วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ยุคแห่งอมนุษย์ครองเมือง ภูติ ผี ปีศาจ เรืองอำนาจ!

อ๊ะ อย่าเพิ่งตกใจคิดว่ากำลังเล่นเกมคอมพิเตอร์อะไรอยู่นะครับ ด้วยเรื่องที่จะเ้ม้าท์ต่อไปนี้ มันคือเรื่องจริงแต่เราไม่คาดคิด ยังไงละ? ก็มีในไตรปิฎกไง มีในศาสนาต่างๆ และอะไรๆ อีกมากมายครับ ที่พูดให้เราเข้าใจแบบอ้อมๆ บ้าง ตรงๆ แต่บางส่วนบ้าง แต่เราก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจมันจริงๆ ยังมองไม่เห็นภาพที่แท้จริงของมันนัก ดังนั้น ในวันนี้ เราจะมาคุยกันเรื่องนี้ให้ตาสว่างกันไปเลย จะได้มองเห็นโลกอย่างที่มันเป็นจริงๆ เสียทีว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วอย่างไร ไม่ใช่หลงแต่ภาพเปลือกนอกที่ดูสวยงาม เป็นเปลือกอำพรางตาเราอยู่นะครับ ใช่แล้ว ผมเม้าท์ไม่ผิดหรอก อมนุษย์ครองเมืองจริงๆ ไม่เหลือมนุษย์อยู่หรอก ที่เราเห็นๆ กันนั้น ร่างสังขารเป็นคนครับ รวมทั้งเราด้วยนะ ฮ่าๆๆ แต่ข้างในตัวเรานี้ มีอะไรที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่ด้วยแหละครับ อั๊ยย่ะ อย่าเพิ่งตกใจไป เป็นเรื่องปกติ ธรรมดามาก เฉยๆ ไว้ แล้วมานั่งศึกษาให้เข้าใจกันดีกว่าครับ ว่าแท้แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเมืองมนุษย์ของเรา


อย่างแรกที่ผมอยากจะบอกท่านก่อนคือ กึ่งกลางพุทธกาลแรกนั้น ยังมี "พุทธบริษัทสี่" อยู่ เพื่อดูแลพระพุทธศาสนา ซึ่งพุทธบริษัทสี่นั้น ก็คือ "มนุษย์ทั้งหมด" นะครับ แต่หลังกึ่งกลางพุทธกาลไปแล้ว พุทธบริษัทสี่ ก็หมดลง เหลือแต่ ยักษ์, มาร, เทพ, พรหม มาดูแลพระพุทธศาสนา ซึ่งเขาเหล่านี้ล้วนเป็น "อมนุษย์" ครับ ไม่ใช่มนุษย์นะครับ ก็เลยได้อาญาสิทธิ์ อาญาธรรม จากพระพุทธเจ้าเต็มเปี่ยม มีอำนาจในเมืองมนุษย์เต็มที่ครับ พูดง่ายๆ ภูติ ผี ปีศาจ ครองเมือง ครองโลกกันละทีนี้ ไม่เรียกว่า "ยุคมืด" ก็ไม่รู้จะเรียกอย่างไร? แม้แต่มนุษย์ปกติ ก็เหมือนกัน เกิดมาแล้วไม่รอด ตายไปกลายเป็นหนึ่งในสี่เหล่าอมนุษย์นี้ก็มีไม่น้อย ดังนั้น เราจึงไม่ค่อยเห็นมนุษย์ปกติ มีอำนาจมาก หรือได้ครองอำนาจกันอีกต่อไป พวกที่ได้เป็นใหญ่นี้ ล้วนต้องเป็น "อมนุษย์" ทั้งนั้นครับเรียกว่า X-men ก็ได้ ง่ายดี ทันสมัยดี เห็นภาพชัดดี เอาละ  ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแบบนี้นะ ใครที่ยอมโง่ ถูกเขาหลอก ทั้งๆ ที่ตัวเองก็อยู่ในฐานะที่ดีกว่า สามารถครอบครองสิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่มีความผิด ก็จะกลายเป็น "บริวารของพระศรีอาร์ฯ" ครับ เรียกว่า ต้องกรรมมีความโง่ถูกเขาหลอกแล้วหลอกเล่ามาก่อน ค่อยสบายทีหลังครับ แต่บริวารของพระสมณโคดมนี่ มีแต่พวกฉลาดๆ หลอกลวงคนอื่นเขาเก่ง ก็ได้เสวยสุขไป อะไรๆ ในโลกก็เอาไปหมดครับ สุดท้าย ไม่ต่างอะไรกับเจ้าชายสิทธัตถะ ที่เสวยผลบุญอยู่ในฮาเร็ม มีปราสาทสามฤดูให้เริงรมย์ จนไม่เหลือบุญแล้ว ต้องเสวยกรรม ทนทุกขกริยา ๖ ปี ภายหลังครับ มันเหมือนกันแหละแบบนี้เลย ใครจะเอานิพพานในยุคของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็ต้องมีรูปแบบการเสวยกรรมเหมือนๆ กันไปแบบนี้ ฉลาดก่อน สุขก่อน แล้วเจอทุกข์ภายหลัง จนยอมแล้วจ้า นั่นแหละ จากนั้น เหล่าอมนุษย์ก็จะเร่มาหาร่างสังขารคน เพื่อที่จะได้ใช้ไปสู่ความหลุดพ้น เพราะอะไร? เพราะไม่เหลือบุญแม้แต่จะได้ผุดได้เกิดเป็นคนอีกแล้ว ตามสโลแกน "ชาตินี้ ชาติสุดท้ายแล้วโยม" (ที่จะได้เกิดเป็นผู้เป็นคนกะเขา) นี่ละ ยุค "อมนุษย์ครองเมือง" ที่ผมพูดถึง


อย่างที่สอง เมื่อสัตว์สี่เหล่าเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ใช่มนุษย์ ไม่พุทธบริษัทสี่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่กลายเป็น ยักษ์, มาร, เทพ, พรหม แทน วิถีทางเข้าสู่ธรรม มันก็เลยเปลี่ยนไปครับ อย่างแรกต้องเข้าใจว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีร่างสังขาร ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องหลากหลายมิติไงครับ จะยึดมั่นถือมั่นแต่มิติของโลกมนุษย์อย่างเดียวเหมือนก่อนไม่ได้อีกแล้ว เอาละ ทีนี้ ทั้งสี่เหล่านี้ ไม่ไ่ด้มาแบบพร้อมกันทั้งหมดนะครับ คือ มาแบบยังไม่พร้อมครับ อย่างไร? ก็คืออย่างนี้ครับ พวกยักษ์ก็จะมาจากยักษ์มิจฉาทิฐิ หรือ "อสูรร้าย" นั่นเองครับ, พวกมารก็จะมาจากมารร้าย นั่นแหละ ใช่เลย, พวกเทพ ก็จะมาจากพวกปีศาจ ต้องผ่านการชำระล้างก่อน, พวกพรหมก็มาจากภาคมืดเหมือนกัน ทั้งหมดนั้นจึงต้องผ่านกระบวนการของ "จักรวาล" ก่อน นั่นคือ กระบวนการชำระล้างจิตวิญญาณ จึงจะพร้อมรับธรรมได้นะครับ ไม่เช่นนั้นก็จะนำพาพระพุทธศาสนาไปผิดทิศผิดทางอย่างที่เห็นกันอยู่ คือ เขาจะมาแบบผิดๆ ไปก่อน ทำงานมั่วๆ ตามความคิดของเขาไปก่อน เมื่อทำมากพอแล้ว ก็จะถูกชำระล้างอีกทีครับ ดังนั้น จะผิดมาก่อนแล้วค่อยมาถูกทีหลังครับ เช่น บางคนมาหลงตัวเอง ยกตัวเองเป็นอรหันต์ รับเงินทองมาสร้างวัดก่อนเลย ผิดทางไปก่อน แล้วพอหมดบุญ กรรมเข้าตัว มาสำนึกผิดได้ คิดได้ ได้สติ ก็เข้าทางทีหลัง ทีนี้ก็จะไม่มีใครมาสนใจแล้วครับ เพราะเขาคิดว่าหลอกลวงไงครับ (ตอนหลอกดันชอบ ดันหลง แต่พอบรรลุจริง ไม่มีใครสนใจ หุๆๆ) ซึ่งทั้งหมดนี้ เขาจะทำผ่านสังขารมนุษย์นะครับ หมายความว่า เขาจะใช้ร่างมนุษย์ ประสานงานกัน ในการทำกิจกรรมต่างๆ ครับ อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ ยุคนี้ ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ๑๐๐% กันหรอก มีอะไรๆ แฝงเข้ามาเยอะแยะ แต่จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ก็เท่านั้นเอง ผมถึงเรียกว่าพวก X-men ไงครับ


เอาละ เม้าท์มามากแล้วอย่าเพิ่งหลอกกันก่อนละ เพราะพี่ชายไม่ได้มาหลอกผีใคร มันเป็นเรื่องจริงมานานแล้ว และอยู่กับตัวเราด้วย รอบตัวเราก็มีด้วย ผู้คนทั้งหลายก็มีด้วย มีกันทั้งนั้นเลย น้อยแล้วละที่จะเป็นมนุษย์ปกติกัน คนที่เป็นมนุษย์ปกติได้ ก็จะไม่เก่งอะไรเลย ล้าหลัง ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น อยู่เขา, อยู่ป่า, อยู่ถ้ำ, อยู่เกาะร้าง ไป ซึ่งมันหาไม่ไ่ด้ในประเทศไทยแล้วละ ขนาดชนเผ่าผีตองเหลืองยังไม่มีเหลือเลย หมดแล้ว "มนุษย์แท้ๆ" น่ะครับ โลกมนุษย์ถูกยึดครองไปตั้งนานแล้วรวมทั้งเราๆ ท่านๆ ด้วยนะ โดนยึดครองกันอยู่แบบไม่ค่อยจะรู้ตัว แบบแนบเนียน และค่อยๆ กลืนกินและกลมกลืนมายาวนาน ก็อย่าตกใจไป อย่ากลัวผีเลย เรานี่แหละ "ตัวประชุมผี" เลยละ ฮ่าๆๆๆ โอ้ย ไม่ต้องคิดมาก เป็นอยู่แล้ว เป็นกันมานานแล้ว ก็ปรับตัวอยู่กันต่อไป ไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด, ดีหรือชั่ว อะำไร ทำหน้าที่ของเราให้ดีก็แล้วกัน เอาละ ดึกแล้ว เด็กๆ ก็นอนซะนะ จะได้ตื่นเช้าๆ ราตรีสวัสดิ์ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน