกว่าเราจะได้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น นั่นเอง ตามจังหวะโอกาสที่ควร ที่พร้อม ที่เหมาะสม นะครับ เมื่อจังหวะโอกาสนั้นมาถึงแล้ว มันก็เป็นทีของเราที่จะเล่นดนตรีของเรา ให้ได้ดีที่สุด ดังที่สุดและโดดเด่นที่สุดครับ คำถามคือ "แล้วทำยังไงเล่า?" อย่างนี้ครับ ถ้าคุณจะเป็นนักดนตรีที่ดีได้ อย่างแรก คุณต้องเริ่มจากการฟังให้เป็นก่อน ฟังให้ออกว่าเขาเล่นดนตรีบทไหน? เพลงอะไรกันอยู่? คุณจึงจะร่วมบรรเลงกับเขาได้ ใช่ไหมครับ? ดังนั้น เคล็ดลับแรกของพี่ชายคือ "การเงียบเพื่อฟังเสียงทุกสรรพสิ่ง" ครับ (นั่นคือ วิถีกวนอิืม การเพ่งเสียงสรรพสัตว์ นั่นเอง) ซึ่งเราจะฟังทุกคลื่นเสียงนะครับ ไม่ว่าจะได้ยินหรือไม่ได้ยิน ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ก็ตาม เมื่อเราเงียบ เราปิดปาก เราสงบปากสงบคำแล้ว เราจะ "เปิดใจ" ของเราครับ ย้ำนะครับว่าเราจะใช้ใจในการฟัง ไม่ใช้หูในการฟังนะครับ เมื่อเราปิดปากแล้วเปิดใจฟัง เราก็จะค่อยๆ จับเสียงอะไรก็ได้ที่ใจเราสัมผัสได้ง่ายที่สุดก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนาไปจนได้ยินเสียงมากมายที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไปครับ เอาละ ทีนี้ เราก็จะเริ่ม "ฟังออกแล้วว่าโลกกำลังบรรเลงเพลงอะไร" เราจะเข้ามาดู "ตัวโน้ตเพลงของเรา" บ้าง ว่าเราได้รับ "บทเพลง" อะไร และเราจะต้องเล่นเพลงในบทบาทอย่างไร? เราเห็นความไม่เที่ยง ขึ้นๆ ลงๆ คือ "จังหวะของโลกจังหวะของชีวิต" ชัดเจนแล้วเราปรับตัวเข้ากับจังหวะเหล่านั้นได้แล้ว เรากำลังจะประสานเสียงเครื่องดนตรีของเรา เข้ากับเสียงดนตรีของโลกครับ เมื่อเราเล่นไม่เป็น มันไม่มีอะไรผิดเลยครับ ก็แค่กลายเป็น "เสียงประกอบเล็กๆ" ก็เท่าันั้นเอง แต่เมื่อใดเราเิริ่มเล่นเป็นแล้ว เราก็จะกลายเป็น "เครื่องดนตรีชิ้นสำคัญไปได้ในที่สุดครับ


เอาละ นี่คือ เคล็ดวิชาพิณเก้าอิมเชียวนะ ซึ่งการฝึกใช้พิณให้เกิดผลนั้น นับเป็นขั้นพื้นฐานของวิชานี้ แต่เมื่อใดที่เราได้เคล็ดวิชาของท่านต๊กโกวฉิวไป่ (ฝึกถึงขั้นไร้กระบี่) เราจะสามารถใ่ช้พลังเสียงนี้่ได้โดยไม่้ต้องมีเครื่องมือ หรือเครื่องดนตรีใดๆ แม้แต่พิณก็ไม่มี แม้แต่เน็ต ก็ไม่ต้องใช้ การสื่อสาร การพูดใดๆ ก็ไม่ต้องมีครับ "มันคือเสียงเงียบที่ทรงพลังอันสมบูรณ์" และจะมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อโลกนี้ทั้งโลกเลยละครับ โฺ่ฮ่ๆๆ โอเว่อร์เกินไปป่าวเนี่ย? ฮ่าๆๆ ไม่รู้สินะ ของอย่างนี้ มันต้องทดลองก่อนถึงจะทราบผลการทดลองได้ เอาละ พี่ชายเม้าท์มาจนดึกพอควรแล้ว เห็นทีจะต้องไปพักก่อน มีธุระต้องทำด้วย ราตรีสวัสดิ์ครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน