วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การตกระัดับของ "นักเลื่อนระดับ" เป็นอย่างไร?

ขอแปลงร่างเป็นพี่โน้ต อึดม แว้บนะ อ๊ะ ได้แล้ว ... เปิดไมค์ยัง? ฮาโหลๆ โอเค ไ้ด้แล้วเดี๋ยวไมโครโฟนได้เลย ... "เมื่อวานเห็นไก่ย่าง น่ากินมากๆ พูดแล้วน้ำลายไหล (น้ำลายไหลได้แต่อย่าหางกระดิก เดี๋ยวถูกตรวจจับสัญชาติ) เพื่อนส่งมาให้ดูทางกูเกิ้ล อีกคนก็ตอบไปว่่า น่ากินจัง, อีกคนก็เอามั่ง ส่งมาให้กินมั่งดิ เออ อีห่า จะกินเสือกไม่บอกว่าจะให้ส่งทางอีเมลหรือทำพิธีเผากงเต็กไปให้ งั้นก็ไม่ต้่องกินมันละกัน ว่าแ้ล้วก็ถ่ายรูปตอนไก่ย่างกำลังเข้าปาก แช๊ะ! จะกินแล้วนะตัวเอง ... ภาพสุดท้าย ถ่ายอีกแช๊ะ เหลือแต่กระดูก เออ แล้วมรึงจะเอามาให้กูดูทำไมเนี่ย? แค่กินไก่ย่าง แม่งมันส่งรูปมาให้ใครดูไม่รู้ทั่วไปหมดเลย" ตัดบทจากเวทีเดี่ยวไมโครโฟนของพี่โน้ต อึดม มาเข้าบทความของเราแล้วกัน (เกี่ยวกันตรงไหนฟร่ะเนี่ย? อย่าคิดมาก ขำๆ น่า) เป็นเรื่องของการตกระดับของนักไต่ระดับครับ เรื่องราวไม่ยาก เล็กๆ สั้นๆ กวนโอ่งเล็กน้อย จะเม้าท์ให้ฟังก็แล้วกันครับ


เรื่องของการตกระดับ มันเกิดขึ้นได้กับนักไต่ระดับทั้งหลายครับ ซึ่ง "การตกระดับ" ก็เหมือนกับการลาพุทธภูมินี่แหละครับยกตัวอย่างเช่น นาย ก. เคยปรารถนาพุทธภูมิไว้่ ทำมาได้ ๗๕% แล้วเหนื่อยมาก ก็ลาพุทธภูมิได้ ผลคือ "เขาจะตกระดับ" ทันที ชีวิตจะดีขึ้น, ไม่ยากลำบากอย่างที่เคยเป็นมา ไม่ต้องเพียรบำเพ็ญผ่านการทดสอบอะไรมากมาย เรียกว่าอาศัยของเก่าที่ทำมา ๗๕% นั้นก็สบายตัวแล้วแต่จะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเท่านั้นเอง เอาเพื่อให้เห็นชัดขึ้น จะเม้าท์เรื่องพระพี่นางสุพรรณกัลยาให้ฟังก็แล้วกัน ในชาติันั้นเพราะบำเพ็ญบารมียิ่งยวดหนักมากได้ไปมากเลย ๘๐% กว่าแล้ว เรียกว่านำหน้าคนอื่นๆ (พระพี่นางฯ บำเพ็ญบารมีในตำแหน่ง "พี่สาวของพระพุทธเจ้า") ทว่า ด้วยความยากลำบาก "ตัวตนตัวหนึ่งซึ่งเป็นจิตวิญญาณ" (ในหลายๆ ตัว) ก็เลยท้อแท้ แล้วก็ถดถอยลงไป สุดท้ายก็ลาไปจากตำแหน่งพี่สาวครับ (ยังมีใครอีกมากมายที่บำเพ็ญในตำแหน่งนี้ที่รอให้เขาตกจากตำแหน่งก่อนครับ) เมื่อลาไปแล้ว เท่ากับว่าสละสิทธิ์ตำแหน่งพี่สาวพระุพุทธเจ้า จึงไม่มีเอี่ยวที่จะได้บุญจาก "เนื้อนาบุญ" แปลงนั้น เรียกว่าถูกตัดออกจากกองมรดกแห่งเนื้อนาบุญนั้น ทีนี้ ไม่ใช่ว่าจะหมดกรรมไปได้นะครับ กรรมของใครมันก็เท่าเดิมแหละครับ เพียงแต่พอไม่มีเนื้อนาบุญ ที่จะทำให้ได้ผลบุญเจือจางผลกรรมแล้ว ก็อยู่ไม่ได้ครับ ต้องเร่หา เร่เกาะผู้มีบุญบารมีคนอื่นไป สุดท้าย ก็ไม่พ้นต้องทำงานให้คนอื่นเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนผู้นำไปก็เท่านั้นเอง (ไม่รู้ว่าฉลาดเกินไปหรือโง่กันแน่นะ?) สรุปง่ายๆ ว่าคนเราทุกคนมีกรรมของตัว เหมือนมีหนี้ติดตัวอยู่ก้อนหนึ่ง พอเราไปหาพึ่งผู้นำที่มีบารมีมากได้ เราทำได้ผลมาก เราก็จะสบายหน่อย กรรมเข้าตัวเราน้อย แต่ถ้าเราได้นาบุญที่ไม่ดี ถึงเวลาใช้หนี้ เราก็จะได้มรรคผลบุญไปใช้่หนี้ได้น้อย นึกว่าผู้นำเป็นตัวร้าย (เช่น หลงคิดว่าพระนเรศวรเป็นเหตุให้พระพี่นางฯ ต้องยากลำบาก) เลยไม่เอาแล้ว เปลี่ยนใจ กลายเป็นว่าเสียนาบุญดีๆ ไปเลย ยากลำบากยิ่งกว่าเดิมอีก อันนี้เตือนไว้ให้ระวัง


จริงๆ แล้วมีคนอยากเป็นพระพุทธเจ้ากันมาก แม้แต่ใส้เดือน, กิ้งกือ ก็อยากเป็นทั้งนั้น ไม่แปลกนะครับ เพราะจิตทุกดวงมาจาก "พุทธะ" ก็ต้องคิดถึงรากเหง้าที่มาของจิตตัวเอง จึงปรารถนาพุทธภูมิ ทว่า ถ้ามีความเข้าใจในคำว่า "พระพุทธเจ้าบนโลก" กับ "พุทธะ" ซึ่งคำว่าพุทธะนี้เป็นคำกว้างๆ รวมๆ ครับ รวมอะไรไว้บ้างละ ก็ได้แก่ ๑. พุทธะ อันเป็นลักษณะเดิมแท้ของ "จิตวิญญาณต้นกำเนิด" ของจิตวิญญาณทุกดวง แต่ไม่ใช่ลักษณะของจิตนะครับ จิตมีลักษณะเดียว ประภัสสรไม่เป็นอื่น ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแม้แต่พุทธะ แต่ถ้่าประสานกับวิญญาณได้เมื่อไร ก็เป็นพุทธะไ้ด้ครับ คือ สูงสุดของวิวัฒนาการของจิตในโลกนี้ ซึ่งทุกคนสามารถกลับคืนสู่ภาวะเดิมแท้นี้ได้ ๒. พุทธะ ที่เป็นเอกอันได้รับเลือกแล้วว่าให้มาตรัสรู้บนโลกใบนี้ในตัวตนแห่ง "มนุษย์โลก" (พุทธะอื่นๆ มีัตัวตนที่ไม่ใช่มนุษย์ และอยู่ดาวอื่น) ซึ่งแบบนี้มีอยู่น้อยมากๆ ไม่ใช่ลักษณะที่ทุกคนจะเข้าถึงหรือเป็นได้ ก็มีเฉพาะไม่กี่คนเหมือน ๑ ในเม็ดทรายในมหานที นั่นแหละ ! เพราะว่าต้องผ่านด่านทดสอบอะไรมากมาย ทำให้หลายคน "ลาพุทธภูมิ" ไปในที่สุด (แต่ก็ยังมีโอกาสได้ "พุทธะ" ได้นะครับ) ทีนี้ พอลาแล้ว ตกระดับลงมาแล้ว ชาติภพจะหดสั้นลง ความยากลำบากและแบบทดสอบจะหายไป จะมีเหลือแต่"กรรมเก่าตกค้าง" เอามาคิดหักลบกลบหนี้เพื่อชดใช้ให้หมดไป ก็เท่านั้น ดังนั้น ทันทีที่ลาพุทธภูมิ ก็ดี, ตกจากตำแหน่ง ก็ดี หรือลาจากตำแหน่งอื่น เช่น พี่สาวพระพุทธเ้จ้า, นางแก้วของพระพุทธเจ้า ก็ดี ฯลฯ ผลคือ "แบบทดสอบและความยากลำบากอื่นๆ หมดสิ้นไป" บุญเก่าที่ถูกกั๊กไว้ไม่ออกดอกผลเสียทีก็จะออกมาให้เต็มที่ตามใจหวัง พร้อมๆ กับกรรมเก่าที่จะประเดประดังเข้ามาเพื่อให้ชดใช้หนี้กรรมเก่าให้หมดด้วย (ตามมาในเวลาไม่นานนัก ดุจเงาตามตัว) ดังนั้น ในช่วงแรกของการลา, การตกระดับมันจึงดูเหมือนชีวิตดีขึ้นมากแต่ตอนหลังมันจะมีกรรมถาโถมเข้ามา แถมไม่เหลือนาบุญจะทำ, ไม่มีบุญหนุนรับที่นี้ก็จะ "หาที่พึ่งพิงไม่ได้" ต้องรับผิดชอบกรรมของตัวเอง โดยไม่มีใครช่วยได้เลย นอกจากจะหา "ที่พึ่งพาใหม่หรือนาบุญแปลงใหม่" ก็ถ้ามันไม่ได้ดีกว่าแปลงเก่า ก็เหนื่อยยาว ต้องเริ่มต้นทำใหม่อีก ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมเลย เอาละ เม้าท์ให้ฟังกันเล่นๆ เท่านี้ ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเครียดมากไป อย่างไรก็แล้วแต่คุณจะเลือกเองก็แล้วกัน สวัสดีครับ ...     

2 ความคิดเห็น:

  1. พักที่ศาลาพักร้อน และดื่มน้ำเย็นๆสักแป๊บบบ คริ๊ คริ๊ ......... :)

    ตอบลบ
  2. ว่าจะยอมแพ้แระส์ แต่คิดๆดูอีกที ไปเรื่อยๆดีกว่า เหนื่อยจริงๆเมื่อไหร่ ก็ลาเมื่อนั้นแหละ

    ทุกคน เอาใหม่นะ แ่่ข่งอยู่คนเดียว กับตัวเอง มันเหงา

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน