วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

การตีตราบาปจากซาตาน คุณจะหลุดพ้นได้อย่างไร?

แปลกจริง อากาศเีดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย อ๊ะ ไม่ได้แปลกอะไรหรอก ถ้าใครเคยอ่านบทความเกี่ยวกับเทพีไกอาที่พี่ชายเคยเม้าท์ให้ฟังว่าจะมีการทดสอบมนุษย์ว่าปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้ดีแค่ไหน? เอาละ มาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า วันนี้เรื่องของการ "ตีตราบาป" อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเครียด แต่รู้ไว้บ้างก็ดีนะ จะได้ระวังตัวไว้ อ้อ แต่อย่าสับสนกับการ "ตีตราจอง" นะครับ คนละอย่างกัน ดังบทความต่อไปนี้


อย่างแรก พี่ชายอยากจะปูพื้นก่อนว่า "การตีตราบาป" ก็คือ การที่ใครสักคนถูกสังคมหรือบุคคลหนึ่งคนใด "ตีตราว่าเป็นนั่นเป็นนี่" แล้วจะมีความผิดบาปตลอดไป พูดอะไรไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อถือ พูดไปก็ผิดหมด เพราะคนมองว่าเป็นตัวผิดบาปเหมือนถูกตีตราบาปไว้ นั่นเอง เช่น ในยุคสมัยหนึ่งมีการตีตราบาปว่า "แม่มด" คือ ถ้าใครถูกตีตราบาปว่าเป็นแม่มด ก็จะถูกมองว่าเลวร้าย หรือมีความผิดไปหมด อันนี้ เคยเกิดขึ้นแล้ว เรียกว่า "ลัทธิล่าแม่มด" ของยุโรปเขา ใครถูกตีตราบาปนี้ก็จะถูกสังคมรุมเล่นงานอย่างไรก็ได้ได้แม้กระทั่งจับเอาไปเผาไฟทั้งเ็ป็นเลย ยังมีของจีนก็มี เช่น การตีตราบาปว่าเป็น "มาร" ก็จะถูกรุมเล่นงานเช่นกัน โดยไม่สนใจอะไรละ รุมยำแม่งมันเลย อะไรแบบนั้น ของไทยก็มี เช่น ตีตราบาปว่าเป็น "ปอบ" จะโดนเล่นงานหรือขับไล่ออกไปเลย ก็มี ตีตราบาปว่าเป็น คอมมิวนิสต์ ก็มี สมัยก่อนไม่นานเท่าไร นักศึกษามากมาย โดนตีตราบาปแบบนี้ แล้วทหารก็เข่นฆ่านักศึกษา เหมือนว่าพวกเขาไม่ใช่คนอย่างนั้นเลย เีรียกว่าต้องหนีตายอย่างเดียว พูดไม่ได้ อธิบายอะไรไม่มีใครฟังแล้ว ทั้งมัดมือชก ทั้งปิดปากหมดเลยอ่ะ นี่ละ เรียกว่าการ "ตีตราบาป" ครับ ซึ่งผู้ที่ทำแบบนี้ได้ ต้องมีพลังของ "ซาตาน" ครับ ซาตานจะใช้ร่างคนๆ นั้น ตีตราบาปศัตรูของตน โดยไม่สนใจว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร คนๆ นั้นเสนออะไรให้บ้าง ไม่ดูอะไรอีกละ ตีตราบาปแล้วก็ทำได้ทุกอย่าง อย่างกับว่าเขาไม่ใช่คนซะอย่างนั้นเลย เดี๋ยวนี้มีการ "ตีตราบาป" แบบใหม่ๆ เยอะครับ เช่น การตีตราบาปว่าเป็น "พวกมหายาน" ถ้าใครถูกตีตราบาปแบบนี้ เรียกว่า พูดอะไรออกมาต้องผิดหมด ไม่สนใจกันละ ว่ารายละเอียดเขาพูดว่าอย่างไร ถ้าตีตราบาปได้ว่า "ไอ้มหายาน" แล้วละก็ ผิดทุกอย่าง เออ เป็นซะอย่างนั้น แท้จริงแล้ว มันไม่มีใครผิดเพราะการเป็นอะไรหรอก แม้แต่การเกิดมาเป็นโจร มันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะผิด เพราะความผิดของคนอยู่ที่การกระทำ ถ้าโจรกำลังไปซื้อข้าวให้แม่กิน แล้วสังคมก็รุมประนามว่า "เฮ้ย นั่นไอ้โจร ไปรุมกระทืิบมันเลย" อย่างนี้ เห็นภาพไหม เขาตีตราบาปแล้วกระทำต่อเพื่อนมนุษย์กันอย่างนี้ เรียกว่าพอตีตราบาปได้ว่ามันคือไอ้โจรแล้ว จะรุมกระทืบเขาอย่างไรก็ได้ ถ้ายังไม่เห็นภาพลองเปิดทีวีดูละ เวลาจับใครทำผิดได้นะ จะมี "พวกชอบรุมกระทืบคนอื่นอ่ะ" มารอกระทืบเต็มไปหมด ถามว่าคนเหล่านี้เป็นใคร เป็นเ้จ้าทุกข์หรือเปล่า? ทำความดีอะไรนักหนากับผู้ตายไหม? บางที ก็ไม่เคยแม้แต่จะทำอะไรดีๆ ให้คนที่ตายคนนั้นเลย พอได้ยินข่าวนะ ก็มารุมยำตีน กระทืบโจรกันเต็มไปหมด นี่ละ สังคมแบบนี้ พุทธเขาก็ไม่ได้สอนนะ แต่เดี๋ยวนี้ชาวพุทธเป็นกันเยอะเลยละ ความผิดที่เขาทำก็ส่วนหนึ่ง เขา้ต้องได้รับโทษอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเพราะเขาเป็นคนทำผิด ใครก็จะไปกระทืบหรือทำอะไรกับเขาก็ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ นะ ถ้าคุณทักษิณโดนตีตราบาป แล้วสังคมนี้ ไม่มีใครชอบเลย กลับมาก็จะโดนรุมยำอย่างไรก็ได้ โดยไม่เห็นแม้่ว่าเขาคือมนุษย์คนหนึ่งเลย อย่างนี้ ใช่ไหม? มันก็ไม่ถูก ส่วนที่ผิดก็ว่าไปตามกฏหมาย แต่ไม่ใช่ว่าจะไปรุมเล่นงานใคร เพียงเพราะไปตีตราบาปว่าเขาผิด ทำอะไรก็ได้


อย่่างที่สอง แล้วทำอย่างไรดีละถ้ามันมีคนที่ชอบตีตราบาปอยู่ร่วมกับเราในสังคม คงแย่เนอะ ถ้าเราไม่เจอกะตัว เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน กับการถูกตีตราบาป ก็อย่ามาเกิดกะเราเลยนะ ฮ่าๆๆ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาละ ทำไงดี? เออ ก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอดออกมาให้ได้ เราก็ต้องพ้นตราบาปนั้นให้ได้ครับ วิธีอย่างหนึ่งคือ การกำเนิดใหม่ ก็คือการที่เราตายทางจิตวิญญาณแล้วเกิดใหม่ เหมือนคนใหม่ เราก็จะพ้นจากการถูกตีตราบาปได้ คนที่ตีตราบาปเรา ก็จะเล่นงานเราด้วยวิธีนี้ไม่ได้อีก ปกติ ซาตานจะใช้วิธี "พันธนาการด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น" นะครับ กับคนที่ถูกซาตานครอบงำ หรือเสียจิตวิญญาณให้แก่ซาตานแล้ว เขาจะใช้โซ่ตรวนผูกพันธนาการจิตวิญญาณเอาไว้ เช่น สัตว์เลี้ยงประมาณนั้นเลยละ แต่ถ้าจิตวิญญาณดวงไหน หนีจากการถูกพันธนาการไปได้ เขาก็จะตามมาเล่นงานด้วยวิธี "ตีตราบาป" คือ ใส่ร้ายว่าเป็นคนชั่วไปเลย ถ้่านึกภาพไม่ออกนะ สมมุติ นาย ก. ยอมขายวิญญาณให้ซาตาน ไปทำงานเป็นขี้ข้าเขา จับเด็กมาค้าประเวณี พอนาย ก. ไม่เอาแล้ว หนีออกมาได้ ซาตานก็จะใช้ร่างนายทุนคนนั้น ในการตีตราบาปนาย ก. เช่น ตีตราบาปนาย ก. ว่า เป็นพวกแพร่เชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ และกลายเป็นบ้าไปแล้ว (ใครๆ ก็อย่าไปเชื่อมันนะ) อะไรแบบนี้ ทีนี้ นาย ก. ก็จะโดนสังคมเล่นงาน เพราะคนในสังคมไม่รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนายทุนคนนี้ ว่าอยู่เื้บื้องหลังการค้าประเวณีทั้งหมด หรืออีกนัยหนึ่ง คนในสังคมอาจเป็นทาสของซาตาน ได้รับเงินจากซาตานผ่านร่างของนายทุนคนนี้ ก็เลยเข้าพวกกัน เชื่อกันไป โดยไม่สนใจความถูกต้องอะไรทั้งนั้น นี่แหละ ตัวอย่างการตีตราบาปง่ายๆ ซึ่งในสังคมทุกวันนี้ การตีตราบาป ยังมีไม่มากนัก เพราะอะไร? ก็เพราะคนส่วนใหญ่ ถูกพันธนาการอยู่ แล้วยังไม่ได้หลุดพ้นออกมาจากโซ่ตรวนเหล่านั้นเลย พวกเขาก็เลยยังไม่ได้ถูกตีตราบาป เป็นสิ่งต่อไป นั่นเอง สุดท้าย คนที่ถูกตีตราบาป ต้องถูกสังคมโดดเดี่ยวและไม่มีใครเชื่อถือ ทำให้กลายเป็นคนต่อต้านสังคมไปได้ ประมาณนั้น


เอาละ พี่ชายเม้าท์แค่พอหอมปากหอมคอนะ เดี๋ยวจะเครียดกันเกินไป หึๆ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างเดียวนะ มันเกิดขึ้นจริงทั้งในมิติแห่งวัตถุสสาร และในมิติทิพย์เลยเชียวละ แต่เ้ม้าท์ให้ฟังกันเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธี จะได้รู้ไว้ ระวังตัว ไม่ประมาทอย่างไรละ เอาละ ไม่อยากรบกวนเวลาจู๋จี๋ของใคร บะบายก่อน ราตรีสวัสดิ์ครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน