วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ยุคสมัยแห่ง "ลูกเทวดา" ที่เราล้วนต้องมาทำหน้าที่ของคนพิเศษ

หลังคงคอนเซฟ "หลง เพ้อ เว่อร์ บ้า" ด้วยความหวังอันริบหรี่มานาน ในที่สุด พี่ชาย รักชาติ ก็ทำให้ผู้อ่านถึงแก่ "ออกัสซั่ม" ทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ได้ในที่สุด เขาว่าคนไทยตั้งชื่อสัตว์จากเสียงร้อง อย่างแมวก็มีเสียงร้อง "แม้วๆ หรือ เหมียวๆ" เวลาคนเลี้ยงสัตว์สองชนิดร่วมกันอย่าง "ล่อ" กับ "ม้า" มันจะออกเสียง "ล่อ" กับ อะไร? โอ้ย อย่าออกเสียงดังเกินไปเดี๋ยวคนเขาจะแห่กันมาเข้า off fit กันไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เอาละ พอหอมปากหอมคอ หอมกระด... ดูก ก็ไม่ไหว มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่านะ บทความวันนี้ เป็นเรื่องของ "ลูกเทวดา" ในแบบของพี่ชายรักชาติ เวอร์ชั่นนี้รับรองแซ่บแน่นอน เอ้า รายละเอียดเป็นอย่างไร จะลึกลับซับซ้อนน่า่ค้นหาแค่ไหน ก็ลองอ่านกันดูนะครับ 


อย่างแรกที่อยากจะบอกก่อนคือจิตวิญญาณของสัตว์และมนุษย์แต่ละรุ่นที่ถูกจัดสรรให้มาเกิดนั้น มี "บุพกรรม" ทำร่วมกันมาที่ "ต่างกันไปในแต่ละยุค" เรียกว่า Generation ที่แตกต่างกันนั่นเอง อันเกิดจากสัตว์นั้นไม่ถูกจัดสรรให้เป็นปัจเจกชน แต่ให้ผูกโยงกันด้วยบุพกรรมร่วมกันในแต่ละยุคสมัย แล้วถูกจัดสรรโดยกรรมนั้นให้มาเกิดร่วมชาติกัน เพื่อสร้างบุญบารมีร่วมกันต่อไป ยกตัวอย่างง่ายๆ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรานั้น จะเป็น Generation ที่สร้างบุญบารมีมาน้อย ทำกรรมมามาก พวกเขาจึงถูกจัดสรรให้มาเกิดในประเทศไทย "ยุคสร้างชาติ" ที่ทุกคนจะต้องเหนื่อยยากมากมาย เพื่อทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา และเมื่อถึงยุคของเรา ก็อาจไม่ต้องเหนื่อยยากเหมือนพวกเขาอีกแล้ว เพราะเป็นคนละรุ่น ทำบุพกรรมมาต่างกัน ธรรมชาติจัดสรรให้มาเกิดด้วยกรรมร่วม ในแบบที่ต่างกัน นั่นเอง นอกจากนี้ แต่ละท้องถิ่นก็ถูกจัดสรรไว้ให้คนที่มีบุพกรรมต่างกันอีกด้วย เช่น คนกรุงเทพทั้งหมด คือ คนที่ในอดีตชาติเคยอยู่ชายแดน และต้องทนรับสงครามแทนคนอื่นๆ ที่อยู่เมืองหลวง ผลบุญนั้น ทำให้ชาตินี้พวกเขาได้อยู่เมืองหลวงที่มีความเจริญมากมาย ส่วนพวกที่อยู่นอกกรุงเทพ ก็มีบุพกรรมทำมาในอีกแบบหนึ่ง เหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจาก "กรรมมวลรวม" ทั้งสิ้น ซึ่งคนแต่ละกลุ่ม, แต่ละท้องที่, แต่ละยุคสมัย ฯลฯ ทำร่วมกันมาต่างกัน จึงต้องมาเสวยผลบุญที่แตกต่างกัน นั่นเอง ไม่ใช่ความถูกผิดอะไร


อย่างที่สอง ที่ท่านควรเข้าใจต่อไปคือ Generation พิเศษ ที่ผมขอเรียกว่า Generation "ลูกเทวดา" ที่ถูกจัดสรรมาให้มีชีวิตอยู่เหมือนลูกเทวดาเพราะบุพกรรมเก่าทำมาดี ทำมามากแล้วเช่น ในอดีตชาติเคยยอมพลีชีพรบเพื่อชาติ กอบกู้อิสรภาพให้ประเทศมา เป็นต้น เมื่อมาเกิดแล้วจึงไม่้ต้องทำงานอะไรมากมายเหมือนคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ทั้งยังหางานทำไม่ได้ เรียนไม่จบ หรือมีข้อเสียอะไรที่คนเขาไม่ต้องการ อะไรแบบนั้น แต่อย่าไปคิดว่าตัวเองด้อยค่า เกิดมาไม่มีค่าละ คุณนั่นแหละคือ "คนพิเศษ" ที่โลกนี้รอคอย และเป็น Generation ที่มีความพิเศษมากที่ได้ทำกรรมดีไว้แต่หนหลังมากแล้ว ไม่ต้องทำงานเหมือนคนอื่นๆ เขา ฟังให้ดีนะ "คุณมีหน้าที่ค้นหาสิ่งที่ตนเองรักและต้องการทำ" แล้วทำมันให้ดี โดยไม่ต้องสนใจว่ามันจะเ็ป็นอาชีพที่ทำให้มีเงิน มีรายได้หรือไม่? เช่น บางคนชอบขี่จักรยานผาดโผน เยี่ยม ทำไปเลย บางคนชอบเต้นฮิปฮอป เยี่ยมทำไปเลย บางคนชอบเล่นเกมออนไลน์ เยี่ยม ทำไปเลย จะทำอะไรก็ำได้ที่ตัวเองชอบจริงๆ รักจริงๆ ทำแล้วมีความสุข แต่อย่า "ปิดกั้นโอกาสดีๆ ของตัวเองละ" อย่าเอาอะไรมาครอบงำตัวเองจนไม่มีทางได้เรียนรู้หรือทำสิ่งอื่น เช่น เล่นเกมจนไม่มีโอกาสได้พบหรือค้นหาสิ่งอื่นๆ ใดในโลกนี้เลยว่ามีอะไรดีๆ เด็ดๆ มาใหม่ๆ บ้าง อย่างนั้น "โง่ตายชัก" โลกกว้างนี้มีอะไรที่ เจ๋งๆ ใหม่ๆ ดีๆ และเด็ดๆ อีกมามายให้ลอง ไม่ใช่เอาแต่พี้ยาทั้งวัน โลกนี้มีแต่ยาเสพติด ไม่ลอง ไม่กล้าค้นหาหรือทำอย่างอื่นบ้างเลย อันนี้ ทั้งงี่เง่า และทำให้ตัวเองขาดโอกาสไปเท่านั้นเอง คนโง่ลองยาเสพติด ก็จะติดแค่ยาเสพติด คิดว่าโลกนี้ทั้งใบมีแต่ยาเสพติดที่ดีที่สุด แต่คนฉลาดจะรู้จักลองอะไรใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เช่น บางคนไปสักไปเพ้นท์ตัวมา ยังงี้เคยลองไหม? บางคนเคยเลี้ยงอีกัวน่า แบบนี้ เคยลองบ้างไหม? บางคนไปทำโบท็อกซ์มาหน้าตาดีขึ้น แบบนี้ เคยลองบ้างไหม? บางคนก็ไปทำจมูกมาโด่งเป็นดาราเลย อย่างนี้ เคยลองบ้างไหม? ไม่รู้ละ ผมจะไม่พิพากษาหรือตัดสินว่าอะไรดีหรืิอเลว มันเป็นเรื่องประสบการณ์ของท่านทั้งหลายที่จะค้นหา, ทดลอง, เรียนรู้ด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งผมเชื่อว่ามีอะไรที่ดีๆ และเด็ดกว่าสิ่งที่ผมยกตัวอย่างมา อีกเยอะครับ


อย่างที่สาม เราจะอยู่ในโลกนี้ยังไงในฐานะ Generation "ลูกเทวดา"  ก็ไม่ยากน่ะ อย่างแรก เปิดใจตัวเองให้กว้าง ให้โอกาสตัวเองให้มากๆ แล้วค้นหา, ทดลองอะไรมากๆ จนกว่าจะค้นพบ "สิ่งที่ดีและเหมาะสมกับตัวเอง" ที่จะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น สมัยนี้ คนขี้เบื่อ ขนาดดาราดูดีๆ สวยๆ หล่อๆ นะ ยังเบื่อกันได้ ไม่แน่ วันดีคืนดี ก็อาจมาสนใจสิ่งที่คุณทำก็ได้ แถมยังอาจเอาไปประกวดแข่งขันกันระดับโลก ดังไปเลยก็ได้ เมื่อคุณค้นพบสิ่งที่ตัวเิองรักและทำมันได้ดีแล้ว ก็จงเชื่อมั่น อย่าไขว้เขว ทำมันให้ดีที่สุด อย่ากลัวว่ามันไม่ใช่อาชีพ หรือไม่มีรายได้อะไร? อย่าลืม เราคือ Generation "ลูกเทวดา" นะ ที่เม้าท์อยู่นี้ ไม่้ได้แนะให้ไปปฏิเสธหรือต่อต้านระบบแรงงาน หรือไม่ยอมทำงานนะ แต่ถ้าคุณก็ลองไปทำแล้ว เขาไม่เอาเรา ตำหนิเราอย่างนั้นอย่างนี้ "อย่าพยายามเป็นขี้ข้าชั้นดีตามใจเขาเลยครับ" เป็นตัวของตัวเองเราดีกว่า พัฒนาตัวเราในแบบที่เราวางแผน, กำหนดเส้นทางเดินให้ตัวเราเองได้ดีกว่า ผมเชื่อว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้มากมายหลายแบบ หลายวิถีทาง ไม่จำเป็นต้องมีเส้นทางชีวิตที่เหมือนกัน หรือเหมือนใคร แม้ว่าบางคนอาจจะก้าวไปไกลแล้วก็ตาม แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุด ยังไม่ใช่เส้นชัย ที่จะพิสูจน์คนได้หรอกครับว่าใครประสบความสำเร็จจริงหรือไม่? ก็ยกตัวอย่างง่ายๆ นะ อย่างบางคนพยายามยัดเงิน ใช้เส้นสาย ให้มีำตำแหน่งข้าราชการ แล้วเอาเงินไปผ่อนบ้าน ชีวิตของเขาต้องอยู่กับการใช้หนี้เป็น ๑๕-๒๐ กว่าปี หายไปเลยกับเรื่องบ้าน แม้ว่าเขาจะมีบ้านที่สวยหรู หลังใหญ่ แต่มันอาจไม่ได้ครอบครัวที่ดีก็ได้ครับ เพราะการสร้างบ้าน กับการสร้างครอบครัว มันคนละเรื่องกันครับ ดังนั้น เราอย่าไปหลงเชื่อคนที่มีเปลือกนอกดูดี เหมือนรวย มีเงินเดือน, มีบ้าน, มีรถ ฯลฯ มาอวดเรา เราจะไม่มีอย่างเขา ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะในสมัยโบราณ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็อาจไม่มีสิ่งเหล่านี้เลยครับ ลองดูนักกีฬาบางคนสิครับ จากกีฬาที่ไม่มีใครสนใจ แต่เขากลับทำให้่ประสบความสำเร็จเป็นที่สนใจของคนมากมายได้ บางคนก็เริ่มจากงานศิลปะที่ไม่มีชื่อเสียง แต่ภายหลังกลับดังระดับโลกได้ยังมี!


โอว วันนี้เม้าท์ยาวมากเป็นพิเศษไม่อยากให้เด็กๆ อ่านหนักหัวเกินไป  ก็ขอจบลงแค่นี้ละกัน พบกันใหม่บทความหน้าแล้วกันครับ ราตรีสวัสดิ์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน