อย่างแรก ให้ทำความเข้าใจก่อนว่า ธรรมชาติไม่ได้สร้างมนุษย์มาเป็นพระปัจเจกฯ แต่สร้างมาให้เป็นกลุ่ม เป็นสังคม ที่เรียกว่า "มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" ไงครับ แต่บางครั้ง ทำอย่างไรละมนุษย์จึงจะเ็ป็นสังคมได้ ธรรมชาติจึงมีวิธีทำให้มนุษย์มีกรรมร่วมกันไว้ครับ และด้วยเงื่อนกรรมนี่เอง ทำให้คนมากมายถูกผูกโยงกันไว้ด้วยผลกรรม (ไม่ว่าจะกรรมดีหรือชั่วก็ตาม) ซึ่งบางกรณี ก็ไม่ใช่ของง่ายๆ ครับ เพราะคนเราบางทีชวนไปทำความดีร่วมกัน ก็อาจไม่ยอมไป ครั้นเราจะทำกรรมชั่วร่วมกับเขาด้วย ก็อาจไม่ใช่วิัสัยอีก จึงต้องมีวิธีคล้ายๆ การจับคู่ให้คนมีครอบครัว นั่นแหละครับ แต่ในกรณีนี้ เป็นการจับกลุ่มครับ ทำให้ปวงสัตว์เป็นสัตว์สังคม ยกตัวอย่างบางคนนะ สมมุติ นาย งก เป็นคนชอบเอาของวัดไปบ่อยๆ แต่นายงกก็ชอบ นาง สวย คอยเอาของวัดไปให้นางสวยประจำ ซึ่ง นาง สวย เป็นญาติกับ นาย บารมี ผู้บำเพ็ญบารมีธรรมมาก รู้เห็นเหตุทั้งหมดแล้ว แต่ไม่อาจช่วยได้ เพราะ นาย งก เป็นคนที่โปรดได้ยาก นาย งก ไม่เชื่อใจ นายบารมี ทั้งยังจ้องมองแต่จะจับผิดกันอยู่ตลอด แม้ว่านายบารมีนั้นไม่เคยทำสิ่งผิดอะไรก็ตาม แต่จะมีคนมาใส่ร้ายให้นาย งก ไม่เชื่อถือนายบารมีอยู่เสมอ ตัวนายงกเองจะศรัทธาพระอีกรูปมาก ซึ่งไม่ได้มีบารมีจะช่วยนายงกได้เลย ทั้งยังไม่เคยสอนหรือห้ามปรามนายงกเรื่องเอาของวัดไปใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ วิธีการเดียวที่จะพอช่วยนาย งก ทางอ้อมได้คือ ต้องทำให้นาย งก รักนางสวย และให้นางสวยมีบุญสััมพันธ์เชื่อมโยงกับนายบารมีอีกที นี่แหละครับ ที่ผมอยากจะเรียกว่า "สายโซ่แห่งบุพกรรม" ที่จะร้อยเรียงปวงสัตว์ทั้งหลายให้กลายเป็นสัตว์สังคม ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจะต้องให้สายโซ่ทั้งหมดโยงเข้าไปสู่ผู้มีบารมีธรรม (พระนิตยโพธิสัตว์ที่จะได้ตรัสรู้) ที่พอมีกำลังที่จะฉุดช่วยปวงสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นได้ หาไม่แล้ว ปวงสัตว์ก็จะไม่อาจที่จะหาทางหลุดพ้นได้เลย
ต่อไป ถ้าคุณต้องตกอยู่ภายใต้ "สายโซ่แห่งบุพกรรม" นี้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะผู้มีบุญบารมีหรือผู้ที่อาศัยบุญบารมีผู้อื่่นเพื่อความหลุดพ้น ก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ เกิดขึ้นได้ครับ เป็นธรรมดามากๆ บางกรณีก็อาจถึงขั้นที่คุณอาจต้องทำอะไรแปลกๆ ฝืนธรรมชาติ ฝืน "จิตสำนึก" หรือทำสิ่งที่ผิดไปจากจิตสำนึกทั้งหลายเช่น มีความรักที่ผิดธรรมชาติ อยากช่วยคนแต่ต้องไปทำร้ายเขาแทนหรือแม้แต่ทำอะไรบ้าๆ บอๆ ก็อาจเป็นไปได้ครับ แต่นั่นมันก็แค่ "เปลือกนอกที่ถูกมองอย่างโลก" ก็เท่านั้นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น บางครั้งคุณอาจรักใครไม่รู้ บ้ามากๆ หรือมีความรักกับปีศาจไม่รู้ตัว คือ มองไม่เห็นน่ะ ใช่ไหม แต่บางทีมันก็มีเหตุผล เพื่อฉุดช่วยเขาได้เหมือนกัน บางคนก็ต้องไปทำอะไรที่มันผิดจากชาวบ้านเขา ทั้งหมดนี้ มันอาจจะเป็นแค่ "กลไกลของสายโซ่แห่งบุพกรรม" ก็เท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่หลงมันมากเกินไป คือ ถ้าต้องทำสิ่งที่แปลกหรือเพี้ยนๆ ก็อาจทำได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับจมปลักจนเอาตัวเองไม่ขึ้น หากคุณคิดเสียว่ามันคือขั้นตอนหนึ่งของการฉุดช่วยปวงสัตว์ ซึ่งสัตว์ทั้งหลายในสามภพนี้ มีลักษณะที่แตกต่างกันมาก ดังนั้น ในการช่วยเหลือพวกเขา จึงแตกต่างกันไปด้วย โดยเฉพาะถ้าเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกับเรา การช่วยเหลือพวกเขา อาจทำให้คุณต้องทำสิ่งที่แปลกประหลาดเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าคุณเข้าใจในเรื่องของ "สายโซ่แห่งบุพกรรม" นี้แล้ว คุณก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
อนึ่ง เรื่องของสายโซ่แห่งบุพกรรมนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะแนะนำให้ท่านไปทำอะไรประหลาดๆ แต่เป็นเรื่องที่ผมอธิบายเรื่องประหลาดๆ ที่ใครบางคนอาจพบเจอ และหลีกเลี่ยงไม่ไ่ด้ หาคำตอบไม่ไ่ด้ ว่าทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับคุณด้วย หวังว่ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้น และเห็นมันเป็นธรรมะ, ธรรมชาติ ไม่ได้มองว่ามันดี หรือถูกต้อง, มันผิด หรือไม่ดีอะไร มันก็เป็นเช่นนั้นเอง อะไรที่เราอธิบายไม่ไ่ด้ แต่เราไม่ใช่คนที่ไปกำหนดให้มันเป็น มันเป็นอย่างนั้นของมันเอง ก็สบายใจเถอะครับ คุณไม่ได้บ้าและไม่ใช่ตัวประหลาด คุณแค่ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็เท่านั้นเอง เอาละ วันนี้ ไม่เม้าท์มากแล้ว เริ่มดึก เด็กๆ ต้องรีบกินนมแล้วนอนเสีย จะได้ตื่นไปทำงานตอนเช้า ลาตรงนี้ เลยละกัน ราตรีสวัสดิ์ครับ
เออเนาะ คนกรุงเทพฯที่เกิดมาสบายในชาตินี้ ถ้ามองเผินๆจะไปว่าคนกรุงเทพฯ เห็นแก่ตัวไม่ได้ และไม่ใช่แค่มองในปัจจุบันขณะเท่านั้น คนเรามีกรรมมากมายหลากหลายอย่าง และเราก็ไม่ใช่่ว่าจะไปรู้กรรมของคนอื่่นซะทั้งหมด จะมาด่วนตัดสินอะไรเร็วๆไป มันก็ไม่ได้ เพราะคนเราน่ะ เกิดมาหลายชาติ ย่อมจะต้องผ่านการทำดีทำชั่วมาเยอะบ้าง น้อยบ้าง แหละน่าาา
ตอบลบคงงั้นละ ซินหรง
ตอบลบใครอีกแว๊ะะ เรื่องไหน? ตัวอะไร? ผู้ชายหรือผู้หญิง?
ลบคนนี้เหรอ ซินหรง
ลบhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87
มีแต่คนอยากจะได้ "นาย" กับ "นาง"
ตอบลบม่ายยยเห็นมีใครอยากจะได้ "กะเทย" บ้างเลยอ่า
เฮ้ออ.......เซ็ง :(
555555555555555555555
ลบ