วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

คุณจะค้นหา "One piece" อันเป็นที่สุดแห่งพลัง จากทั้งหมดทั้งมวลได้อย่างไร?

คำว่า "One Piece" นั้น ผมคิดว่ามันมีนัยยะที่น่าสนใจมากครับ เท่าที่ผมสัมผัสได้นั้น มันหมายถึง "ของที่มีพลังพิเศษซ้อนอยู่ ซึ่งเป็นอันที่ดีที่สุด" หมายความว่าอย่างไร? ง่ายๆ อย่างนี้ครับ สมมุติ พระภิกษุได้บำเพ็ญฤทธิ์มามากๆ เรียนวิชาอาคม แล้วไปนั่งทำเครื่องรางของขลังหรือปลุกเสกอะไรขึ้นมา ก็แล้วแต่ สมมุติครั้งหนึ่งจำนวน ๑๐,๐๐๐ ชิ้น มันจะมีแค่ "อันเดียว" หรือ One Piece เท่านั้น ที่เป็นที่สุดครับ สมมุติ หลวงพ่อรูปนั้นมีวิชาและบารมี พอที่จะทำ "แก้วมณีทิพย์" ได้ ก็ปลุกเสก "มณีนพรัตน์" ก็แล้วกัน เพื่อระดมทุนเข้ามาัจัดสร้างพระธาตุเจดีย์อะไรแบบนั้น มันจะมีของปลุกเสกแค่ One Piece หรือชิ้นเดียวเท่านั้นนะครับ ที่ได้เป็น "มณีนพรัตน์" อันจริง อื่นๆ มันจะได้แค่เศษพลังเล็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีพลังเหมือนกัน แต่ไม่มาก เอาไปเชื่อมโยงกับตัวหลักของมัน (ตัวแม่-ตัวจริง) แล้วมันจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ครับว่าจะไปอยู่ในชิ้นไหน ถ้าปลุกเศษสักหมื่นชิ้นแล้วมีคนบูชาไปหมดหมื่นคน พลังมณีนพรัตน์นั้นก็จะเคลื่อนย้ายไปมาได้ครับ ว่าจะไปอยู่กับคนไหน เรียกว่าในครั้งแรกที่สร้างชุดนั้นๆ มี One Piece หรือชิ้นเีดียวที่มีตัวแม่ หรือตัวจริงของมันอยู่ แต่อันอื่นๆ ที่สร้างในชุดเดียวกันนั้น มันจะได้รับเพียงเศษพลังเพื่อเชื่อมโยงกับตัวแม่เท่านั้น เป็นวัตถุสื่อพลังที่ "มณีนพรัตน์" ของจริง ตัวแม่ จะใช้่เชื่อมโยงหรือเคลื่อนย้ายไปได้


ทีนี้ คำถามก็คือ "แล้วดูอย่างไรละ? ใครละจะได้ตัวแม่ ตัวจริงไป?" ก็ำไม่ยากครับ ในครั้งแรกเลย ส่วนใหญ่มันจะเลือกไปอยู่กับคนที่มีพลังบุญบารมีสูงสุดก่อน แล้วถ้าคนๆ นั้น ทำตัวไม่ดี เสื่อมลงไป มันถึงจะ "ย้ายรัง" นะครับ คือ เคลื่อนย้ายไปยังคนที่มีวัตถุสื่อวิญญาณของมัน ซึ่งก็คือ คนอื่นๆ ที่ได้บูชาเอาของขลังที่ทำขึ้นในครั้งเดียวกันนั้นเอง ซึ่งแท้แล้ว "ไม่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกหรอกครับ" เช่น ถ้าทำพระ สักหมื่นองค์เนี่ย บางองค์อาจรูปลักษณ์ดี ไม่มีที่ติ แต่บางคนอาจได้แต่องค์ที่มีตำหนิ นั้นไม่สำคัญ บางที มันก็เป็นสิ่งลองใจเราครับ ว่าจะเอาไหม? ถ้ารูปลักษณ์ไม่สมบูรณ์ ไม่เพอร์เฟค ถ้าเราเอา มีจิตศรัทธา พลังนั้นๆ ก็จะมาอยู่ที่เราได้นะครับ แต่ว่า อย่าไปสนใจมันมากเลย ก็จะกลายพันธุ์เป็น "สายยักษ์" ไปนะจ๊ะ เพราะพวกนี้ชอบเรื่องฤทธิ์เดชมาก ชอบเข้าหาพระดังๆ ดูขลังๆ น่านับถือ แล้วก็ชอบบูชา สรรเสริญกันสุดฤทธิ์ ไม่ใช่พระอรหันต์จริงหรอกครับ เป็นฤษีห่มเหลืองเท่านั้น นั่งทำเครื่องรางของขลัง ระดมทุนมาสร้างวัดวา เป็นพระพรหมผู้สร้างอยู่ มันจะเป็นพระอรหันต์ไปได้จั๊งดั๋ย แต่เอาเถอะ พวกยักษ์มันศรัทธาของมันอย่างนั้น มันยกย่องสรรเสริญกันให้เป็นพระอรหันต์อย่างนั้น ก็มีเหตุผลครับ เพราุะถ้าคนไม่ลุ่มหลงด้วยอำนาจแห่ง "เทพเจ้าแห่งความลุ่มหลง" คือ พระราหูหรืออสูรราหู นี่แหละ ครอบงำพวกเขาไว้ มันก็จะไม่มีเงินไหลมาเทมา ให้สร้างวัดวา ให้คนทำงานได้ยักยอกโกงกินแบ่งกันนิดๆ หน่อย ตามวิสัยยักษ์หรอก ใช่ไหมครับ ท่านผู้ชม!


เอาละ สำหรับท่านที่ไม่ได้มีเชื้อสายยักษ์ ไม่ใช่คนประเภทนี้ ท่านก็จะไม่บ้าคลั่งเครื่องรางของขลัง ไม่บ้าฤทธิ์บ้าเดช ไม่ใ่ช่พวกจะทำอะไรทีก็ต้องบูชายกใหญ่ ทำพิธีเยอะแยะ หรือต้องมีเครื่องลางของขลังมาประกอบอยู่ตลอด คือ ทำไปเลย ไม่คิดอะไรมาก อะไรก็ช่างมัน เพราะมันเป็นหน้าที่ อันนี้ก็คิดแบบเชื้อสายเทพนะครับ ไม่ว่ากันว่าใครจะคิดยังไง แตกต่างกันได้ ไม่ผิดละ แต่เราอย่าไปหลง "พวกมากลากไป" ที่ชอบแห่กันไปด้วยอาการลุ่มหลงศรัทธา ก็แ้ล้วกัน ถ้าไม่อยากไปเกิดเป็นยักษ์ (อูย หน้าตาไม่งามนะ ผู้หญิงนี่่น่าเกลียดออก ที่เขามักเรียกกันว่า "นางยักษ์ขมูขี" ไงละ ท่านผู้โช้มมม) ไม่ใช่เพียงแต่ของขลังที่เขาทำแจกหรือให้บูชานะครับ ผมคิดว่า แม้แต่ของไหว้อย่างผลไม้ที่เอาขึ้นไหว้เทพเจ้า ทั้งจีน, ไทย, อินเดีย ฯลฯ ก็ช่างเถอะ ผมคิดว่ามันมี One Piece เหมือนกัน คือ สักชิ้นหนึ่ง อันหนึ่ง ที่จะมีพลังพิเศษ และมันมีมานานแล้ว คนที่ได้กิน ก็กินมันเข้าไปแล้ว แต่อาจจะไม่รู้นะครับ เช่น ดาราบางคน แรกๆ ก็ไม่เจ๋งเท่าไรหรอก มาได้ทำงาน แล้วได้เข้าพิธีไหว้เทพเจ้าอะไรกับเขา ตอนเปิดกล้องอะไรแบบนั้น ก็อาจจะได้ One Piece ไปได้ละครับ ผลไม้สักลูกหนึ่งที่มีพลังพิเศษ ที่รอให้เ้จ้าของมันมากิน (บางคนที่ได้กิน One Piece ไปแล้ว ก็จะไม่ได้อีกนะครับ) ดังนั้น ไม่ต้องแปลกนะจ๊ะตัวเอ้ง ถ้าจะมี "ดาราหน้าใหม่ๆ" ที่ปรากฏขึ้นมาดังกว่าของเก่าเสมอๆ อาจได้พลังมาจาก One Piece ก็ได้ (อ๊ะ หรือว่าเพราะ Two Piece อ๊ะ ล้อเล่น) ลองสังเกตุดูเถอะครับว่าคนเราที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ มีพลังพิเศษกันทั้งนั้น เยอะแยะครับ แต่เพราะเราไม่ทันสังเกตุ หรือว่าชินตา ก็เลยคิดว่าไม่มี ก็เท่านั้นเอง


เอาละ ขอสรุปทฤษฎีเรื่อง One Piece นะครับว่ามีทางเป็นไปได้สูงนะครับ และไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนหรอก ถ้ามันพร้อมด้วย "เหตุปัจจัย" มันก็มาถึงตัวเราเองน่ะแหละ เพียงแต่มันต้องเป็นเหตุที่รองรับผลอันเข้ากันได้ เช่น คนที่ใจร้อนมากๆ มันน่าจะได้พลังพิเศษอะไรละ? ต่างจากคนที่ใจเย็นมากๆ ใช่ไหม? หรือคนที่ปรับตัวเก่ง ลื่นไหลมาตลอด ก็คงได้พลังพิเศษที่ต่างจากคนที่แข็งกร้าว, ตรงไปตรงมา นะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมขอนำเสนอว่าเป็นเพียง "ทฤษฎี One Piece" หรือขอให้เป็นข้อมูลเบื้องต้น ก็แล้วกันครับ ท่านไหนอยากทราบว่าจริงหรือไม่ ก็อย่านั่งเดาเอาเลย ไม่ถูกหรอก ฮ่าๆๆ ไปทำ ไปพิสูจน์เองซะสิ ก็จะได้รู้เอง นั่นแหละครับ ทว่า การทดลองเหล่านี้ ก็ต้องยอมพลีกาย ใช้ตัวของเราเองเป็น "หนูลองยา" นะครับ อย่างไรก็คิดให้ดีก่อนทำแล้วกัน เอาละ นิทานอาหรับราตรีวันนี้คงยาวพอประมาณไม่มากเกินไป เหลือเกินไปกว่านี้ ก็นอนหลับฝันเอาเองละนะครับ ราตรีสวัสดิ์เด้อหลานๆ




15 ความคิดเห็น:

  1. จะไปมิติที่ 7 ยังไงหรอ??
    ครับ บทความนี้สุดยอด วันพีช อิอิ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เมื่อเรียนรู้ตัวตนทั้งภาึคมืดและสว่างแล้ว
      ทะลุแจ้งแทงตลอดได้ถึง ความเป็นหนึ่ง
      เดียวกันของทุกตัวตน ที่ไม่ใช่เพียงแค่
      มีปัญญาหรือญาณหยั่งถึง แต่เป็นเช่นนี้
      จริงๆ ก็เข้าสู่มิติที่ ๖ และเมื่อก้าวข้ามตัว
      ตนของตัวเอง ทะลุเลยไปสู่ "สากล" ได้
      วางตัวลง ณ ตำแหน่งเทพสัก ๑ ตำแหน่ง
      ก็จะเข้าสู่มิติที่ ๗ ได้ครับ


      เมื่อถึงมิติที่ ๗ จะมีกิจเฉพาะทำ ไม่เพียง
      แค่ฝึกจิต ทดลองเฉยๆ อีกแล้ว เอาจริงเลย

      ลบ
    2. อยากเป็น "รามสูร" มั้ย คุณ L.A. เท่ห์น๊าาา อ่ะ เดี๋ยวเอาขวานห้ายยยยย 555

      ภารกิจของรามสูร คือ "ฆ่าคน 555" จากนั้นโดนจับขังคุก 5555

      ลบ
    3. มันเป็นรอยกรรม ของคนที่จะเป็น "รามสูร" น่ะ มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ ใครสนใจอยากเป็น "รามสูร" แล้วอยากเท่ห์ ก็มารับขวานทิพย์ได้นะ ดูอย่างไอ้หมอนั่นที่เป็นหัวโจกโจรใต้สิ

      นั่นก็มี "พระขรรค์เพชร"

      (แล้วถ้ารามสูรเป็นตุ๊ด มันเป็นยังไงวะ ฉันนึกภาพไม่ออกจริงๆเลยอ่ะ)

      ลบ
  2. พุ่งนี้เรื่องผลปีศาจต่อเลยครับ อิอิ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใจเย็นๆ ข้อมูลไม่ใช่จะมากันได้ง่ายๆ ครับ
      นี่ผมยอมปล่อยตัวให้เป็นตามธรรมชาติ
      ยอมเีสี่ยงกินแอปเปิ้ลที่ลาจากถวายไหว้
      เทพมาแล้ว (ตอนแรกลังเล จะกินดีไหม?)
      ก็ได้เข้าใจ ประมาณนี้ ยังต้องก้าวผ่านด่าน
      อะไรอีกมากครับ เพราะไม่ใช่ไปทางมืดน่ะ

      ลบ
  3. อิจฉาจังเลยอ่ะ มีคนไปเป็นดาราด้วย ดังด้วยแฮะ หุ หุ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อยากเป็นผู้กำกับ ไม่ก็คนเขียนบทมากกว่า หรือไม่ก็ ผู้อำนวยการสร้าง ไรประมาณนี้

      ลบ
  4. "เมื่อเรียนรู้ตัวตนทั้งภาึคมืดและสว่างแล้ว
    ทะลุแจ้งแทงตลอดได้ถึง ความเป็นหนึ่ง
    เดียวกันของทุกตัวตน ที่ไม่ใช่เพียงแค่
    มีปัญญาหรือญาณหยั่งถึง แต่เป็นเช่นนี้
    จริงๆ ก็เข้าสู่มิติที่ ๖ และเมื่อก้าวข้ามตัว
    ตนของตัวเอง ทะลุเลยไปสู่ "สากล" ได้
    วางตัวลง ณ ตำแหน่งเทพสัก ๑ ตำแหน่ง
    ก็จะเข้าสู่มิติที่ ๗ ได้ครับ


    เมื่อถึงมิติที่ ๗ จะมีกิจเฉพาะทำ ไม่เพียง
    แค่ฝึกจิต ทดลองเฉยๆ อีกแล้ว เอาจริงเลย"

    ^^ไม่ค่อยเข้าใจอ่าครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีละ ปล่อยตามธรรมชาติ

      ลบ
    2. ดีแล้ว "ไม่ต้องรู้มาก และเข้าใจมาก" เดี๋ยวจะพาลไม่อยากทำกิจไปเสียก่อน 5555

      (อย่ารู้ก่อนเวลาอันควรน่ะ 555)

      ลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ11 มกราคม 2556 เวลา 04:10

    ผมอยากถามเรื่องการทำลาย ดวงจิตหรือกายละเอียดมีวิธีใดบ้าง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กายละเอียดถูกทำลายได้ เหมือนเทวดาฆ่ากันตายนั่นแหละ


      แต่ทำลายดวงจิตนี้ ผมงง มีคนชอบพูดว่าพระเจ้าบ้าง หรืออะไร
      บ้างจะทำลายดวงจิต เธอ คนนั้นเลว คนนี้ชั่วจะถูกทำลายดวงจิต
      ผมคิดว่าพระเ้จ้าก็ดี สิ่งศักดิสิทธิ์ใดๆ ก็ดี ไม่เคยทำลายดวงจิต
      ใครนะครับ ปกติ ผมเคยทราบว่าอย่างพระยูไลปราบมารๆ ก็จะ
      ตาย กายละเอียดแตกสลาย "ดวงจิต" จุติลงนรกไป ก็เท่านั้นนะ
      สิ่งศักดิสิทธิ์ไม่เห็นมีระบบนี้ ระบบทำลายดวงจิตน่ะ เขามีแต่ให้
      ไปตกนรก ก็จะเข้าทาง เรียนรู้ความผิดของตนไปเอง


      จิตแตกสลาย มี ผมเคยอ่านเจอพระอวโลกิเตศวร บำเพ็ญบารมี
      ยิ่งยวดมากเกินไป เกิดขึ้นได้ นั่นไม่ใช่เพราะทำัชั่ว แต่เพราะไป
      บำเพ็ญมากเกินจิตจะรับไหว แต่ท่านก็ช่วยประสานกลับคืนให้ได้
      ครับ การที่เราเอาพระเจ้าหรืออะไรก็แล้วแต่มาขู่คนอื่นว่าท่านจะ
      ทำลายดวงจิตซะ ถ้ามันไม่จริง ก็กรรมหนักเหมือนกันนะผมว่าอ่ะ

      ลบ
  6. จิตนั้นบริสุทธิ์ประภัสสร ไม่ต่างกัน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จิต จึงไม่้ต้องไปทำลายจิต จิตประสานวิญญาณปรุงแต่ง เกิดรูปนาม ตัวตนต่างๆ ไป ดีบ้าง ชั่วบ้าง มารบ้าง เทพบ้าง ฯลฯ แม้กายทิพย์ (วิญญาณขันธ์) แตกสลายแล้ว ตัวตนนั้น ก็ไม่คงเดิม ย่อมถูกปรุงแต่งด้วยวิญญาณขันธ์ใหม่ จิตกลับยังบริสุทธิ์ดังเดิม เพียงแต่วิญญาณขันธ์เกิดดับ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เท่านั้น หากจะผิดอย่างยิ่ง ก็เพียงวิญญาณขันธ์ เพียงทำลายวิญญาณขันธ์ แล้วปล่อยให้ไปเกิดใหม่ เีรียนรู้ใหม่ เหตุใดจึงต้องทำลายดวงจิต???

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ12 มกราคม 2556 เวลา 18:43

    ขอบคุณครับ ที่ตอบ

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน