วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การโปรแกรมมิ่ง "ภวังคจิต" อาจทำให้คุณฝึกจิตขณะหลับก็ยังได้?

"..... ไม่ใช่คนในนิยาย แต่เป็นคนที่รักเธอ อย่ามาเจอ ถ้าเธอไม่ได้ต้องการ ..." อ๊ะ เคยฟังเพลงนี้ไหมเอ่ย? เขียนให้อ่านเล่นๆ แต่ให้ฟังเสียงร้องจริงๆ ไม่ได้ เพราะว่า "มันส์ไก่มาก" เพราะมว้ากกก เจ้าคร้า โฮ่ๆๆ จิงเกิลเบลๆ จิงเกิ้ล ออนเดอะเวย์ เอาละ เม้าท์เล็กๆ มุขแป้กๆ วกเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันนี้ ผมจะสอนการนอน มามะๆ มานอนกัน นอนกัน อั๊ยย่ะ ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ อย่าเพิ่งจินตนาการเตลิดเปิดเปิงไป มันคือเรื่องการนอนจริงๆ แต่มีเนื้อหาอย่างไรนั้น ลองดูกันเลยครับ


ก่อนอื่น ถ้าคุณเคยดูหนังหรืออ่านนวนิยายกำลังภายในเรื่อง "มังกรหยก" ภาค "จอมยุทธ์อินทรีย์" แล้ว คุณจะพบว่าตัวเอกของเรื่อง มีวิธีการนอนบนเตียงหยกเย็น ทำให้สามารถฝึกปรือพลังวัตรไปได้ขณะที่นอนหลับนั้นด้วย โดยไม่เีสียเวลาเปล่าไปนะครับ วันนี้ ผมจะมาเผยเคล็ดลับการนอนหลับอย่างไร จึงเป็นการฝึกพลังจิตไปในตัวด้วยครับ อนึ่ง การนอนหลับอาจไม่ใช่การไม่ทำอะไรเลยหรือการพักอย่างเดียว สรุปก็คือ "มันขึ้นอยู่กับจิตขณะหลับดวงสุดท้าย" ว่าเป็นอย่างไร มันจะกลายเป็น "โปรแกรมตลอดเวลาหลับ" ครับ เช่น ถ้าคุณหลับไปขณะจิตสุดท้ายที่ "เพลียและอ่อนล้า" คุณก็จะถูกโปรแกรมให้ตลอดเวลาที่หลับนั้นอยู่ในภาวะเพลียและอ่อนล้า ดังนั้น เมื่อคุณตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอะไรเลย คุณก็ต้องการนอนหลับมาขึ้น คิดว่าตนเองได้นอนน้อยเกินไป ทั้งๆ ที่จริงแล้ว "ไม่ใช่ครับ" มันเป็น การนอนที่ไร้ประสิทธิภาพต่างหาก ในทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็บอกว่่าถ้าคุณมีการนอนที่มีประสิทธิภาพแล้ว คุณอาจไม่ต้องใช้เวลานอนมากเลย และสามารถตื่นขึ้นมาไ้ด้ด้วยความสดชื่นกระปรี้่กระเปร่า แต่ก็ไม่อาจอธิบายต่อได้ว่าการนอนให้มีประสิทธิภาพนั้น ทำได้อย่างไีร? ผมจึงได้ทำการศึกษาด้วยการทดลองเพิ่มเติม สรุปว่า มันขึ้นอยู่กับจิตดวงสุดท้ายก่อนหลับนั่นเอง เมื่อเราหลับลงไปแล้วมันจะตกลงสู่ห้วงแห่ง "ภวังค์" ที่ต่างกันไปตามจิตดวงสุดท้ายของแต่ละคน ถ้าคนไหนนอนหลับไปด้วยจิตสุดท้ายที่อ่อนเพลีย มันก็กลายเป็นการโปรแกรมในตลอดเวลาที่นอนหลับนั้น "อ่อนเพลีย" แต่ถ้าจิตดวงสุดท้ายก่อนที่จะหลับๆ ไปด้วยจิตที่ผ่องใสหรือมีพละกำลังใจดีมันก็จะเซ็ตโปรแกรมในภวังค์ขณะที่หลับนั้นให้เป็นเช่นนั้นตลอดเวลาหลับเลย เหมือนว่าจิตพักทำงานแต่ก่อนพักทำงาน จิตทำอะไรกับร่างกายก็จะเซ็ตให้ร่างกายมีโปรแกรมอย่างนั้น ถ้าคุณคิดว่าคุณกำลังฝึกพลังจิตก่อนที่จะหลับ คุณก็เลยโปรแกรมจิตให้ผ่องใสจนถึงหลับไปได้ มันก็จะผ่องใสตลอดเวลาที่คุณหลับและตื่นขึ้นมาด้วย โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งทำสมาธิหรือฝึกพลังจิตแบบอื่นๆ เลย (ถ้าคุณสามารถทำได้นะ)


หลายคนมีปัญหากับ "การหลับ" มากเพราะก่อนหลับทำงานเยอะและอ่อนเพลียจึงหลับไป บางคนที่แต่งงานแล้ว ก็มีกิจกรรมทางเพศกับคู่นอนก่อนหลับ ทำให้อ่อนเพลียแล้วหลับไปเลย โปรแกรมของร่างกายก็ถูกเซ็ตให้ "อ่อนเพลีย" ไปตลอดเวลาที่หลับนั้น เหมือนเราปล่อยให้ร่างกายขณะหลับตอกย้ำอยู่กับโปรแกรมอ่อนเพลีย นั่นเอง เอาละ ผมขอแนะนำการหลับที่มีประสิทธิภาพให้ นั่นคือ การเตรียมตัวให้ดีก่อนหลับ เพื่อให้จิตของคุณผ่องใสและไม่นำร่างกายเข้าสู่โปรแกรมที่ไม่ดีก่อนที่จะหลับไป และทำให้การหลับของคุณกลายเป็นการฝึกพลังจิตที่ดีได้ นั่นก็คือ การให้เวลาว่างก่อนที่คุณจะหลับสักระยะหนึ่ง เช่น สักหนึ่งชั่วโมงที่คุณจะเคลียร์ทุกอย่างให้ปลอดโปร่ง, โล่ง, สบายใจ, มีจิตใจผ่องใสเบิกบาน ฯลฯ แล้วก็หลับไปด้วยจิตดวงสุดท้ายแบบนั้น ก็จะไม่ต่างจากการทำสมาธิตลอดทั้งคืนนักเลย แต่ผมไม่แนะนำให้คุณทำสมาธิลึกจนหลับไปนะครับ เพราะมันจะเกิดโปรแกรม "ดึ่งลึก" เหมือนคุณถูกดูดลงเหวลึกไปเรื่อยๆ ขณะหลับโดยไม่รู้ตัว พอคุณตื่นขึ้นมา มันจะตื่นยากมากเหมือนคุณต้องลุกขึ้นมาจากที่ๆ ลึกมากๆ น่ะครับ ผมแนะนำให้ "สดชื่นผ่องใส" ก่อนหลับครับ แล้วคุณจะมีร่างกายและจิตใจที่ผ่องใสสุขภาพจิตดีทั้งกายและใจ อายุยืนยาว และอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงโดยไม่ต้องพึ่งวัตถุทางวิทยาศาสตร์อะไรเลยครับ สำหรับบทความนี้่ ไม่มีอะไรมาก เป็นเคล็ดลับการหลับ สวัสดีครับ...  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน