วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

องค์ธรรมบิดา องค์ธรรมมารดา พระบุตร ชุดที่จะมาโปรดในปีหน้ามีลักษณะอย่างไร?

สวัสดีครับ อ่ะ วันนี้ขอนำเสนอเป็นทางการหน่อยนะครับ แต่ว่าไม่ได้ซีเรียสเกินไปนักครับ หัวข้อน่าสนใจมากครับ คือ "พลังงานขับเคลื่อนโลกในปีหน้า" นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไร? อย่างแรก ผมจำต้องบอกก่อนคือพลังในการขับเคลื่อนโลกแต่ละปี จะไม่เหมือนกัน และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ ซึ่งจะมีการหมุนเวียนเป็นวัฏจักร หนึ่งรอบเท่ากับ ๑๒ ปี บ้างในบางวัฏจักร หรือในบางวัฏจักรอาจมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ครับ เอาละ ต่อไปคือ พลังในการขับเคลื่อนโลก พลังงานหลัก จะมาจาก "องค์ธรรมบิดา", "องค์ธรรมมารดา" และ "พระบุตร" นะครับ สามพลังหลักนี้ มีอิทธิพลต่อโลกมากครับ ซึ่งจะไม่ได้มาจากไหนไกล สวรรค์จะคัดเลือกจากเทพที่มนุษย์รู้จักนั่นแหละครับ สำหรับในปีหน้า เราจะได้ องค์ธรรมบิดาคือ "เทพซุส" องค์ธรรมมารดาคือ "เทพีไกอา" และ พระบุตรจะมีสององค์ ได้แก่ ๑. เทพโปรมีธีอุส ๒. เทพจักราศีกุมภ์ ทั้งสององค์จะถือ "ธาตุ" ตรงข้ามกัน คือ เทพโปรมีธีอุสถือธาตุไฟ และเทพจักราศีกุมภ์ถือธาตุน้ำ โดยปีหน้ายังไม่ใช่วาระที่โลกจะได้รับการจัดสรรบุญนะครับ (ต้องเป็นปีต่อไปครับ คือ พ.ศ. ๒,๕๕๗) ดังนั้น ในปีหน้าจึงยังเป็นปีของการเสวยวิบากกรรมของมนุษย์โลกอยู่ครับ โดยพระบุตรสององค์นั้นจะทำหน้าที่ "ตรงข้ามกัน" เทพโปรมีธีอุสจะทำหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ "โดยฝืนลิขิตฟ้า-ชะตาสวรรค์" ผ่านการมอบพลังธาตุไฟให้ ส่วนเทพจักราศีกุมภ์จะทำหน้าที่ประทานวิบากกรรมแก่มวลมนุษย์ โดยมี "เทพจักราศีธนู" เข้่ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ โดยเทพจักราศีธนูจะได้รับพิษหรือป่วยหนักทรมานอยู่ จนไม่อยากที่จะมีความอำมตะอีกต่อไป ก็จะประทานความเป็นอำมตะให้แก่เทพโปรมีธีอุส พร้อมทั้งวิบากกรรมที่ต้องนอนทรมานด้วยครับ (ยังผลให้เทพโปรมีธีอุสต้องรับวิบากกรรมนอนรับทัณฑ์ทรมานจากเทพซุส) กล่าวคือ คนที่อยู่ในราศีธนู หรือเข้าข่ายได้รับพลังจากจักราศีธนู จะทำหน้าที่ส่งงานสืบทอดต่อให้โปรมีธีอุส ผู้คิดใช้พลังธาตุไฟช่วยเหลือมนุษย์ แตนั่นคือการฝืนชะตาสวรรค์ครับ ส่วนเทพจักราศีกุมภ์จะได้รับการโปรดปรานจากเทพซุส ทว่า ท่านจะทำหน้าที่ประทานบาปเคราะห์ให้แก่มนุษย์นะครับ ผู้ที่เกิดในราศีกุมภ์ก็ดี, ผู้ที่รับพลังจากจักราศีกุมภ์ ก็ดี, ผู้ที่บำเพ็ญบารมีแบบราศีกุมภ์ก็ดี (เช่น บาเทนเดอร์, คนส่งน้ำให้เทพ ฯลฯ) จะเป็นผู้ทำหน้่าที่ประสานพลังกับเทพจักราศีกุมภ์ได้ครับ


บทบาทขององค์ธรรมบิดาที่สำคัญในปีหน้า ก็คือ การโปรดและช่วยเหลือเทพจักราศีกุมภ์ (เหล่าชายงาม, หรือชายขายเหล้า ขายน้ำ ทั้งหลาย) และเล่นงานเทพโปรมีธีอุส (เทพที่นำพลังธาตุไฟจากสวรรค์ลงมาช่วยมนุษย์) เพื่อควบคุมเกมให้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นคือ ประทานบาปเคราะห์แก่มวลมนุษย์ก่อนในปีหน้า แล้วจึงมีเทพอีกชุดมาจัดสรรบุญให้ในปีถัดไป ส่วนบทบาทขององค์ธรรมมารดาคือ การปราบ "นายพรานนักล่าสัตว์" ไม่ใช่นายพรานจริงๆ นะครับ แต่เป็นผู้ที่ชอบล่าคนอื่น จับคนอื่นไปเป็นบริวารรับใช้ แล้วเกิดความหลงตัวเองว่าตนเป็นผู้ล่าที่จับคนอื่นได้เก่ง พระแม่ไกอาก็จะปราบความหลงตัวเองของบุคคลผู้นี้ ด้วยการใช้ "เทพจักราศีแมงป่อง" ให้ไปปล่อยพิษจนถึงแก่ความตายครับ หรือกล่าวง่ายๆ คนผู้นี้จะตายด้วยพิษครับ ซึ่งคนผู้นี้จะคิด "ล่าพระบุตร" คิดเอาพระบุตรมา่ช่วงใช้เป็นข้าทาสบริวาร แต่พระแม่ไกอาเห็นแล้วว่าเขาไม่อาจอยู่ในฐานะที่จะเหนือกว่าพระบุตรนั้นได้ ท่านจึงสั่งสอนครับ ดังนั้น ในปีหน้า "พระบุตร" องค์หนึ่งจะอยู่ข้างๆ องค์ธรรมบิดา และพระบุตรอีกองค์จะอยู่ข้างเหล่ามนุษย์ จะคอยคานอำนาจให้แก่กันและกัน โดยมีองค์ธรรมบิดาและองค์ธรรมมารดาช่วยสนับสนุนดังกล่าว เอาละ ปีหน้าเรายังคงต้องระวังเรื่องน้ำกันต่อไปครับ เพราะเทพที่ลงมาดูแลคือ "เทพจักราศีกุมภ์" ซึ่งมีพลังธาตุน้ำมาก (ปีที่แล้วที่ประเทศไทยน้ำท่วมหนัก ก็มีเทพพระจันทร์ผู้คุมธาตุน้ำบนโลก มาดูแลกระบวนการด้วยครับ) สุดท้ายนี้ ผมไม่ไ่ด้ทำหน้าที่ทำนายภัยพิบัติอะไรหรอกนะครับ เพียงแต่รายงานการทำหน้าที่ของ "มิติทิพย์" ในปีหน้า ไว้ล่วงหน้าให้ทุกท่านทราบ ก็เท่านั้นเอง ปีหน้า ยังคงไม่ใช่ปีของพระสุริยเทพ ยังไม่สว่างไสว เรายังต้องทนกันต่อไปอีกหน่อยนะครับ นั่นก็หมายความว่า "เราจะยังมีโอกาสมากขึ้นไปอีก ๑ ปี ในการที่จะพัฒนาตัวเองอย่างยิ่งยวด" นั่นเองครับ สำหรับใครที่ยังเลื่อนระดับไปได้ไม่มาก ยังมีเวลาครับที่จะเลื่อนระดับตัวเองให้ได้ยิ่งยวดในปีหน้า สำหรับบทความนี้ ผมขอจบลงเท่านี้ครับ    

1 ความคิดเห็น:

  1. ซึ่งพลังงานใหม่ และเทพชุดใหม่ที่จะลงมาทำหน้าที่ในปีหน้านี้ได้นั้น จำต้องชำระล้างพลังงานเก่าเบื้องล่างก่อนครับ มันเป็นพลังงานเชิงซ้อน หลายชั้น เมื่อมนุษย์โลกคนใดที่ชำระล้างพลังงานเก่าได้ เป็นชั้นๆ ไป ไล่ไปจนถึงจุดหนึ่ง ก็จะได้รับพลังงานใหม่มาแทนที่ได้ครับ อนึ่ง ปีหน้า เป็นเทพที่มีพลัง "สายฟ้า" มาทำหน้าที่เป็นองค์ธรรมบิดาครับ ซึ่งในระดับชั้นแรก เทพรามสูร จะลงมาก่อน พร้อมขวานทิพย์ที่มีพลังสายฟ้าครับ แต่หลังจากได้รับการชำระล้างแล้วก็หมดภารกิจไปครับ จากนั้น ก็มีจิตวิญญาณในระดับอื่นๆ เรียงๆ กันมาเพื่อทำหน้าที่ครับ (เหมือนพลังงานที่ซับซ้อนหลายๆ ชั้นครับ) เมื่อเราชำระล้างได้หลายๆ ชั้นแล้ว จนถึงจุดหนึ่ง ก็จะเข้าที่คือ ถึงระดับของ "เทพซูส" ได้ครับ


    อนึ่ง ในการเตรียมโลกใหม่ให้พร้อมนั้น เราจะใช้พลังของจิตวิญญาณแต่ละดวงช่วยกันครับ เช่น พลังของเทพีไกอา ก็ดี, พลังของเทพหนี่วา ก็ดี แล้วแต่ว่าเราจะได้พลังของเทพองค์ใดครับ ทีนี้ ก่อนที่จะถึงวาระที่โลกจะได้รับผลบุญ สว่างสดใส (รุ่งสาง เทพพระอาทิตย์ปรากฏ) จะเริ่มต้นจากการเตรียมโลกก่อน ต่อมาจึงเป็นเทพแห่งท้องฟ้าราตรี (ยูเรนัส) ซึ่งกลืนกินเทพอีกหลายองค์เข้าไป ก่อนที่จะคลายออกมา พร้อมก่อเกิดเป็นเทพแห่งท้องฟ้ากลางวัน (ทิวา ก็คือ เทพซูส นั่นเอง) เมื่อท้องฟ้าที่สว่างไสวเกิดแล้ว จึงจะตามมาด้วยดวงอาทิตย์เกิดตามมาทีหลังครับ (เทพพระอาทิตย์ครับ)

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน