วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จอมยุทธ์มีจริงอ่ะป่าว ถ้ามีจริงแล้วหายไปไหน?

จอมยุทธ์มีอยู่จริงครับ พวกเขาก็คือ "นักการเมืองนอกกฏหมาย" ที่จะมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเริ่มต้นจาก รวบรวมผู้คนให้มากไว้ เช่น การตั้งสำนัก แล้วนำพาผู้คนไปเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น ในยุคก่อตั้งราชวงศ์หมิง จูหยวนจาง ก็ได้อาศัย "พรรคหมิงเจี้ยว" ช่วยให้ได้ครองอำนาจครับ อันนี้ ไปดูหนังเรื่อง "ดาบมังกรหยก" ก็แล้วกันง่ายดี ขี้เกียจอธิบายมาก ฮ่าๆๆ แต่เนื่องจากว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งหลายครั้งก็อยู่นอกกฏหมาย และอาจจะขัดแย้งกับกลุ่มอำนาจเก่ามันก็เลยต้องเคลื่อนไหวแบบลับๆ เงียบๆ เรื่องราวของพวกเขาเลยไม่อาจได้รับการบันทึกไว้ใน "หน้าประวัติศาสตร์ของชาติได้" แต่กลายเป็น "นิทานเล่าสืบกันมา ถึงเกร็ดประวัติศาสตร์" เท่านั้น เช่น เรื่องตำราพิชัยสงครามงักฮุย (แม่ทัพที่เก่งมากรบชนะทุกครั้งแต่ถูกใส่ร้ายจนต้องถูกประหารชีวิต) ซึ่ง "กิมก๊ก" หรือ แคว้นจิน ต้องการมาก ถึงขนาดไล่ล่าหาจนกลายเป็นเรื่องมังกรหยก แล้วปรากฏว่าคนที่ได้ไปก็คือ "ก้วยเจ๋ง" ใช้ต้านทัพมองโกลในสมัยเซลุย เห็นจะได้ (เซลุึยคือรุ่นลูกของเจงกิิสข่าน) ตอนนั้นยังได้อยู่ต่อมาสมัยก้วยเซียง เข้าสมัยกุบไลข่านแล้ว ก้วยเซียงพยายามตั้งสำนักง้อไบ้ รวบรวมชาวฮั่น แต่ต้านไม่ไหว ถูกมองโกลฆ่าตาย จนกุบไลข่านก่อตั้งราชวงศ์หยวนได้ เอาละ สรุป นิยายกำลังภายในเรื่องมังกรหยก ก็คือ เกร็ดประวัติศาสตร์จีนที่เกี่ยวข้องกับ "การเมืองภาคประชาชน" ที่เึคลื่อนไหวอยู่นอก "กำแพงกฏหมายบ้านเมือง" นั่นเอง (ตอนนั้น ราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง เสื่อมลงมาก จนทำอะไรไม่ได้เลย เจงกิสข่านขยายอิทธิพลรอบทิศ เรียกว่าใช้กลยุทธ์ "ป่าล้อมเมือง" ตัดรอนอำนาจหมดครับ)


ถามว่า "ชายยุทธ์มีจริงแล้วหายไปไหน?" คำตอบง่ายมากจ๊ะ ก็ถูกกวาดล้างไง ในสมัยฮ่องเต้ "เฉียนหลง" พระองค์ทรงทราบว่ายังมีกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวอยู่นอกระบบ กำลังเปลี่ยนแปลงการเมือง และจะกระทบถึงความมั่นคงของราชวงศ์ตนเองได้ จึงปลอมพระองค์เข้าไปใน "เส้าหลิน" เพื่อศึกษาวิชาและสืบความจริงก่อน เมื่อทราบว่า "เส้าหลินเป็นเสาหลักของยุทธภพ" ก็เลยวางแผนกวาดล้างวัดเส้าหลิน (แต่พระองค์ก็สร้างวัดใหม่แทนที่ ฉลองอายุครบ ๖๐ ปีด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าพระองค์จะเลวร้ายหรือเกลียดพระไปหมด) ทีนี้ พอเส้าหลินล่มสลายแล้ว ต่อมา ก็เก็บกวาดส่วนที่เหลือ ไม่ยากแล้วครับ ตอนเก็บกวาดอย่างไรนี้ ให้ท่านไปดูหนังเรื่อง "จิ้งจอกภูเขาหิมะ" นะครับ สนุกดี ขี้เกียจอธิบายให้ฟัง ฮ่าๆๆ เอาละ ท้าวความนิดส์นึง ว่าวัดเส้าหลิน กำเนิดมาอย่างไร มาอย่างนี้ครับ "ฮ่องเต้เฮาบุ้งตี่" (ถ้านามผิดขออภัย แต่มีอยู่องค์หนึ่งแน่ละ) ก่อตั้งขึ้นมาครับ โดยท่านได้ตำราคัมภีร์ของท่านตั๊กม้อมาครับ เลยใช้โฆษณาเรียกศรัทธาให้คนมาบวชเรียนกันได้มากมาย กลายเป็นกองกำลัง "นอกเครื่องแบบ" ไปเลย (หลังจากนั้นราชวงศ์ถังสิ้นลง แผ่นดินจีนแตกเป็นแคว้นเล็กๆ)  บวชพระนี่ไม่หวังนิพพานกันหรอก เหมือนพระพม่าที่บวชหนีการล่าล้างของรัฐบาลทหารนั่นแหละ โฮ่ๆๆ เหมือนกันเปี้ยบเลย เขาเอาไว้เคลื่อนไหวทางการเมือง อันนี้ เหมือนใครก็ไปดู "สันติอโศก" เอา ละกัน นั่นละ ตัวอย่างของบ้านเรา โอ้ย จะว่าไปจอมยุทธ์มีออกเยอะแยะ "ตาถั่วมองไม่ออกเอง" ฮ่าๆๆ กลับมาเรื่องเส้าหลินซึ่งท่านตั๊กม้อไม่ได้มีเอี่ยวด้วยเลย เป็นพระอรหันต์จะไปยุ่งการเมืองในประเทศจีนเขาได้ไง (ท่านเป็นเชื้อสายราชบุตรทางอินเดียนะครับ) แต่หลังท่านมรณภาพแล้ว ท่านหุยเคอศิษย์ตัวจริงของท่าน รักษาไว้ได้แต่บาตรแล้วสืบทอดกันมา ๖ รุ่นจบที่ท่านเว่ยหลาง เท่านั้น ตำราคัมภีร์เลยตกสู่มือ "วัดเส้าหลิน" ไป เอาละ นี่เล่าย่อๆ ไปดูหนังจีนกันเอาเอง


ปัญหาคือ จีนเขาเป็นคอมมิวนิสต์ การพูดโป้งๆ ออกไปว่าจอมยุทธ์มีจริงจะกลายเ็ป็นเรื่องใหญ่มากๆๆ เพราะพวกเขาคือคนที่เล่นการเมืองนอกระบบอยู่ นั่นเอง เรื่องราวของจอมยุทธ์จึงต้องกลายเป็นเพียงตำนานหรือนิทานเล่าสืบๆ กันมาในกลุ่มประชาชนกลุ่มแคบๆ เท่านั้น ไม่อาจยกระดับขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ของชาติได้ แล้วท่าน "กิมย้ง" ก็คงไปสืบสาวเกร็ดประวัติศาสตร์เหล่านี้ เรียบเรียงมาแต่งเติมเป็นนิยายกำลังภายใน ก็เท่านั้น เอาละ "ใครมีจิตวิญญาณของจอมยุทธ์" ดูหนังจอมยุทธ์จะทราบเองว่า "เคลื่อนไหวทางการเมืองแบบนอกระบบ" นั้น เขาทำกันอย่างไร? ไม่บอกให้โง่หรอกคร่ะ ฮ่าๆๆ ใครมีพรสวรรค์ก็บวกพรแสวงไปศึกษาค้นคว้ากันเอาเองเด้อ สิบอกไห่...   

5 ความคิดเห็น:

  1. ยังมีท่านหนึ่งที่น่าสนใจศึกษาครับ ชื่อว่า "คิวชูกี" ท่านคือนักพรตสำคัญในลัทธิเต๋าหนึ่งในห้าลัทธิของจีนทั้งหมด ตามหนังจีนว่ากันว่าอยู่ใน "ช้วนจินก่า" (นิกายช้วนจิน) มีอายุนับ ๓๐๐ ปีได้ ตอนก้วยเจ๋งกับเอี้ยคังเกิด ท่านก็ตั้งชื่อให้ทั้งสองคน แล้วท่านก็ยังเดินทางไปพบกับ "เจงกิสข่าน" ด้วย (ในนิยาย เหมือนว่่า ก้วยเจ๋งจะมีฐานะเป็นลูกบุญธรรมของเจงกิสข่านหรือไง ไม่แน่ใจครับ) นั่นคือ รุ่นปู่เลยก็ว่าได้ ต่อมา ท่านคิวชูกี ก็ยังไม่ตาย มาจนรุ่นลูกคือ ก้วยเจ๋ง ก็ยังอยู่ ปรากฏอยู่ครับ ถึงรุ่นของลูกก้วยเจ๋ง มีเอี้ยก้วยเกิดแล้ว ท่านก็ยังไม่ตายอีก อ้าว อารายจะอายุยืนขนาดนั้น แต่ก็เป็นความจริงนะครับ


    ขี้เกียจเล่ามากความ ไปหาดูกันเองละกันครับ บอกหมดเดี๋ยวจะไม่สนุกเอา หุๆๆ

    ตอบลบ
  2. ง่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ตอบลบ
  3. หลังๆ มานี้ รัฐบาลจีนเข้มงวดและละเอียดมากขึ้นกับการสื่อสารทุกอย่าง เห็นได้ชัดครับว่า "หนังจีนกำลังภายใน" แทบจะไม่มีให้ดูแล้ว จะมีก็แต่หนังที่ได้รับการตรวจสอบควบคุมมาอย่างดี ให้คนรับสื่อ ได้รับสื่อตามที่เขาต้องการ ก็เขาเป็นคอมมิวนิสต์ ก็ต้่องเป็นแบบนี้แหละครับ จะมาหาความเสรีภาพของสื่อมากแบบประเทศในระบบทุนนิยมไม่ได้ มันก็เลยเกิด "ช่องว่าง" ไปหลายปี ที่หนังจีน แทบไม่มีให้เราดู ดาราดังๆ อย่าง "หลินชิงเสีย" ก็ไม่แสดงหนังแล้ว ไปแ่ต่งงานแล้ว ฉีเคอะ ก็หยุดทำหนังด้วย


    อันนี้แหละ น่าสนใจมากครับ เพราะมันกลายเป็นโอกาสให้ "เกาหลี" ซึ่งกำลังทำตลาดหนัง แผ่ขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรม ได้ช่อง ได้โอกาส ได้เกิดในเอเชียซะทีครับ ขอบอกอย่างหนึ่งนะครับว่า "เกาหลีเคยห่วยแตกมากๆๆ" ถ้าคุณไปดูหนังเก่าๆ นะ คุณจะบอกว่า คนข้างบ้านหรือรอบตัวคุณ "ก็หล่อกว่าพระเอกเกาหลีอีกว่ะ" ฮ่าๆๆ นี่คือ เรื่องจริงครับ เขาขายไม่ออกเล้ยยย ล้มเหลวมาก่อนนะครับ แต่ "เขาสู้ครับ" เขาไม่ยอมแพ้ ถึงขนาดยอมผ่าตัด ศัลยกรรมหน้ากันเป็นแถบๆ ทำกันทั้งนั้น เยอะแยะ ดาราเกาหลี ฮิตสุดๆ เรื่องนี้ครับ เขายอมรับได้ เพราะเป็นการทำเพื่อชาติไงครับ สุดท้าย เป็นไง ก็ประสบความสำเร็จไงครับ ทุกวันนี้ เราก็จะเห็นและมีภาพรู้สึกติดตาว่า "คนเกาหลีชายก็หล่อ หญิงก็สวย" (ด้วยมือแพทย์นะ) กันทั้งนั้น ตามมาด้วยการขายสินค้าเกาหลี และเกิดกระแสเกาหลีฟีเวอร์ตามมาอีกมากมาย โอ้ย มันเริ่มต้นจาก "หนังจีนกำลังภายใน" ขาดตลาดแท้ๆ เลยเชียว ว่ะ ฮ่าๆๆ ...

    ตอบลบ
  4. เรื่องไท้เก็กที่กำลังฉายอยู่ในโรงสนุกดี หนังกังฟูนานๆออกมาเรื่อง เสียดายในบล็อกโพสยูทูปไม่ได้

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณครับ


    โพสไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ
    เหมือนเรียน ป. โท อาจารย์
    แนะนำแล้ว เด็กๆ ก็ต้องเรียนรู้
    ที่จะ "หาข้อมูล" ด้วยตนเองครับ

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน