วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"องค์ธรรมบิดา" ของคุณเป็น "ปีศาจจำแลง" หรือไม่?

เฮ้ ตัวเอง ตัวเองนั่นแหละ มานี่เลย เค้าจะเล่าอะไรให้ตัวเองฟังนะ แต่ว่าขอบอกไว้ก่อน ว่ามันลึกลับมากๆ เลยละตัวเอง เค้าน่ะ ไม่อยากพูดหรอกนะ ไม่อาว ไม่พูด คุณแม่ขอร้อง คุณน้องขอคาราโอเกะ อ้่าว ไปไหนแล้วซะนั่น อุ้ย ขำๆ ฝืดๆ ผ่อนคลายยามเช้าก่อนทำงานนะตัวเอง


เอาละมาเข้าเรื่องเข้าราวกันดีกว่าครับ ไม่มีอะไรมากนะครับมันเป็นแค่ข้อมูลเล็กๆ ที่ช่วยตรวจเช็คอะไรบางอย่างให้คุณนะครับ นั่นก็คือ การดู "องค์ธรรมบิดา" ว่าท่านคือใครกันแน่? คือ เรื่องมันเป็นมาอย่างนี้นะครับ แบบว่าในโลกทิพย์ หรือในมิติอื่นๆ เนี่ย มันมีอะไรเยอะแยะมากเลย แล้วทีนี้ มันก็อาจจะมีบางตัวตน, บางท่านที่อ้างตัวว่าเขาคือ องค์ธรรมบิดา ถามว่าจริงไหม? ก็อาจจะจริงได้ครับ เพราะว่าเราเกิดตายมาก็หลายชาติ หากจะมีจิตวิญญาณสักดวงหนึ่งที่จะเคยเป็นบิดาเราก็ไม่แปลกอะไรนะครับ มันเป็นไปได้ คำถามที่เราควรถามตัวเองต่อไปคือ เรามีองค์ธรรมบิดาองค์เดียวหรือไม่? ควรแล้วหรือที่เราจะถูกผูกขาดด้วยองค์ธรรมบิดาองค์นี้? หรือเราสามารถเลือกองค์ธรรมบิดาองค์อื่นได้อีก? มีองค์ธรรมบิดาองค์อื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่? และองค์ธรรมบิดาองค์นี้มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง? นี่ควรเป็นคำถามที่ท่านควรถามตัวเองก่อนรับ "องค์ธรรมบิดา" องค์นั้นนะครับ ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านก็จะรับไปโดยไม่ทันได้คิดอะไรเลย สิ่งนั้น (จิตวิญญาณ) เข้ามาติดต่อท่าน ให้ท่านเปิดใจรับเขาในฐานะองค์ธรรมบิดา ท่านก็รับไปเลย ทั้งๆ ที่อาจจะมี "จิตวิญญาณศักดิิสิทธิ์" อีกมากมายที่ทำหน้าที่เป็นองค์ธรรมบิดาได้และยิ่งกว่านั้นก็คือองค์ธรรมบิดาบางองค์ก็อาจเป็น "ปีศาจจำแลง" ก็ได้ ไม่แปลกเลยครับ คนเราเวียนว่ายตายเกิดหลายชาติภพ ถ้าเราจะเคยเกิดในภพภูมิชั้นต่ำ, ปีศาจ, ซาตาน, อสุรกาย ฯลฯ ก็ไม่แปลกอะไรเลยนะครับ ดังนั้น "จิตวิญญาณที่เคยเป็นบิดาของเรา" อาจจะมาติดต่อเราก็ได้ ถ้าเราไม่หลงกล เราโปรดเขา อย่าให้เขาครอบงำเราสิครับ แต่ถ้าเราไม่ทันเล่ห์กลตรงนี้ เราก็อาจถูกครอบงำช่วงใช้ได้ครับ


ทีนี้ กลับมาที่ "พระบิดาจักรวาล" กันบ้าง บางครั้ง บางคนก็สัมผัสได้ครับ แต่ท่านจะเป็นใครอันนี้ เราควรต้องดูลึกซึ้งด้วยนะครับ ตัวอย่างเช่น เทพยูเรนัส (ดาวมฤตยู) ก็สามารถอ้างว่าเ็ป็น "พระบิดาจักรวาลได้" เพราะอะไรหรือครับ? เพราะ ๑. ท่านคือ ผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตในโลกนี้ตั้งแต่ยุคต้นๆ ก็เลยเรียกได้ว่าเป็น "พระบิดา" ๒. ท่านอยู่บนฟ้า เป็นเทพที่อยู่เหนือภาคพื้นดินขึ้นไป เรียกว่ามาจากจักรวาล ก็เลยใช้นามว่า "พระบิดาจักรวาล" ได้ แต่นี่ไม่ใช่ท่านผู้เดียวนะที่ใช้นามเช่นนี้ได้ แม้แต่ "ท้าวผกาพรหม" ท่านก็ใช้นามว่า "พระบิดาจักรวาล" ได้นะครับ ทำไมถึงได้? เพราะ ๑. ท่านเป็นจิตวิญญาณเ่ก่าแก่มากให้กำเนิด สรรพสิ่งชีวิตอื่นๆ มาแล้วมากมาย (เราอาจเป็นลูกหลานท่านด้วย) ๒. ท่านเกษียรตัวเองจากตำแหน่งท้าวมหาพรหมในพรหมโลกแล้ว หลังพระพุทธองค์ทรงโปรด ท่านไปอยู่กลางอวกาศแห่งจักรวาล คอยดูแลผู้ที่ "ถอดกายทิพย์หลงอยู่ในจักรวาล" (คล้ายพระโมคคัลลานะหลงน่ะครับ) ท่านนี้ก็เลยใช้นามต่อมนุษย์ว่า "พระบิดาจักรวาล" ก็ได้ครับ เราอย่าเพิ่งไปยึดว่า "นามพระบิดาจักรวาล" นี้ จะต้องถูกผูกขาดโดยใคร สิ่งนี้เป็นเพียง "นามธรรม" ที่ท่านใดจะหยิบยืมมาใช้แนะนำตัวกับมนุษย์ก็ได้ "เท่าที่เหมาะสม" ครับ ดังนั้น เมื่อท่านได้สัมผัสพระบิดาจักรวาลแล้ว ท่านอาจจะยังไม่ได้รู้จักตัวตนของพระบิดาจักรวาลจริงๆ ก็ได้ เพราะมีอยู่มากมายเลยที่จะอ้างนามนี้แก่ท่านได้ (พอเข้าใจนะครับว่า "พระบิดาจักรวาล" เป็นแค่ "รูปนาม" หนึ่ง ที่จิตวิญญาณศักดิสิทธิ์จะหยิบยืมมาใช้่ในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลก ได้ตามความเหมาะสม, ตามเหตุอันควร ก็เท่านั้นเอง จึงมีหลายท่านในโลกทิพย์ที่ใช้รูปนามนี้ในการติดต่อกับมนุษย์ได้ ไม่ได้มีเพียงท่านใด ท่านเดียว)


สุดท้ายแล้ว ผมก็ขอเตือนไว้ว่าท่านสามารถ "เลือกองค์ธรรมบิดา" ได้ครับ เท่าที่ท่านจะเพียรพยายามสร้างบารมีไปถึงได้ (ถ้าไม่มีบารมีมากพอจะไปเอื้อมให้ถึงท่านที่สูงๆ ก็ไม่ได้แหละครับ) อย่าเพิ่งหลงไปในทันทีว่าท่านได้พบ "พระบิดาจักรวาล" ให้ไตร่ตรองดูให้รอบคอบ รอบด้านก่อนนะครับ แล้วท่านจะได้ดี "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" ครับ สวัสดี...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน