วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

"ดาวธรรมนำทาง" ที่เราทั้งหลายทุกคนควรมีอย่างน้อย ๑ ดวง

ช่วงนี้พี่ชายรักชาติเห็นข่าวเลือกตั้งผู้ว่า กทม. เต็มไปหมดเลย แต่ละคนก็มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ กันทั้งนั้น อาทิเช่น คนแรกจะให้เพิ่มรถเมล์ฟรี, คนที่สองเลยจะให้ฟรีรถเมล์ทุกสาย, คนที่สามเลยจะให้ฟรีรถเมล์ปรับอากาศ ถ้าเป็นพี่ชายนะ จะให้ฟรีประกันที่นั่งด้วย ถ้าไม่มีที่นั่งรับเงินคืนได้จ้า หุๆๆ ล้อเล่นอ่ะ เอาละ คลายเครียดเล็กน้อยถึงปานกลาง มาเข้าเรื่องของเราดีกว่าครับ วันนี้เป็นเรื่อง "ดาวธรรม" ฟังแล้วบางท่านจะงงๆ แต่บางท่านก็คุ้นเคย มันเป็นยังไงมาดูกันดีกว่าครับ


"ดาวธรรม" อันนี้คุ้นๆ นะครับ แต่ไม่ใช่ดาวเทียมรับฟังธรรมะแบบบางวัดนะครับ คล้ายๆ กัน แต่ไม่ใช่ครับ ถามว่ามันคืออะไร? อ่า มันก็คืออะไรบางอย่างที่ "เหมือนแสงสว่างนำทางชีวิต" ของเราได้ บางท่านอาจจะเรียกว่า "สิ่งศักดิสิทธิ์" ก็ได้ครับ แต่ว่าไม่เหมือนกับเทวทูตหรือเทวดาประจำตัวนะครับ เพราะเทวดาประจำตัวเรานั้น จะเหมือนผู้ที่อยู่ขวาหรือซ้ายเรา คอยดลจิตดลใจเรา แต่นี่จะอยู่ "เหนือเราขึ้นไป" ซึ่งจะเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางเราอีกทีครับ ซึ่งก็คือสิ่งศักดิสิทธิ์ที่เราจะนับถือหรือรับไว้ว่าคือ "สูงสุด" สำหรับเรานั่นเอง โดยมีเหล่าเทพที่คอยช่วยเหลือรายล้อมรอบอีกที นี่แหละ ที่ผมเรียกเป็นภาษาง่ายๆ ในแบบของผมเองว่า "ดาวธรรม" เพราะเหมือนดวงดาวที่อยู่เหนือเราไงครับ แล้วก็มีแสงสว่างนำทางชีวิตให้กับเรา คือ ท่านจะมีธรรมนำทางให้เราได้ครับ ไม่ว่าจะนำไปถึงนิพพานเลย หรือยังไม่ถึงนิพพาน แต่ก็ได้สวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง ที่ใดที่หนึ่ง หรือในดาวดวงใดดวงหนึ่ง ก็ได้ครับ ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้รู้จัก "พระนามของดาวธรรม" อันแตกต่างกันไปตามแต่ละศาสนาของท่านจะแนะนำแก่ท่านครับ ซึ่งทั้งหมดนั้น ล้วนดีทั้งสิ้น และใช้ได้ดียิ่งครับ เพียงแต่เราจะได้ดาวธรรมจริงหรือไม่ เพราะไม่ใช่่ว่าเราได้เป็นคนในศาสนาใดๆ แล้วเราจะได้ดาวธรรมนำชีวิต ชี้ทาง เป็นแสงสว่างแก่เราเสมอไปนะครับ เราจะได้อย่างนั้นจริงก็เมื่อเราปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานั้นๆ ครับ ไม่เช่นนั้น ก็จะมีสิ่งที่ตรงข้ามกับดาวธรรมทั้งหลาย มาลากเราออกไปจากทางสว่างครับ


ต่อไป ที่ท่านทั้งหลายควรจะเข้าใจก็คือ ท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้า และไม่ใช่พระปัจเจกพุทธเจ้า นี่ไม่ใช่ยุคของท่านที่ท่านเป็นทั้งสองอย่างนี้ ดังนั้น เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายจะเป็นอะไรไปไม่ได้ในสองอย่างนี้ แต่เราจะเป็น "ผู้ตาม" พระเจ้า, พระพุทธเจ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือสิ่งศักดิสิทธิ์อื่นๆ ก็ได้ สรุปชัดๆ ก็คือ "เราทุกคนเกิดมาเ็ป็นผู้ตาม" แต่เราบางคนอาจจะมีสภาวะผู้นำมากบ้าง แต่มันก็ไม่ได้มากไปกว่าพระพุทธเ้จ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า, พระเจ้า ฯลฯ อะไรหรอกนะ อย่างที่บอกว่า "มันยังไม่ใช่ยุคของเราๆ ท่านๆ" นะครับ ดังนั้น เราจึงต้องทำตัว ทำหน้าที่แบบ "ผู้ตามที่ดี" ไปก่อน จึงจะเหมาะสมกับยุคสมัยนี้ครับ และในขณะเดียวกัน เราก็สามารถที่จะมี "สภาวะผู้นำ" ได้ครับ อันนี้ ไม่ใช่ข้อห้าม แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเป็นในยุคนี้เท่านั้นเอง สรุปก็คือ เราจะเริ่มจากการเป็น "ผู้ตามที่ดี" ก่อน เดินตามดาวธรรมให้ได้จากนั้นเราจึงจะเป็น "ผู้นำที่ดี" ได้ คือ นำทางคนอื่นๆ ที่หลงทางและไม่มีดาวธรรมให้เขาได้พบกับดาวธรรม หรือเดินทางตามเรามาในท้ายที่สุด นั่นเอง นี่ก็คือ "สองบทบาทที่สมดุลและเหมาะสมกับยุคสมัย" ครับ ดังนั้น ผมจึงไม่ได้เน้นให้ท่านเป็นผู้ตามใครบนโลกนี้ หรือเดินตามมนุษย์คนไหนแต่ผมต้องการให้ท่าน "หาดาวธรรม" ให้เจอแล้วเดินตามแสงจากดาวธรรมนั้น เพื่อที่ท่านจะได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้นำ" มนุษย์คนอื่นๆ ให้ไปสู่แสงสว่างยังดาวธรรมเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดาวธรรมแห่งศาสนาใดก็ ตาม ซึ่งท่านอาจจะมีอย่างน้อย ๑ ดาวธรรม หรือหากท่านสามารถจะเชื่อมโยงกับแสงของดาวธรรมได้มากกว่า ๑ ดาวธรรม ก็ได้ครับ 


แม้แต่ในพระพุทธศาสนา ชาวพุทธหลายท่านคิดว่ายึดมั่นและศรัทธาในพระพุทธเจ้าอย่างมาก แต่ผมอยากจะบอกให้ท่านทราบว่าท่านยังเสี่ยงที่จะถูก "สิ่งอื่นที่ตรงข้าม" ดึงลากท่านออกไปจากสิ่งที่ท่านนั้น ศรัทธาได้ครับ ผมจึงต้องเขียนเรื่องดาวธรรม ไม่ใช่เพื่อศาสนาหนึ่งใด แต่เพื่อทุกๆ ศาสนาและที่ไม่ใช่ศาสนา หมายรวมทั้งหมด เื่พื่อเตือนให้ท่านทั้งหลาย ค้นหาสิ่งที่ท่านศรัทธาให้พบ และปฏิบัติให้ได้มรรคผลจริงๆ เพื่อให้ท่านได้เชื่อมโยงกับดาวธรรมหรือสิ่งศักดิสิทธิ์สูงสุดที่ท่านเคารพศรัทธานั้น อย่าให้สิ่งอื่นใดมาขวางกั้นระหว่างท่านและสิ่งที่ท่านศรัทธาไปเสียก่อน เช่น สมัยโบราณ ชาวพุทธอยากฟังธรรมก็ตรงไปหาพระพุทธเจ้า แต่เดี๋ยวนี้ เราไม่ไปหาท่านหรอก เพราะท่านปรินิพพานแล้ว เราจะไปหา "หลวงปู่หลวงพ่อ" แทน แล้วเราก็นึกว่าเราได้เชื่อมโยงกับพระพุทธเจ้าแน่นอนแล้วแต่ มันอาจจะไม่จริงก็ได้ เพราะอะไร? เพราะเราทำตัวเปลี่ยนไป ไม่เหมือนชาวพุทธแต่ก่อนที่จะต้องไปพบพระพุทธเจ้าโดยตรงไงละครับ ผมเลยแนะนำท่านว่าให้เชื่อมต่อกับพระพุทธเจ้าเหมือนเรามี "ดาวธรรม" นำทางไง ไม่ได้ห้ามถ้าท่านจะไปพบหลวงปู่, หลวงพ่ออะไร แต่ถ้าจะให้ดีเราควรจะได้ตรงไปสู่พระพุทธเจ้าก่อนนะครับ อย่าไปคิดว่าพระพุทธเจ้านิพพานแล้วก็ไม่อาจสื่อสารกับเราได้ อย่างที่บอกให้ึคิดว่าเราจะมีัดาวธรรมหนึ่งดวงที่ส่องนำทางเราให้ได้ก่อน อย่างอื่นค่อยๆ มาเป็นองค์ประกอบ ไม่ใช่มายิ่งใหญ่แทนที่ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้เชื่อมโยงถึงพระพุทธเจ้าเลย!


เอาละ เดี๋ยวจะเครียดกันเกินไป ไม่มีอะไรมาก ก็แค่เหมือนเรามีดาวหนึ่งดวงประจำตัวเราส่องแสงนำทางเรา ก็เท่านั้นเอง อาจจะเป็นดาวฤกษ์เหมือนดวงอาทิตย์หรือดาวเคราะห์แบบดวงจันทร์หรืออื่นๆ ก็ได้ครับ ได้ทั้งนั้น แต่ว่า "เรามีหรือยัง" เราได้หรือยัง? เราถึงหรือยัง? อย่าืลืมเช็คดูละ เพราะหลายคนมักคิดว่าเราอยู่ในศาสนานั้นๆ แล้วก็จะต้องได้เชื่อมโยงถึงพระศาสดาของศาสนานั้นๆ อย่างแน่นอน ซึ่งมันไม่ได้เป็นความจริงเสมอไปนะครับ โอเค เม้าท์มายาวน่าดู พอควรแล้ว เด็กๆ จะได้นอนหลับฝันดี นิทานก่อนนอนขอจบแต่เพียงเท่านี้ ก่อนนอนอย่าลืมดื่มนมด้วยละเด็กๆ เอาละ ไปก่อน ราตรีสวัสดิ์ครับ 




1 ความคิดเห็น:

เม้าท์ด้วยคน