วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พลังคลาสสิคของไกอา ที่จะช่วยให้คุณพ้นจากการถูกพลังมืดครอบงำ

อย่างแรก อยากให้คุณตรวจเช็คก่อนนะครับ ว่าคุณถูกพลังมืดครอบงำมากน้อยแค่ไหนแล้ว ผมก็เลยลองยกตัวอย่างขึ้นมา ๑๐ ข้อครับ ให้คุณลองสำรวจตัวคุณเองดูว่าคุณมี ๑๐ ข้อเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมาก แสดงว่าคุณอยู่ในภพมืดมาก นั่นเอง ลองสำรวจดูได้เลยครับ


๑. คุณเป็นทาสของเวลา ต้องทำอะไรตามเวลาหรือเวลามีผลต่อชีวิตของคุณอย่างยิ่ง เช่น เวลานัด, วัน-เวลา พิเศษ คุณหวั่นไหวกับเวลาและตัวเลขบ่งบอกเวลาเหล่านั้นมากจนสูญเสียความเป็นตัวเอง

๒. ชีวิตกลางแจ้งของคุณลดลง (Outdoor living) คุณเริ่มถูกผนังและกำแพงที่สร้างโดยมนุษย์ แยกคุณจากท้องฟ้า, ผืนดิน, ผืนน้ำ ฯลฯ จนพลังธรรมชาติไม่อาจเชื่อมโยงถึงพลังชีวิตของคุณได้เท่าเดิมอีกแล้ว

๓. ชีวิตกลางคืนของคุณเพิ่มขึ้น เช่น คุณมีกิจกรรม, งาน, หรือการใช้ชีวิตหลัง ๓ ทุ่มขึ้นไป คุณก็ยังไม่นอน ยิ่งคุณมีชีวิตกลางคืนยาวนานมากเท่าไร คุณก็ถูกพลังมืดดูดกลืนเข้ามา ยิ่งมากเท่านั้นด้วยเช่นกัน

๔. คุณมีเจ้านายเหนือหัว ซึ่งไม่เคยทำให้คุณมีปัญญาทางธรรมสูงขึ้น ตรงข้าม มีแต่จะทำให้คุณโง่ลง และยอมเป็นข้าทาสชั้นดี ยอมจำนนต่อคุณอย่างง่ายดายต่อไป เพื่อเงินเดือน คุณต้องยอมเขามากขึ้น 

๕. คุณอยากได้อะไร ก็ได้เลยในชาตินี้ แต่เสียที มันมักตามมาด้วยสิ่งที่ทำให้คุณวุ่นวายในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่า "ยิ่งได้ กลับยิ่งทุกข์" บางครั้ง คุณอาจจะได้เป็นเจ้าคนนายคน เหนือคนอื่น ด้วยซ้ำไป?

๖. คุณถูกพันธนาการด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย เรียกว่า ถ้าจะให้คุณตัดใจไปบวชพราหมณ์ปฏิบัติธรรมสัก ๑ เดือนละก็ เป็นไปไม่ได้แน่ สิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนนามธรรม มองไม่เห็น แต่มีอยู่ มีอิทธิพลต่อชีวิตจริงๆ

๗. คุณไม่มีอิสระที่จะคิด, พูด หรือทำได้อย่างสัตว์โลกตัวหนึ่ง บางทีก็ต้องรอให้ใครสักคนหรือสักกลุ่มหนึ่งตัดสิน, คัดกรอง, อนุญาติ ฯลฯ ก่อนคุณจึงจะสามารถคิด, พูด หรือทำในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเองได้

๘. คุณเริ่มติดความสมบูรณ์แบบโดยไม่รู้ตัว เช่น เสื้อผ้าที่คุณใส่ ถ้ามีผงฝุ่นติดหรือยับบ้างก็มองว่าไม่เรียบร้อย คุณไม่ได้มองว่ารอยฝุ่นหรือรอยยับคือ "รอยยิ้มน้อยๆ ของโลก" ที่บ่งบอกว่าคุณยังอยู่บนโลกนี้

๙. คุณเริ่มมีตัวตน ปรากฏในมิติที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ เช่น โลกออนไลน์ และคุณต้องเสียเวลาหล่อเลี้ยงมัน หรือเหมือนว่าต้องทำให้มันมีชีวิตดำรงอยู่จริงๆ มีสังคมออนไลน์ เข้ามาแทนที่ตัวตนจริงๆ ของคุณเอง?

๑๐. คุณมักต้องแลกหรือสูญเสียบางสิ่งไป เพื่อได้สิ่งที่คุณต้องการมา เช่น เมื่อคุณได้งานที่คุณต้องการ คุณอาจจะต้องย้ายที่อยู่และจากไปจากครอบครัวของคุณ จนไม่อาจดูแลพ่อแม่ของคุณได้ดังเดิมอีก


เอาละ อันนี้เป็น ๑๐ ข้อ ให้ลองตรวจเช็คกันเล่นๆ ก่อนครับว่าคุณอยู่ในกลุ่มที่ถูก "พลังมืดครอบงำ" มากน้อยแค่ไหน แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไปละ ถ้าคุณมีครบทั้ง ๑๐ ข้อเลย ไม่แปลกหรอกครับ คนยุคปัจจุบันก็มีกันเยอะครับ (ดีใจไหมครับ คุณมีเพื่อนมากเลย ที่จะไปอยู่ในภพมืดกับคุณและไม่ได้ผุดไ้ด้เกิด?) คุณสามารถเอาตัวออกจากมิติมืดนี้ได้ครับ แต่ผมไม่ได้ให้คุณมีทัศนคติเชิงลบกับมิติมืดนี้หรอกนะครับ มันก็คือธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่อยู่ในโลกนี้มานานแล้ว และหลายคนก็ยังอยู่กับภพมืดนี้ต่อไป ผมเพียงแค่บอกคุณ เผื่อว่าคุณพร้อมที่จะออกมาข้างนอกภพมืดบ้าง ได้เห็นแสงสว่างบ้าง แล้วจะเข้าๆ ออกๆ ภพมืดบ้าง, สว่างบ้าง ก็ค่อยว่ากันไปอีกที ถ้ามีปัญญาแจ้งดีแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวครับ เข้าๆ ออกๆ ก็ได้ เหมือนผมนี่ไง เวลาทำงานเว็บก็อยู่ในภพมืดแหละครับ (เลยได้เจอคุณผู้อ่านไงละ) แต่ผมไม่ไ่ด้ยกเวลาทั้งชีวิตให้กับหน้าจอคอมฯ นี่สักหน่อย ผมมีเวลาส่วนตัวไปทำอะไรกลางแจ้ง เป็นกิจกรรมกลางแจ้งทุกวันแหละครับ (แต่ว่านะ ตั้งแต่ได้คอมฯ และเน็ตฯ เข้าบ้านมานี่ ผมต้องเสียช่วงเวลาตอนเช้า ที่เมื่อก่อนเคยได้ขี่จักรยานกลางแจ้ง ผ่านแสงอาทิตย์และแม่น้ำที่สงบเย็น ไปแล้วละ) ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเรามีปัญญาำพอเอาตัวรอดได้, มีบารมีพอจะไม่ถูกภพมืดกลืนกิน การเข้าๆ ออกๆ ภพมืดก็เพื่อฉุดช่วยเพื่อนของเราไงละครับ แต่ว่าถ้าคุณยังไม่กล้าแกร่งพอ จะเลือกอยู่แต่ชีวิตในภพสว่าง ก็ได้ครับ ปลอดภัยดี อย่างชาวนาที่ไม่หลงไปเดินประท้วง นั่นไงครับ (ชาวนาที่ชอบประท้วง, เรียกร้อง ฯลฯ ก็มีบางส่วนในภพมืดเช่นกัน)


เอาละ เกือบลืมเรื่อง "พลังคลาสสิคของไกอา" ไม่ยากครับเหมือนกับชีวิตดั้งเิดิมของบรรพบุรุษเรานี่หละครับ มีชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีชีวิตกลางแจ้ง เรียบๆ ง่ายๆ เหมือนคนโง่ เลอะเทอะเปื้อนน้ำ, เปื้อนดิน, เปื้อนลม, เปื้อนแสงแดด (จนผิวคล้ำ) บ้าง ก็นี่หละ เหล่าชาวโลกที่แท้จริง ที่ได้รับพลังของไกอาเขาหละครับ ไม่ก็ดูแบบเจงกิสข่าน ที่มีชีวิตอยู่กลางทุ่งหญ้าหรือทะเลทราย ที่มีแต่ผืนฟ้ากับผืนดิน (พลังฟ้าดิน) อยู่ตลอดเวลา นั่นก็ได้ เป็นตัวอย่างคลาสสิคมากเลยละครับ อย่าลืมครับว่า "โลกก็คือโลก" มันไม่ใช่สวรรค์ นี่คือโลก มันไม่ได้เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบเหมือน "ดาวพ่้อ" ที่คุณเคยดำรงอยู่ ก่อนที่จะจากมา ดังนั้น มันจะไม่สมบูรณ์แบบไปบ้าง โก๊ะๆ กังๆ ไปบ้าง มันก็คือ "ธรรมดาของโลก" ไงครับ คุณรับได้ไหมละ เมื่อต้องมาอยู่ในโลกเช่นนี้แล้ว มันก็แค่นั้นแหละ แต่ถ้าคุณไม่ชิน "ภาคมืด" ก็จะสร้างระบบเตรียมไว้ให้ท่าน ซึ่งจะจำลองแบบสวรรค์, ดาวพ่อที่ึคุณเคยอยู่ ไว้รอรับคุณให้ เมื่อคุณถูกต้อนเข้าไป โอเค มันยอดเยี่ยม และดูดีกว่าเหล่าชาวโลกธรรมดาๆ ทั่วไปมาก แต่คุณอย่าลืมว่า เขาให้เราจากดาวพ่อ จากสวรรค์มาเกิด เพื่อเรียนรู้อีกสิ่งที่ต่างไปจากที่ๆ เราจากมา นั่นก็คือ "โลกมนุษย์" ซึ่งมันมีอะไร ไม่ได้สวยหรูดูเพอร์เฟคอย่างสวรรค์หรือดาวพ่อของเรานัก เช่น คุณอาจตกใจถ้าเห็น "สัตว์กินสัตว์" และคุณก็ระลึกได้ว่าที่ดาวพ่อ, สวรรค์ที่คุณอยู่ ไม่มีการฆ่าสัตว์กินกัน แล้วคุณก็เลยมาสร้างลัทธิกินผัก, นิกายมังสะวิรัตขึ้นมา เป็นต้น แต่ชาวโลกคนธรรมดาทั่วไป ยากจน ปรับตัวเข้ากับโลก ไม่มีอะไรกิน ไปขุดแมลงกินบ้าง, จับปลามาทำปลาร้าบ้าง โอ้ย นั่นก็คือ "ชาวโลก" ไงครับ ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว ไม่ใช่เทพสวรรค์มาจุติ เอาละ กั้๊กไว้บ้าง เดี๋ยวไม่มีจะเล่า จะเม้าท์เป็นนิทานอาหรับราตรีในคืนต่อไป สำหรับวันนี้ ขอจบลงเท่านี้ก่อน พบกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์และ "สุขสันต์วันคริสตมาส" ครับ 




14 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 ธันวาคม 2555 เวลา 20:54

    เกิน 5 ข้อ น่ะ ดาวพ่อคือสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นเหรอ?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดาวพ่อไม่ได้อยู่ในโลกนี้ สวรรค์หกชั้น อยู่ในโลกนี้ครับ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ26 ธันวาคม 2555 เวลา 11:17

    โลกมนุษย์น่ากลัวมากเลย ยิ่งเวลาดูข่าวคนฆ่ากันทำร้ายกัน รู้สึกกลัวมาก ดาวพ่อคงเป็นแดนสงบสุขน่าอยู่นะ จะสุขเท่านิพพานหรือเปล่าคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ธรรมดาของโลกนะครับ เรามาเพื่อเรียนรู้จักรวาล ดังนั้น ไม่ควรยึดติดแต่ดาวพ่อนะครับ แดนที่สงบสุขก็ดีอย่างหนึ่ง เหมาะสมกับหน้าที่ของเขา แดนที่มีแต่ทุกข์ก็ดีอย่างหนึ่ง เหมาะสมกับหน้าที่เขาเช่นกันครับ


      ส่วนเรื่อง "นิพพาน" ยังไม่อยากพูดมากนะครับ เพราะผมเองก็ยังไม่รีบนิพพาน ควรไว้ให้พระพุทธองค์ทรงเชื่อมต่อธรรมให้ดีกว่าครับ

      ลบ
  3. "๗. คุณไม่มีอิสระที่จะคิด, พูด หรือทำได้อย่างสัตว์โลกตัวหนึ่ง บางทีก็ต้องรอให้ใครสักคนหรือสักกลุ่มหนึ่งตัดสิน, คัดกรอง, อนุญาติ ฯลฯ ก่อนคุณจึงจะสามารถคิด, พูด หรือทำในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเองได้"

    ผมอยากจะหลุดพ้นข้อนี้มากที่สุด อยากเป็นอิสระที่สุดเลย จะหลุดออกมาได้ไงเนี่ย ต้องชำระพลังงานเก่าอีกรึเปล่าครับ คุณต้นหลิว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปบวชก็พ้นไปได้ หรือไปทำนา ไปทำอาชีพที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติ (ไม่ได้มีเงินเดือนเยอะ ไม่มีบ้านหรูๆ รถหรูๆ เสื้อผ้าสวยๆ และไม่ได้อยู่คอนโดฯ)

      ลบ
    2. ตอนผมออกจากระบบทุนนิยม ระบบมืดนั้น สภาพแย่มากครับ เงินทองไม่เหลือเลย คือ คนหรือเจ้านายเก่าผม ไม่ใช่คนไม่ดี แต่จิตวิญญาณเจ้าของระบบทุนนิยม (ลูซิเฟอร์) เล่นงานเอา ผมไม่เหลืออะไรเลย ยังเหลือชีวิตรอด ยังมีจิตวิญญาณพอยืนหยัดได้ ก็นับว่าดีมากแล้ว หลายคนลาออกมาจากระบบทุนนิยม เขานึกว่าพ้นลูซิเฟอร์แล้ว แต่ไม่จริงครับ เขายังไม่ได้หลุดออกมาจากระบบนั้นจริงๆ เลย มันแค่เปลี่ยนรูปแบบหลอกเราเท่านั้นเอง


      ชำระล้างในยามนั้นของผมก็ึืคงเป็น การทำงานทุ่มเท เพราะผมทุ่มเททำงานเต็มที่เลยครับ

      ลบ
  4. เรื่องผลไม้ปีศาจ ผมอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว เอาแค่ ดูยังไงว่านี่เป็นผลไม้ปีศาจ หาได้ที่ไหน แค่นี้ก็พอครับบบ T.T

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ26 ธันวาคม 2555 เวลา 15:00

    โลกคือที่ๆสร้างไว้สำหรับ "การระคน และการปนเปื้อนกันอยู่แล้ว เพื่อให้เหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย มาฉุดช่วยสรรพสัตว์ (โดยการมาระคนและคลุกเคล้ากรรมกับสรรพสัตว์)" ถ้าคุณไม่ชอบหรือปรับตัวไม่ได้ ก็อย่าคิดจะมาอยู่ หรือมาเกิดเลย "ก็อยู่ที่เดิมเหอะ ดีแล้ว"

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ26 ธันวาคม 2555 เวลา 15:26

    โลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวที่เห็นเกลื่อนบนท้องฟ้า เกิดขึ้นเอง หรือมีผู้สร้างขึ้นมา?

    ตอบลบ
  7. เหมือนในหนังเรื่องอวตารเลยเนาะ ชีวิตที่ไ้ด้สัมผัสกับพลังธรรมชาติของโลกใบนี้น่ะ

    เทพเทวดาวทั้งหลายอยากเกิดมาเป็นมนุษย์ เพื่อที่จะสัมผัสกับพลังงานของไกอานี่แหละ แต่มนุษย์สิแปลก ชอบทำตัวเป็นเทวดาเสียเอง

    ตอบลบ
  8. อีกหนึ่งอย่างที่พอจะบ่งชี้ได้ว่า คุณอยู่ในภาคมืดนั่นก็คือ คุณจะหาสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นั่นก็คือ "ความจริงใจ"

    "การพูดจากันตามแบบประสาซื่อแบบชาวบ้าน ชาวช่องทั่วไป"

    เหมือนกับว่ามันเป็นหยดน้ำกลางทะเลทรายอันเหือดแห้งที่หาได้ยากยิ่ง

    หรือไม่ก็คุณะรู้สึกเหมือนกับว่า เป็นตัวอะไรสักอย่างหนึ่ง ในท่ามกลางดงหมู่ของปีศาจ หรืออมนุษย์ (ทั้งที่ร่างกายหยาบข้างนอกเป็นมนุษย์ด้วยกันแท้ๆ)

    ตอบลบ
  9. คนเราพอได้ยินได้ฟังบทความที่เกี่ยวกับ "ซาตาน" เข้าให้แล้ว ก็มักจะทำเป็น "ไม่คิดมาก" (เออ...ช่างมันเถอะ ไรประมาณนี้....แต่จิตวิญญาณข้างในลึกๆกลับโหยหาทางออกไปจากกรงขังเหล่านี้อยู่ลึกๆ) บ้างก็คิดว่ามัน "ไร้สาระบ้าง" "อะไรบ้าง" ฯลฯ

    แต่ก็ อ่านะ..............................(ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเหมือนกัน)

    ตอบลบ
  10. "โดยแท้จริงแล้ว จิตวิญญาณข้างในของเราลึกๆ ต่างก็โหยหาอิสรภาพกันทั้งนั้น" (บ้างก็ปฏิเสธ หรือโกหกตัวเอง ....ว่าฉันน่ะ มีความสุข พบเจออิสรภาพแล้ว....แต่มนุษย์เช่นเราๆทั้งหลาย ก็เลือกที่จะ "ดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป เพราะความต้องการตามประสามนุษย์ ที่ถูกจำกัดกรอบ และบรรทัดฐานทางสังคมอยู่หลายอย่างนั่นเอง")

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน