อย่างที่สอง ผมขอเข้าสู่วิธีการปลุกพลังแต่ละชนิด แค่เป็นตัวอย่างนะครับ ที่เหลือแล้วแ่ต่บุญวาสนาของแต่ละท่านเองที่จะค้นพบต่อไป
๑. ตกอยู่ในอันตราย : เช่น ไฟใหม้, โจรปล้น ฯลฯ จะช่วยปลุกพลังในการเอาตัวรอด เป็นพลังชีพซึ่งอยู่ในคนทุกคน ปกติคือ กุณฑารินีเย็น จะใช้ในการต่อสู้ แบบหลังชนฝา หมดทางหนี แต่ขอสู้ตายกันไปข้าง
๒. มีอารมณ์เพศ : หรือถูกกระตุ้นทางเพศ จะช่วยปลุกพลังชีพในการสืบพันธุ์ได้ พลังนี้จะถูกใช้ไปในการสืบพันธุ์ แล้วหมดไปเรื่อยๆ ทำให้คนที่ใช้พลังนี้มากๆ จะแย่ลง, แก่เร็ว และสูญเสียพลังไปได้มากครับ
๓. ติดเชื้อโรคแบบอ่อนๆ : หรือถูกฉีดวัคซีน จะช่วยปลุกพลังในการเผาผลาญฆ่าเชื้อโรค ปกติคือ พลังเอี๊ยง ทำให้ตัวร้อน, เป็นไข้ จนกว่าเชื้อโรคจะตายหมด ไข้จะลดลงเอง ไข้อ่อนๆ ทำให้พลังนี้แก่กล้าขึ้น
๔. ได้รับพิษไม่มากนัก : หรือกินอาหารที่มีสารพิษ ไม่สะสมมากเกินไป ตับทำงานสม่ำเสมอเหมือนได้ออกกำลังกาย ทำให้ประสิทธิภาพของตับสูงขึ้น เมื่อได้รับพิษ ก็จะมีพลังภายในต้านพิษได้ระดับหนึ่ง
๕. ผจญหนาว-ร้อน : หรืออยู่ในที่อากาศสูงหรือต่ำมากกว่าปกติ จะทำให้พลังอิม-เอี๊ยง ถูกกระตุ้นได้ ถ้าพลังถูกกระตุ้นและทำงานได้ดี ก็จะส่งผลดีต่อร่างกาย หรือนำไปใช้ในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากปกติได้
๖. เสียเลือด-บาดเจ็บ : การบาดเจ็บหรือเสียเลือดบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้เกิดพลังฟื้นฟูสภาพ พลังนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพให้กลับมาปกติดังเดิม ถ้าไม่บาดเจ็บ-เสียเลือดเลย พลังนี้จะอ่อนแอได้
๗. ความท้าทายใหม่ๆ : ถ้าถูกระทบด้วยสิ่งแปลกใหม่ หรือได้รับการกระตุ้นด้วยสิ่งแปลกใหม่ จะส่งผลให้พลังบางชนิดตื่นขึ้น พลังชนิดนี้ ทำให้อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และทำให้แก่ช้าลง ปกติคือ "พลังทารก"
๘. คลื่นเสียงและดนตรี : เช่น เพลงที่เร้าอารมณ์, ถูกใจวัยรุ่น ฯลฯ ก็อาจกระตุ้นให้พลังบางอย่างในตัวของพวกเขา ตื่นขึ้น และขับดันให้พวกเขายกพวกตีกัน ก็ได้ครับ (อันนี้ เพราะเขาควบคุมพลังไม่ได้)
๙. พลังจากมนุษย์ด้วยกัน : เช่น อาจารย์ใช้พลังในตัว ปลุกพลังในตัวลูกศิษย์ให้ตื่นขึ้น หรือถ่ายทอดพลังบางอย่างให้เล็กน้อยแล้วสอนให้ฝึกเพิ่มพูนพลังเหล่านั้นเอง ก็สามารถรับพลังไปพัฒนาต่อได้เช่นกัน
๑๐. ได้รับพลังจากภายนอก : เช่น พลังจักรวาล, พลังธรรมชาติ อาจด้วยเหตุบังเอิญ เป็นต้น ก็สามารถกระตุ้นพลังภายในบางอย่างให้ตื่นขึ้นได้ เช่น คนที่มีพลังมากตอนเทศกาลกินเจ ซึ่งไม่ใช่พลังของตน
เอาละ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้น แค่ยกตัวอย่างเท่านั้น แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ "พลังชีพพื้นฐานในตัวมนุษย์" ที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคนเท่านั้น มันยังมี "พลังธรรมชาิติ" ที่ไม่ได้อยู่ในตัวมนุษย์ แต่อยู่ในธรรมชาติ ก็เช่น พลังธาตุดิน, ธาตุน้ำ, ธาตุลม, ธาตุไฟ, พลังผลึกหินแร่ ฯลฯ ซึ่งปกติไม่มีในตัวมนุษย์ แต่มนุษย์โลกสามารถเปิดรับพลังงานเหล่านี้ไปใช้ได้ นอกจากนี้ ก็ยังมี "พลังจักรวาล" ที่มาจาก "นอกโลก" อีกหลายชนิด ที่ถ้าเราสามารถเปิดรับ, เลือกรับ, เรียนรู้ ฯลฯ ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายอีกเช่นกัน สรุปแล้วพลังงานที่ผมแนะนำทั้งหมด คือ สามกลุ่มใหญ่ๆ แต่ละกลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วยพลังอีกหลายชนิด
๑. พลังชีพในตัวมนุษย์ : คือ พลังพื้นฐานในการดำรงชีพ มีในทุกคน
๒. พลังธรรมชาติในโลก : คือ พลังธรรมชาติในโลก มีอยู่ในโลก
๓. พลังจักรวาลนอกโลก : คือ พลังที่มาจากนอกโลก ดาวต่างๆ
ทั้งสามกลุ่มนี้ ไม่เหมือนกัน พลังชีพในตัวมนุษย์ สามารถปลุกให้ตื่นขึ้นได้เอง จากภายใน ถ่ายทอดและให้คนอื่นได้ แต่พลังอีกสองชนิด จะมาจากภายนอก ที่ได้จากการรับเข้ามาเท่านั้น ไม่มีอยู่ในตัวมนุษย์มาก่อน ส่วนเทคนิกในการปลุกพลังแต่ละชนิดนั้น ปรมาจารย์แต่ละท่าน จะมีเคล็ดลับเฉพาะตัว แต่ปรมาจารย์บางท่าน ก็ไม่รู้เลย และไม่เคยปลุกพลังให้ศิษย์เลย, ไม่เคยถ่ายทอดพลังให้ศิษย์เลย หรือไม่เคยเคล็ดลมปราณให้แก่ศิษย์เลย ก็มีครับ ดังนั้น ผมจะไม่บอกไปมาก กว่านี้ เดี๋ยวจะเป็นการ "แย่งปรมาจารย์คนอื่นที่เขาทำมาหากินกันอยู่ อันเป็นการผิิดกฏชาวยุทธ์นะครับ" เพื่อไว้หน้าปรมาจารย์เหล่านั้น ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมากมาย ก็ขอไม่บอก และขอให้ท่านที่สนใจ ไปเรียนหรือรับโดยตรงจากปรมาจารย์แต่ละท่านตามแต่บุญวาสนาที่มีอยู่ กันเองก็แล้วกัน ก็ขอแนะนำเบื้องต้น พื้นๆ ตื้นๆ ก็เพียงเท่านี้
เอาละ เม้า้ท์มายาวไม่น้อย เดี๋ยวจะเยิ่มเย้อเกินไป ขอรวบลัดตัดความ สั้นๆ ง่ายๆ จบเอาดื้อๆ แบบนี้เลยละกัน เริ่มจะง่วงแล้ว จะได้ไปนอนกันละนะ ที่เหลือก็เก็บเอาไปฝันต่อเองละกันครับ ราตรีสวัสดิ์คร้าบ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เม้าท์ด้วยคน