วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คุณพก "ศาสนา" เข้านิพพานไม่ไ่ด้ คุณต้องทำลายศาสนาในตัวคุณก่อน!

โอ้ว บทความนี้เป็นที่แสลงใจของ "พวกคลั่งศาสนา" มากๆ นะครับ ถ้าคุณยึดติดกับศาสนามากๆ คุณอย่าอ่านเลย แต่ถ้าคุณเลื่อนระดับไปสู่มิติที่สูงกว่าศาสนาได้แล้ว เอาละ มันไม่เป็นปัญหาต่อคุณอีกต่อไป อย่างแรกที่คุณควรทราบคือ "ศาสนาเป็นเพียงองค์กรสมมุติทางโลกที่ไม่อาจนำเข้านิพพานได้" มันจะถูกใช้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ดุจคนนั่งเรือถึงฝั่งแล้วก็คงไม่มีใครแบกเรือขึ้นฝั่งไปด้วยใช่ไหม? เอาละ ทีนี้ มันจะมีคนอีกพวกหนึ่งตามมา "ทำลายเรือทิ้งซะ" เพราะถ้าขืนยังปล่อยเรือเอาไว้ มันอาจไม่ถูกใช้ไปเพื่อการ "ข้ามฝั่ง" (นิพพาน) แต่มันอาจนำไปใช้ท่องไปในลำน้ำ ในอีกรูปแบบหนึ่ง เช่นกัน ศาสนาก็มีอนิจจัง และมีวาระหมดอายุ วาระเสื่อมลง และต้องถูกทำลายลงเช่นกัน (ที่ผมบอกนี้ไม่ได้ยุยงให้คุณไปทำนะ สวรรค์หรือธรรมชาติเขาจะสร้างตัวทำลายศาสนา คือ มาร มาให้เองแหละ) เืพื่อไม่ให้ศาสนาถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น ใช้เป็นเครื่องมอมเมาให้คนเสพติด หลงใหล ทั้งๆ ที่ไม่อาจทำให้เกิดปัญญาหรือนิพพานได้ แต่อาจมีผู้ปกครองที่มีอำนาจ ใช้ศาสนาครอบงำผู้คนให้หลงเสพติดมันต่อไป ดังนั้น ในยามที่ยังมีพระศาสดาอยู่ ศาสนาก็ถูกใช้ดั่งเรือข้ามฟาก แต่เมื่อสิ้นนายท้ายเรือ (พระศาสดา) ไปแล้ว มันจะถูกใช้อย่างผิดทางได้


ดังนั้น จึงต้องมี "มาร" และคนอย่าง "พระเทวทัต" อยู่ร่วมในศาสนาไงครับ เคยสงสัยไหมว่าทำไมพระพุทธเจ้าไม่ตราศีลไว้ว่า "ผู้ใดทำสังฆเภทอันเป็นกรรมหนักมากนี้ ต้องอาบัติปาราชิก" ??? ไม่มีเลยครับ พระเทวทัตได้อยู่โดยไม่มีการให้สึกแต่ประการใด เพราะอะไร? ก็เพราะพระพุทธเจ้้าทรงรู้ว่าเพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงเกิด เพราะมีความจำเป็นที่ต้องทำลายเรือทิ้ง ก็ต้องมีพระเทวทัตและเหล่ามาร มาทำหน้าที่ไงครับ นี่คือ "ความจริงที่เหนือมิติที่สาม" หากท่านยังจมปลักอยู่ในมิติที่สามอยู่ ท่านจะหลงศาสนา กลายเป็น "พวกคลั่งศาสนา" ได้นะครับ ดังนั้น ผมจึงบอกคุณแต่แรกว่า "คุณพกศาสนาเข้า้นิพพานไม่ไ่ด้" คุณต้องทำลายศาสนา "ในตัวคุณก่อน" ไม่ใช่ศาสนาที่อยู่นอกตัวคุณนะ อันนั้น มันไม่ใช่ "ตัวคุณ ของคุณ" ไม่ต้องไปยุ่งกะของใครเขา ทำของเราเองนี่ คำว่า "ทำลายน่ะ" มันก็แค่ทำลายความยึดมั่นถือมั่น เท่านั้นเอง ไม่ใช่ไปทำลายรูปธรรม, นามธรรม, วัตถุใดๆ ก็หาไม่ เรื่องการทำลายศาสนาที่อยู่นอกตัว มันเรื่องของมารเขา ถ้าคุณไม่คิดจะเป็นมาร ก็ไม่ต้องไปทำ และไม่ต้องไปยุ่งงานของเขา ให้มาร เขาทำงานของเขาไป ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของเรา มันก็แค่นั้นเอง   


เอาละ ดูจริงจังมากไปหน่อยสำหรับบทความ หุๆ กลับมาเม้า์ท์สบายๆ กันเหมือนเดิมได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ผมจะบอกไว้ให้คุณพิจารณาเองว่า "ผู้บรรลุอรหันต์ทุกท่่าน ล้วนอยู่นอกศาสนาทั้งสิ้น" ไม่มีพระอรหันต์รูปใด ตกอยู่ภายใต้กรงขังแห่งศาสนา หรอก เลื่อนระดับตัวคุณเองขึ้นไป แล้วคุณจะได้เห็นสิ่งที่สูงกว่า จากมุมมองที่สูงกว่า แล้วคุณจะเข้าใจในความหมายที่ผมได้พูดถึงนี้ สวัสดีครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน