วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

มหัศจรรย์พลัง "มงกุฏพระพุทธเ้จ้า"!

มีเรื่องน่าโมโหชะมัดเลยอ่ะพี่ชายถูกคนตามจับผิดน่ะ คิดดูนะ แค่โพส กระทู้เขาก็หาว่าเราผิดแล้ว ทีคนอื่นเขาก็โพสกระทู้กันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่เห็นจะมีความผิดอะไร ทีพี่ชายเขียนมั่ง กลายเป็นความผิด ทั้งๆ ที่คนเราย่อมมีความคิดเ็ห็นเป็นของตัวเอง แตกต่างกันได้แท้ๆ แต่ของคนอื่นละ ทำไมไม่เห็นใครไปจับผิด ทีของพี่ชายบ้างกลับโดนจับผิดอ่ะ โดยเฉพาะพวกกระทู้ธรรมะอะไรเนี่ย? โดนประจำเลย พี่ชายอยากจะรู้ว่าพี่ชายผิดตรงไหนอ่า? แล้วในที่สุด พี่ชายก็ยอมรับความจริง ความผิดทั้งหมดมาจากพี่ชายเองหละ ผิดที่สุดในโลกเลย เพราะอะไรรู้ไหม? ทำไมพี่ชายถึงคิดได้อย่างนั้น พี่ชายจะเล่าให้ฟัง ตอนที่พี่ชายยังเด็กอ่ะ พี่ชายก็แก้ผ้าอาบน้ำโชว์หนอนน้อย ไม่เห็นจะมีความผิดอะไรเลย แต่ตอนนี้หนอนน้อยก็เติบโตกลายเป็นบิ้กโค้กไปแล้ว ถ้าพี่ชายทำเหมือนตอนเป็นเด็กอีก พี่ชายก็จะมีความผิด และโดนตำรวจจับแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้พี่ชายทราบซึ้งในรสพระธรรมความจริงที่ว่า "เพราะบิ้กโค้กพี่ชายจึงมีความผิด" นั่นแหละ พี่ชายจึงต้องยอมรับว่า "พี่ชายผิดที่สุดในโลกเลย" ผิดกว่าสีเหลืองที่ยึดสนามบิน ผิดกว่าเสื้อแดงที่เผาห้าง ผิดกว่าทักษิณ ผิดกว่าใครๆ ทั้งหมด เพราะ "บิ้กโค้ก" นี่เอง เอาละ พี่ชายไม่ถือสา ใครจะว่าเรา จับผิดเรา พี่ชายยอมรับความผิดแล้ว Ok กลับมาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่านะ วันนี้เป็นเรื่องของ "มงกุฏพระพุทธเจ้า" ซึ่งเป็นของทิพย์อย่างหนึ่งนะครับ ซึ่งสิ่งนี้ จะมีพลังพิเศษอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง เรามาติดตามกันเลยครับ


อย่างแรก พี่ชายอยากจะปูพื้นฐานก่อนนิดหนึ่งครับ กล่าวคือ มงกุฏพระพุทธเจ้านี้ เป็นของทิพย์ชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเหมือนมงกุฏคือใช้ประดับศีรษะนี่แหละ เพียงแต่จะมีรูปร่างเหมือนดอกบัวโดยแต่ละกลีบของดอกบัวจะมี "รูปพระพุทธเจ้า" นั่นเอง ถ้าใครนึกภาพไม่ออกละก็ ให้นึกถึงมงกุฏที่พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์สวมอยู่นะครับ ครั้งหนึ่งตอนที่สามเณรรูปหนึ่งไปเที่ยวสวรรค์ เขาไปแวะวิมานเก่าของพี่ชาย แล้ว ไปเจอมงกุฏแบบนี้เข้า เขาบอกว่ามันมีตั้งสามชั้นแน่ะ คือ เหมือนบัวที่บานมีกลีบซ้อนกันสามชั้นน่ะครับ อันนี้ จะแตกต่างจากที่เราเห็นในรูปทั่วๆ ไปที่จะวาดไว้มีชั้นเดียวนะครับ เอาละ ของแบบนี้ ปกติจะมีได้ในพระโพธิสัตว์นะครับ แต่ละองค์ก็มีด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่แตกต่างกันไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง ของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ มักมีลักษณะเป็นเหมือนพระเกี้ยว (ประดับจุกผม) และจะมีกลีบบัวกลีบเดียว ซึ่งจะมีรูปพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น มีแต่ของพระกษิติครรภ์ที่เว่อร์ไปหน่อยที่จะมีกลีบดอกบัวโดยรอบเลยครับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนมาจากการบำเพ็ญบารมี นั่นเอง โดยขึ้นอยู่กับ "ความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นสำคัญ" ถ้าพระโพธิสัตว์องค์ไหน มีความศรัทธาแน่วแน่ถึงขั้นตรงต่อพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งได้จริงๆ ผ่านด่านมารแปลงได้จริงๆ (มารจะแปลงร่างเป็นพระพุทธเจ้ามาทดสอบเราก่อนครับ ถ้าเราผ่านด่านนี้ได้ จึงจะได้รับมงกุฏพระำุพุทธเจ้า ๑ องค์ แสดงถึงจิตที่ศรัทธาตรงต่อพระพุทธเจ้าพระองค์ันั้นๆ) แต่ถ้าเราหลงมารแปลงอยู่ เราไม่รู้ว่านั่นคือมารแปลงร่างเป็นพระพุทธเจ้า เราก็จะยังไม่ผ่านการทดสอบ เราก็จะยังไม่ได้รับตรงนี้นะครับ เห็นไหมครับว่าของแบบนี้ ไม่ไ่ด้มาได้โดยง่ายๆ เลยละ ทว่า ท่านที่เคยได้แล้ว หรือได้มาแล้วครั้ง ๑ ก็ง่ายที่จะได้ครั้งต่อๆ ไป บางท่านก็เลยได้ซะโอเว่อร์เลย 555 ล้อเล่นขำๆ นะครับ ในขณะที่บางองค์ก็ไม่ได้เลยก็มีครับ เพราะท่านอาจไม่ได้มีจิตที่ศรัทธาตรงต่อพระพุทธเจ้าขนาดนั้น หรือบำเพ็ญบารมียังไม่ผ่าน


อย่างที่สอง เราจะมาดูกันว่ามงกุฏพระพุทธเจ้านั้น ใช้ทำอะไรได้บ้าง? คำตอบคือ ไม่ได้ใช้่ประดับบารมีดูให้สวยงามอะไรแค่นั้นนะครับ ของทิพย์ทุกอย่างมีพลังพิเศษเฉพาะตัวของมันทั้งนั้นครับ แตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน โดยมงกุฏพระพุทธเจ้านี้ จะทำหน้าที่เหมือน "จานดาว เทียม" รับสัญญาณช่อง "พระพุทธเจ้า" โดยตรง สามารถรับธรรมจากพระพุทธเจ้าได้โดยตรงผ่านของทิพย์ชนิดนี้ครับ เพื่อแค่จิตแน่วแน่ไปถึงท่านๆ ก็จะส่งธรรมสื่อมาถึงเราได้ทันทีครับ เหมือนเครื่องมือรับสื่อของเราในยุคปัจจุบันนี้ นั่นเอง ซึ่งเวลาเราฝึก เราอาจจะเริ่มฝึกโดยใช้การเปิดจักระที่ ๗ ก่อนก็ได้ครับ ตรงนี้เราจะนึกถึงดอกบัวพันกลีบหมุน อยู่บนศีรษะก็ได้ครับ แล้วค่อยๆ พัฒนาไปสู่การเปิดรับสัญญาณธรรม โดยตรงจากพระพุทธเจ้า จนมีจิตศรัทธา บำเพ็ญเพียรผ่านด่านแล้วก็จะได้รับมงกุฏพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าเราไม่ไ่ด้ฝึกเปิดจักระนั้นก็ได้ครับ (การฝึกเปิดจักระ ถ้าทำได้ถูกต้อง สำเร็จ ก็ดีไป แต่ถ้าทำผิดก็อาจเกิดโทษภัยได้เหมือนกันควรระวังด้วยครับ) โดยการที่เราเริ่มต้นจากความศรัทธาที่ถูกต้องตรงทางแน่วแน่ เป็นกำลังสำคัญ จากนั้นจึงบำเพ็ญเพียร ให้ผ่านด่านการทดสอบให้ได้ เราก็จะแยกแยะระหว่างมารแปลงกับพระพุทธเจ้าได้ ในที่สุด เมื่อเราแยกแยะได้แล้ว เราจะไม่หลงมารแปลงเราจะสามารถรับสัญญาณธรรมจากพระพุทธเจ้าได้โดยไม่ต้องกังวลแล้วครับ ข้อดีของการใช้วิธีนี้คือ เราไม่จำเป็นต้องมีธรรมผ่านตำราใดๆ เพราะการใช้่ธรรมะผ่านตำราใดๆ ไม่ใช่วิถีของพระพุทธศาสนา หรือพระพุทธเจ้าองค์ใดๆ เลยครับ เป็น "วิถีของพระมัญชุศรี" ก็เท่านั้นเอง เป็นแนวทางการบำเพ็ญธรรมของพระโพธิสัตว์องค์นี้ ก็เท่านั้น ส่วนองค์อื่นๆ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้า ล้วนไม่จำเ็ป็นต้องหลงตำราอะไรครับ ท่านจะใช้วิธีการอื่นๆ เ่ช่น พระกวนอิมใช้การเพ่งเสียง (วิถีกวนอิม) ท่านก็จะเปิดหูทิพย์แล้วได้ยินพระธรรมจากพระพุทธองค์ทรงโปรดโดยตรงครับ ส่วนท่านที่ใช้มงกุฏพระพุทธเจ้านี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดหูทิพย์ตาทิพย์เลย มันเด็ดสุดยอดมากกว่านั้นครับ เพราะพลังธรรมของพระพุทธเจ้าจะส่งผ่านมาทางมงกุฏได้โดยตรง แล้วเราก็ถ่ายทอดต่อไปได้เลย เหมือนดูทีวีถ่ายทอดสด ผ่านดาวเทียมอะไร ทำนองนั้นอ่ะ และที่สำคัญไม่ใช่ "การเข้าทรงพระพุทธเจ้า" นะครับ ก็อย่าไปใส่ร้ายใครว่าอย่างนั้น "กรรมมันจะเข้าตัวเอาไม่รู้ด้วยนะ" หุๆๆ อ้อแล้วข้อดีของมงกุฏพระพุทธเจ้านี่อาจเหนือกว่าของทิพย์อื่นๆ ก็ได้ ไม่รู้นะเพราะเป็นขุมปัญญาญาณของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่เราอยากจะทราบอะไร ก็ถามเอาได้เลยอ่ะ ทำให้รู้ถึงของทิพย์อื่นๆ ด้วยไงละ


เอาละ วันนี้ พี่ชายเม้าท์มายาวพอควร นึกถึงประวัติของพระถังซัมจั๋ง ซึ่งท่านคือ ภาคอวตารหนึ่งของพระกษิติครรภ์ ที่พยายามไปอัญเชิญพระคัมภีร์มาจากแดนไกล แล้วบังเอิญโดนลมพายุพัด คัมภีร์ตกน้ำจนหมึกละลายอ่ะ อ่านไม่ออก แล้วท่านก็เลยต้องแปลมันทั้งยังงั้นอ่ะละ แปลจนตาบอดเลยนะ จริงๆ แล้วพี่ชายคิดว่าธรรมชาติกำลังจะบอกแก่พระถังซัมจั๋งว่า อย่ายึดติดตำราเลย นั่นมันเป็นวิถีของพระมัญชุศรีเขา ไม่ใช่วิถีของท่าน ท่านสามารถรับชมการถ่ายทอดสด การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้าผ่านจานดาวเทียม เอ้ย ไม่ใช่ ผ่านวิถีของท่านเองคือ "มงกุฏพระพุทธเจ้า" ได้ ก็เท่านั้นเอง จบแค่นี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ



8 ความคิดเห็น:

  1. ทำยังไงถึงจะปลุกพลังกุณฑาลินีได้อ่ะครับ ผมอยากให้มันตื่นขึ้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พลังงานนี้ตื่นไม่ยาก เพราะจะตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว


      พลังนี้เป็นพลังเกี่ยวข้องกับเพศโดยตรง ตามธรรมชาติจะถูกปลุกเมื่อ
      มีความรู้สึกทางเพศ แต่จะไม่มาก ปกติ พลังงานนี้ จะถ่ายไปเมื่อมีการ
      หลั่ง พลังจะออกไปทางจักระหนึ่งด้านหน้า


      สำหรับโยคี จะฝึกดึงพลังนี้ไปส่วนอื่นๆ ได้ หรือเก็บสะสมไว้ได้โดยไม่
      ให้ถูกปล่อยออกไปขณะเกิดการหลั่ง จะไม่เสียพลังไป และทำให้สังขาร
      ดูอ่อนเยาว์ได้ (คนที่เสียพลังงานนี้มากๆ ร่างกาย อาจดูโทรมเร็วครับ)

      ลบ
  2. ผมอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับปีศาจน่ะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พอดีสมาชิกส่วนใหญ่ดูกระทู้แนวนี้น้อยมาก
      (แบบนี้ ประมาณ ๒๐ คน อื่นๆ ๕๐ คนน่ะ)
      เลยเขียนน้อยหน่อยครับ

      ลบ
  3. วิธีจะผ่านด่านพญามารแปลงไปได้ คือ "ท่านต้องเคยเป็นพญามารเสียเอง" แล้วท่านก็จะรู้วิธีรับมือกับมัน รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมมาร ฯลฯ

    (ประมาณว่า ต้องเคยร้าย, เคยชั่ว, เคยเป็นโจรมาก่อน (แล้วมากลับตัวเป็นคนดีในภายหลัง) ถึงจะรู้ทันกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า)

    (ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ 555)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เหมือนวัคซีนไง มันก็สกัดมาจากพิษมาก่อน

      มันถึงได้ "กัน" ได้ไง

      ไม่เหมือนยา ที่ต้องรอให้ป่วยก่อน "ถึงค่อยเข้าไปรักษาน่ะ"

      ลบ
  4. (ก็ อ่านะ..........บางทีก็ไม่จำต้องไปเป็นมารอยู่เสมอไป เพียงแค่ "โดนหลอกอยู่บ่อยๆ" เดี๋ยวก็ฉลาด และจับทางมารได้เองนั่นแหละ)

    (แต่วิธีนี้มักจะไ้ด้ผล ช้าาาาาาาา)

    ตอบลบ
  5. ความยิ่่่่่่่่่่่่งใหญ่ ความร่ำรวย มันไม่ได้บ่งบอกว่าจะมีบารมีมากหรอกนะ เค้าวัดกันหลายเหตุ หลายปัจจัย

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน