วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิวัฒนาการของพลังงานไปสู่ "พลังชีพ" และกลายเป็น "ชีวิต" ?

โอ้ย เดี๋ยวนี้เป็นอะไรนะ เปิดทีวีก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ เปิดเน็ต ก็ไม่รู้ว่าจะไปเล่นเว็บอะไรดี มือถือก็แทบไม่ได้ใช้มาไม่รู้กี่เดือนแล้วจนทางบริษัทส่ง SMS มาให้โปรโมชั่นเราเติมเงินซะเร็วๆ เต็มไปหมด ทั้งฟรีค่าโทร, ทั้งอะไรต่อมิอะไร เต็มไปหมด งงจริงๆ ไม่รู้จะโทรไปคุยอะไร กับใครดี ฮ่าๆๆ ตลกมะ? สงสัยพี่ชายจะขำอยู่คนเดียวนี่แหละ เอาละ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันนี้ มาด้วยเรื่องการวิวัฒนาการของพลัง ที่ไม่เหมือนกับการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต มันเป็นแค่การเปรียบเทียบเฉยๆ น่ะครับ แต่คล้ายกันทีเดียว เป็นอย่างไรละ? ก็ลองอ่านดูครับ


อย่างแรก พี่ชายขอปูพื้นฐานก่อนด้วยคำสองคำ ๑. พลังงาน คือ อะไรที่มีศักยภาพพอจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ พี่ชายขอเรียกว่า "พลังงาน" เช่น ไม้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นถ่านได้ ก็ต้องมีพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องครับ ๒. ชีวิต คือ อะไรที่นอกจากจะเกิดและตายได้แล้ว ยังสามารถกระทำกิจต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ด้วยเพราะมันมีความคิด, จิตใจ, อารมณ์, ความรู้สึกฯลฯ เป็นต้น ส่วนคำว่า "พลังชีพ" ก็คือ พลังงานที่อยู่ในสิ่งมีชีวิต หรือมาจากสิ่งมีชีวิตโดยตรง ซึ่งมันจะมีคุณสมบัติบางอย่างคล้ายสิ่งมีชีวิตด้วย เช่น คล้ายมีความคิด, จิตใจ, อารมณ์, การรับรู้ ฯลฯ ได้ แต่ไม่ใช่เพราะมันมีจิตนะครับ แต่เพราะมันมีลักษณะอันหลงเหลือสืบเนื่องมาจากสภาวะของการมีชีวิตเป็นสัตว์มาก่อน อะไรแบบนั้น ดังนั้น หากเราจะพิจารณาพลังงานแล้ว จะทำให้่มีพลังงานหลายชนิด หลายประเภท ซึ่งพี่ชายขอแบ่งชนิดไว้ เป็นดังนี้

๑. พลังที่ไร้ชีวิต คือ พลังงานทั่วๆ ไป ที่ไม่มีชีวิต ไม่ได้รับคุณลักษณะบางอย่างจากสิ่งมีชีวิตเข้ามาด้วย เช่น พลังไฟฟ้า, พลังความร้อน ซึ่ง เป็นพลังงานที่วิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน รู้จักมากที่สุดกว่าชนิดอื่นๆ

๒. พลังชีพ คือ พลังงานที่อยู่ในสิ่งมีชีวิต, เกิดจากสิ่งมีีชีวิต หรือได้รับการสืบทอดคุณลักษณะบางอย่างจากสิ่งมีชีวิตมา ทำให้มีคุณลักษณะพิเศษเพิ่มขึ้นมา คล้ายว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตไปด้วย เช่น พลังปราณชีพ

๓. พลังมีที่มีชีวิต คือ พลังงานที่มีชีวิต หรือเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต ทั้งในมิติแห่งวัตถุสสารและในมิติแห่งพลังงานหยาบ และพลังงานละเอียด (มิติทิพย์) เช่น จิตวิญญาณ ก็จัดเป็นพลังงานที่มีชีวิตด้วย

สิ่งที่เราจะพิจารณาต่อไปคือ การเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของพลังงานจากพลังงานในข้อ ๑ ไป ๒ ไป ๓ (จากหยาบไปละเอียด) และจากพลังงานในข้อ ๓ ไป ๒ ไป ๑ (จากละเอียดไปหยาบ) ซึ่งมันเป็นไปได้ทั้งสองทางครับ หมายความว่า พลังงานหยาบ เช่น พลังไฟ อาจแปรเปลี่ยนไปสู่พลังชีพที่ละเอียดขึ้นได้ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งมีชีวิต หรือส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณได้ นี่คือ การวิวัฒนาการของพลังงานจากหยาบไปละเอียด และพลังงานละเอียด เช่น พลังจิตในมนุษย์ อาจวิวัฒนาการไปสู่พลังงานที่หยาบขึ้นได้ เช่น พลังจิตอาจแปรสภาพเป็นพลังชีพ (พวกพลังชี่กง) แล้วแปรสภาพให้หยาบลงอีก เป็นพลังไฟ ก็ได้ เหมือนอย่างที่เราเห็นคนบางคน ใช้พลังภายในจุดไฟเพื่อเผาอะไรๆ ได้น่ะครับ มันก็คือ วิวัฒนาการของพลังงานนั่นเอง


อย่างที่สอง พี่ชายจะเม้าืท์ต่อให้ลึกและละเอียดขึ้นไป ถึงเรื่องราวของการวิวัฒนาการของพลังงานเหล่านี้ ว่าพวกมันต้องผ่านอะไรมาบ้าง และต้องมีชีวิตที่โลดดผน ผจญภัยอย่างไร แต่ไม่อาจจะเม้าท์ได้หมดนะครับ มันจะยาวเกิน ขอเป็นแค่น้ำจิ้ม เอาไว้ให้ใครหลายๆ คนได้เป็นแรงบันดาลใจในการค้นหารายละเอียดที่ลึกซึ้งขึ้นกว่านี้ ด้วยตนเอง ดีกว่าครับ อย่างที่ยกตัวอย่างไปแล้วว่าบางกรณี พลังงานอาจแปรสภาพจากที่ละเอียดไปหยาบได้ จากพลังจิตกลายเป็นพลังไฟได้ หรืออาจจะแปรสภาพพลังงานจากหยาบเช่น พลังไฟ ไปเป็นพลังชีิพในตัวมนุษย์ ก็ได้เช่นกัน หรือถ้าใครยังไม่้เห็นภาพ พี่ชายอยากให้นึกภาพของสถาปนิกที่ใช้พลังความคิด สร้่างสรรค์สิ่งต่างๆ แล้วก็ขับดันให้เกิดสิ่งต่างๆ เป็นรูปธรรมออกมาตามความคิดนั้นๆ พอเห็นภาพการแปรสภาพของพลังงานนี้แล้วนะครับ เอาละ ในผู้ที่ฝึกแปรสภาพพลัง จนมีความชำนาญดีแล้ว เขา็ก็สามารถแสดงตัวอย่างให้เราเห็นการแปรสภาพพลังงานนั้นๆ ได้ แต่บางครั้งก็ยากเกินไปที่จะแสดงให้เห็นได้ครับ เพราะพลังหลายชนิดเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น พลังจิต เราก็มองไม่เห็น ใช่ไหมครับ มันจึงแสดงให้ดูได้ยาก บางอย่่าง เกิดขึ้นได้จริงตามการแปรสภาพพลังงานของเรา เช่น บางคนอาจใช้พลังจิตในการนึกถึุงเมืองที่ตัวเองอยู่ ที่สวยงามตามที่เขาต้องการ แล้วมันก็อาจจะเกิดขึ้นตามพลังจิตของเขานั้นๆ ได้ อย่างนี้ เราก็ไม่อาจสรุปหรือชี้ชัดได้ว่า สิ่งที่เกิดนั้นมาจากพลังงาน พลังจิตของเขาคนนั้นจริงๆ ซึ่งพลังจิตของเขาอาจขับดันผ่านวัตถุิสิ่งของและบุคคลให้สร้างสิ่งนั้นๆ ขึ้นมาก็ได้ (แต่เราก็ไม่อาจพิสูจน์และสรุปได้ชัดเจน) ในบางท่าน ซึ่งเข้าใจหลักการนี้ดี และนำไปใช้แล้ว เช่น การนึกถึงภาพของตัวเองที่ประสบความสำเร็จในการขายตรง ร่ำรวย เป็นเศรษฐีนี อะไรแบบนี้ ซึ่งคนที่สามารถแปรสภาพพลังงานไปสู่พลังหยาบที่เป็นรูปธรรมเชิงวัตถุได้ ก็จะส่งผลให้เกิดขึ้นจริงได้ แต่ในคนที่มีปัญหา หรือไม่อาจจะแปรสภาพของพลังงานให้ไปสู่ความเป็นรูปธรรมเชิงวัตถุได้ มันอาจจะไม่เกิดสิ่งนั้นขึ้นมาจริงๆ ทว่า นั่นก็ไม่อาจพิสูจน์ได้อีกว่า การแปรสภาพพลังงานจากละเอียดไปหยาบ จนเกิดผลเป็นรูปธรรมเชิงวัตถุนี้ จะเป็นความจริงหรือไม่? แต่อย่างหนึ่งที่เราทราบดีและพิสูจน์ได้คือ วิธีนี้ ไม่มีค่่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่ต้องซื้อหาอะไรเพิ่มเติม ไม่มีต้นทุน ก็ใช้ได้ดีครับ


เอาละ อย่าลืมว่าพลังงานไม่สูญหายไปไหน และไม่อาจเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร้เหตุผลนะครับ หมายความว่าถ้าเราแปรสภาพพลังจิตพลังชีพของเราไปเป็นพลังในรูปธรรมเชิงวัตถุมากเกินไป มันอาจจะส่งผลให้พลังชีพเราลดลง ก็ได้ ดังนั้น ถ้าเรารู้จักการเพิ่มพลังงาน เพื่อปรับให้เกิดความสมดุลแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหามากนัก แต่ถ้าเราทราบเพียงเรื่องเทคนิคการแปรสภาพพลังจิตเป็นรูปธรรมเชิงวัตถุแล้วละก็ อาจส่งผลให้เราใช้พลังชีพมากเกินไป จนพลังชีพแห่งความเป็นมนุษย์ลดลงจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์ ก็ได้ครับ แต่เราอาจยังไม่ตาย เพราะเราอาจได้รับ "พลังชีพในกลุ่มที่ไม่ใช่มนุษย์" (พลังชีพของอมนุษย์) มาหล่อเลี้ยงชีวิตเราต่อไป ทำให้เรามีสภาพเป็น X-men ได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งหลายคนกำลังเป็นเช่นนี้ครับ เพราะใช้พลังมากเกินไป และทำให้เกิดรูปธรรมเชิงวัตถุมากเกินไป แต่ไม่ทราบวิธีเสริมเพิ่มเติมพลังงานหรือแปรสภาพพลังงานให้กลับมาสมดุลได้ ดังเดิม เอาละ หมดเวลาที่จะเม้าท์แล้ว เอาไว้วันหลัง จะได้เม้าท์ักันเรื่องนี้ต่อ แ้ล้วแต่ดวงนะครับ สำหรับวันนี้ พี่ชายต้องขอตัวไปพักก่อนนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ




1 ความคิดเห็น:

เม้าท์ด้วยคน