วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง, การแลกภูติคุ้มครอง, คู่แฝดต่างมิติ และตัวตนภาคมืดที่กลับคืนมา!

บทความในวันนี้เป็นเรื่อง "ตัวตนที่แท้จริง" ที่ถูกปิดบังอำพรางไว้ด้วย "พลังบางอย่าง" ซึ่งมักอยู่ในรูป "ภูติคุ้มครอง" ครับ สรุปง่ายๆ คือ คนเรามักมีเปลือกนอกที่ไม่ใช่ตัวตนแท้ของเรา อำพรางไว้ ทำให้คนไม่รู้ ไม่เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา ว่าเราเป็นคนอย่างไรกันแน่ อย่างง่ายๆ เลย เราทุกคนที่ใช้เน็ตสื่อสารกันเนี่ย ไม่ได้เห็นหรือเข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของกันหรอกครับมันมี "ตัวตนในมิติของอินเตอร์เน็ต" ซึ่งปิดบังอำพรางเราไว้ทุกคนอยู่ บางคนดูใจร้าย ดุมาก ในเน็ตนะครับแต่นั่นไม่ใช่ตัวจริงของเขาหรอกครับ บางคนดูดี น่ารักมาก แต่ก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้ของเขาอีกเช่นกัน เอาละมันเป็นยังไง วันนี้เรามาเรียนรู้พร้อมกันไปเลยดีกว่า แล้วเราจะเข้าใจ "คน" ได้ดียิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้ครับ


อย่างแรก พี่ชายอยากปูพื้นฐานที่ง่ายที่สุด ง่ายๆ ครับ ลองมองย้อนกลับมาดูตัวเราเองว่าเราที่มีตัวตนอยู่ในเน็ตนั้น เหมือนตัวเราจริงๆ หรือเปล่า? อย่างพี่ชายตัวจริง ก็เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยคุยกับใครและอยู่บ้านวันๆ ไม่ออกไปไหน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร บุญไม่ค่อยทำ กรรมก็ไม่ค่อยสร้าง เหมือนคนไม่เอาไหนครับ แต่ในเน็ตพี่ชายก็แปลงร่างเป็นฮีโร่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมันจำเป็นที่พี่ชายต้องมีเปลือกนอกอย่างนี้ เพื่อทำให้งานของพี่ชายไปถึงยังผู้รับสาร์นได้ครับ นี่คือ ตัวอย่างง่ายที่สุด พอเข้าใจใช่ไหมครับ ที่นี้ เราทุกคนก็มี "ตัวตน" หลายๆ ตัวตน ทั้งตัวตนที่เป็นเราจริงๆ และตัวตนที่เป็นอะไรสักอย่าง อยู่ในมิติไหนสักอย่าง เช่น ตัวตนที่อยู่ในที่ทำงาน, ตัวตนที่อยู่กับเพื่อน, ตัวตนที่อยู่ในเน็ต ฯลฯ มันไม่เหมือนกัน ใช่ไหมเอ่ย? เอาละ เริ่มเก็ทแล้วใช่ม๊ะละ คำถามคือ แล้วอย่่างนี้ "ตัวตนที่แท้จริงของเรา" จะได้รับการเปิดเผยต่อบุคคลอื่่นตอนไหนเอ่ย? มันก็จะต้องผ่านกระบวนการที่พี่ชายขอเรียกชื่อว่าเป็น "การแลกเปลี่ยนพลังภูติ" ก็แล้วกัน ภูตินั้นจะเป็นตัวตนที่อยู่ชั้นเปลือกนอกสุดของเรา ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้ของเรานะ เขาจะทำหน้าที่ต่างๆ ในมิติต่างๆ ร่วมกับเรา อย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปน่ะละ ทีนี้ ภูติเหล่านี้ ไม่ใช่ตัวตนของเรา จะถูกแลกเปลี่ยน จัดไปให้ "เจ้าของเดิม" ตามหลัก "วัวใครเข้าคอกคนนั้น" นะครับ ส่วนเราก็จะได้ "ภูติ" ของเราคืน ซึ่งเขามักจะมาในรูป "เงาในอดีตชาติ" ของเราที่ตกค้างอยู่บนโลกมนุษย์ครับ เมื่อถึงเวลานั้น คนอื่นจึงจะสัมผัสได้ถึง "ตัวตนที่แท้จริงของเรา" ว่าเราคือใครครับ (จะได้รู้ว่าไผ๋เป็นไผ๋เสียที 555) อย่างพี่ชายนี่ มีภูติสาวสวยเยอะแยะ รอบตัวเต็มไปหมดเลยอ่ะ ทำให้พี่ชายเหมือนผู้หญิงไปเลยคือไม่ได้ทำงานเหมือนผู้ชาย แต่ต้องอยู่กับบ้าน ทำกับข้าวให้พ่อแม่กินอ่า ไม่ชอบเลย แต่เื่มื่อยังไม่ถึงเวลา ก็ต้องยอมรับวิบากกรรมนี้ไปก่อนครับ แต่ว่าพี่ชายว่ามันไม่ใช่พี่ชายนะ มันไม่ใช่ตัวตน มันไม่ใช่ฟีลลิ่งอ่า หุๆๆๆ (อันนี้ ล้อเล่นขำๆ)


อย่างที่สอง เรื่องการแลกเปลี่ยนภูติจะทำให้เราได้พบกับ "คู่แฝดต่างมิติของเรา" กล่าวคือ ภูติที่จะมาหาเรานั้น จะอยู่กับคู่แฝดต่างมิติของเรา ก็ได้ครับ หรืออาจอยู่กับคนอื่นที่เคยเกี่ยวข้องกับเราในอดีตชาติก็ได้ ในกรณีที่ภูติมากับคู่แฝดต่า่งมิติของเรา อันนี้ น่าสนใจครับ ด้วยมันจะมีการปรับฐาน เปลี่ยนบทบาทกันเล็กน้อย เพื่อให้คู่แฝดต่างมิติ ได้ลงตัวในหน้าที่ของตนที่แตกต่างกัน ไม่แย่งงานกัน มีจุดยืนและกิจที่ต่างกันไปครับ เรียกว่า "การจัดสรรใหม่" ซึ่งมันจะเป็นไปตามความเหมาะสม ณ เวลาปัจจุบันครับ เช่น สมมุติตอนแรกเราถูกวางตัวให้มาเกิดเป็นพระ แต่คู่แฝดต่างมิติของเราถูกวางตัวให้มาเกิดเป็นนักธุรกิจ พอเจอกันปั๊บ มันอาจเปลี่ยนบทบาทกันเลยก็ได้ หรือคงเดิมก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับ "การบำเพ็ญบารมีของแต่ละคนนั้นๆ" ว่าต่างทำอะไรมากันครับ เช่น พี่ชายเคยทำหน้าที่เชื่อมต่อกับ "พระสุริยเทพ" วันหนึ่งถ้าพี่ชายได้พบกับคู่แฝดต่างมิติ เราอาจแลกให้บทบาทนี้แก่เขาไปแทน พี่ชายก็จะไปทำหน้าที่อื่นต่อไป เป็นต้น ซึ่งพี่ชายจะมีการถ่ายทอดภูติที่เป็นตัวเชื่อมต่อกับพระสุริยเทพให้แก่เขา และเขาก็จะต้องถ่ายทอดภูติที่อยู่กับเขา ให้พี่ชายแทนครับ การแลกเปลี่ยนภูติก็จะสำเร็จโดยดี แต่ถ้าไม่ได้แลกเปลี่ยนกัน บางคนเสียก็มี, ได้ก็มี เช่น คนหนึ่งบำเพ็ญมาดีมาก เขาอาจได้สิ่งดีไป อีกคนบำเพ็ญบารมีมาน้อยไป ก็อาจเป็นผู้สูญเสียแทน นี่เรียกว่ามีฝ่ายได้ ฝ่ายเสีย ไม่ใช่การแลกเปลี่ยน ซึ่งเกิดขึ้นได้เช่นกัน อีกกรณีหนึ่งคือ การแลกเปลี่ยนหรือการได้เสีย กับคนที่ไม่ใช่คู่แฝดต่างมิติของเรา เพื่อให้เรากลับคืนสู่ความเป็นตัวตนที่แท้จริงในอดีตชาติของเรา ซึ่งจะนำไปสู่ "การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง" ที่เคยเป็นในอดีตอย่างไรละครับ เช่น ภูติที่มาจากพระเจ้าตากสิน อาจจะอยู่กับคนทรงคนหนึ่ง แล้วรอเวลาที่ตัวตนที่แท้จริงที่มาเกิดเป็นคน จะไปสู่คนทรงคนนี้ แล้วภูตินั้นๆ ก็จะไปกับตัวตนที่แท้จริงของเขา จะละจากคนทรงคนนั้นไปครับ (คนทรง แค่ทรงไว้ชั่วคราว ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงครับ) เมื่อนั้น คนๆ นั้นก็จะมีบุคลิกลักษณะ, ความคิด ฯลฯ ที่คล้ายกับตันตนของตนเองในอดีตชาติ คือ พระเจ้าตากสิน นั่นเอง อ๊ะ พอนึกภาพออกหรือยัง? ดังนั้น ถ้ายังไม่ถึงเวลานั้น ก็จะยังไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของแต่ละท่าน บุคคลสำคัญแต่ละท่านที่ลงมาเกิดนะครับ ต้องรอให้ถึงเวลานั้น จึงจะเกิดการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงครับ


เมื่อวาระอันเหมาะสมมาถึง "ทั้งสองจะรวมกันเป็นหนึ่ง" (เรากับตัวตนในอดีตที่เป็นเงาของเราเอง) เมื่อนั้น การตาย จากไป การกำเนิดใหม่จะมาแทนที่ แล้วเราจะได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเราเองในอดีตว่าเราคือใคร และเคยทำอะไรมาบนโลกนี้บ้าง เพื่อที่จะกอรปกิจตามหน้าที่ของเราที่คั่งค้างให้สำเร็จลุล่วงต่อไป เพื่อปลดปล่อยให้จิตวิญญาณที่ติดค้างในภารกิจต่างๆ, พันธสัญญาต่างๆ ได้หมดสิ้นบ่วงภาระนั้น จะมีชีวิตใหม่ที่สว่างไสวขึ้น และพร้อมตรงสู่ความหลุดพ้นในท้ายที่สุด เอาละ พี่ชายเม้าท์มายาวเลย ท่่าจะง่วงกันละ ขอจบก่อน ราตรีสวัสดิ์



3 ความคิดเห็น:

  1. ก็เห็นเป็นเหมือนเดิมนิ

    ตอบลบ
  2. ตัวตนผู้หญิงลงมาทีไร อย่างกะเจ้่าแม่ลงมาคุมร่าง

    เจ้าแม่ประทับทรงงง!!!! 55555

    ตอบลบ
  3. การกำเนิดใหม่และการชำระล้่างจิตวิญญาณภายในของเราเอง

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน