วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ภัยพิบัติไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าต้องการ ท่านไม่ได้เคลียร์พลังงานเก่าด้วยวิธีนี้?

โอ้ย หม๋ายก้อด นึกมุขไม่ออก ขำไม่ออกน่ะ ตัวเอง จะแปลงร่างเป็นกระเทย ทำมุกแบบตลกคาเฟ่ ก็ไม่มีอารมณ์แบบนั้นอ่า วันนี้ มีแต่ความจริงจังมาก ถึงมากที่สุด เอ้า ช่างมัน ธรรมะ ธรรมชาติ มันเป็นแบบนี้ จะไปฝืนมันเพื่ออะไร? ว่าแล้วเลยไม่มีมุกขำๆ หรือฝืดๆ มาเ่ล่นละครับ เข้าเรื่องจริงจังกันไปเลย วันนี้ ว่าด้วยเรื่อง "ภัยพิบัติ" ว่าไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าต้องการหรอกครับ (ดังนั้น ถ้าใครได้รับสื่อสารมาว่าพระเจ้าต้องการให้มนุษย์โดนแบบนี้ละก็ นั่นแสดงว่า "โดนหลอก" เข้าให้ละครับ) เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราก็เข้าเรื่องกันเลย ดังต่อไปนี้ครับ


มูลเหตุที่มนุษย์้ต้องรับสิ่งที่ไม่ดี ทางพุทธเรียกว่ากรรม ทางพลังจักรวาลเรียกว่า "พลังงานเก่า" ซึ่ง "พระเจ้า" ก็ดี, "พระบิดาจักรวาล" ก็ดี ไม่ได้ต้องการให้มนุษย์โลกเคลียร์กรรมด้วย "ภัยพิบัติ" เลยครับ ดังนั้น คนที่คิดว่ามนุษย์เลว ทำกรรมชั่วมาก สร้างพลังงานเก่าที่ไม่ดีเอาไว้มาก เลยสมควรจะได้รับภัยพิบัตินั้น "คิดผิด" นะครับ ถามว่าผิดอย่างไร? คำตอบคือ "การเคลียร์พลังงานเก่าหรือกรรมเก่าก็ดี" นั้น มันไม่ควรเคลียร์หรือรับแบบ "ภัยพิบัติ" ครับ เพราะมันจะทำให้คนไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เช่น โดนภัยพิบัติตายไปหมดเลย แล้วเขาก็จะไม่ได้เคลียร์กรรม เคลียร์พลังงานเก่าที่ค้างอยู่ระหว่างกันเลยครับ คือ ทุกคนตายเองไปหมด ไม่มีการเคลียร์กรรมหรือสร้างกรรมผูกกันให้เป็น "สัตว์สังคม" นะสิครับ ตายแบบนั้น โอกาสกลายเป็น "ปัจเจก" ก็มีเยอะสิครับ ซึ่งไม่ใช่ประสงค์ของสวรรค์เบื้องบน สิ่งที่สวรรค์ประสงค์คือ ต้องการให้เราเคลียร์กรรม, พลังงานเก่า ด้วยการใช้ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง "มนุษย์ด้วยกัน" นะครับ เพราะนี่คือ วิถีของสัตว์สังคม ไม่ใช่ตายไปโดยไม่เกี่ยวข้องกัน มีพลังงานอะไร มีภัยธรรมชาติมาทำให้ อันนั้น เหมาะกับคนที่เข้าสู่วิธีปัจเจกฯ นะครับ ไม่ใช่วิถีการตายของ "สัตว์สังคม" ครับ ถ้าตายด้วยสงคราม หรือมีสงครามฆ่ากันตาย อันนั้น ไม่แปลกครับ เป็นวิถีกรรมหรือการเคลียร์กรรม ในแบบสัตว์สังคมครับ ต่างคนต่างมีส่วนร่วมทั้งหมดครับ ไม่ใ่ช่รออยู่เฉยๆ ให้อะไรไม่รู้ เอาความตายหมู่มาให้แบบภัยธรรมชาติครับ


ดังนั้น แนวคิดเรื่อง "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" จึงเป็นแึค่ "น้ำจิ้ม" ครับ ให้มาเรียกน้ำย่อย เพื่อเตือนสติให้คนตื่นจากการหลงโลก แล้วหันมาทำิสิ่งที่ควรทำ ตามหน้าที่ของตน อันแตกต่างกันไปครับ เราจะอาศัยภัยธรรมชาิติเหล่านี้ "เป็นตัวหลัก" ในการเคลียร์กรรม, ชำระล้างพลังงานเก่า ไม่ได้หรอกครับ มันจะทำให้ปวงสัตว์กลายเป็นปัจเจกฯ ไปหมด สัตว์จะไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางกรรมระหว่างกันเลย เพราะไม่้ต้องมาทำอะไรต่อกันแล้ว ต่างคนต่างตายไปในภัยพิบัติ นั่นไม่ใช่วิถีของสัตว์สังคมครับ แต่มันอาจเกิดขึ้นได้ครับ และเกิดได้มากเมื่อ "มนุษย์โลกเข้าสู่วิถีปัจเจกฯ กันมากขึ้น" แต่ถ้าเราออกจากวิถีปัจเจกฯ แล้วเข้ามาสู่ "วิถีสัตว์สังคม" ให้มากขึ้น ภัยพิับัติก็จะลดลงเองครับ เพราะสวรรค์หรือธรรมชาติก็ดี จะไม่ต้องลงมือเองมาก มนุษย์โลกจะเคลียร์กันเองครับ พลังงานที่รุนแรง ที่ขับเคลื่อนให้เกิดภัยพิบัติ ก็จะไม่ถูกปล่อยให้ขับเคลื่อนโลกอย่างอิสระ จนกลายเป็นพลังขับเคลื่อนโลกให้กลายเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติอีกต่อไป แต่มันจะไหลถ่ายเทเข้ามาสู่ "ตัวมนุษย์" แทนและมันจะขับดันให้มนุษย์ทั้งหลาย กระทำกรรมต่อกัน, เคลียร์หนี้กรรมต่อกัน หรือชำระล้างพลังงานเก่าที่เกี่ยวข้องตกค้างต่อกัน ไปในที่สุดครับ ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าสงคราม คือ ธรรมดาของมนุษย์โลกนี้ ก็ใช่ครับ แ่ต่ถ้าจะบอกว่า "ภัยพิบัติทางธรรมชาิติ" คือ สิ่งที่เหมาะสมกับการเคลียร์กรรม หรือพลังงานเก่าของมนุษย์โลกนี้แล้ว นั้น "คงไม่ใช่ครับ" ดังเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นครับ สวัสดี ...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน