วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อุลตร้าแมนจะมาช่วยมนุษย์ให้รอดจากภัยพิบัติ?

สวัสดีครับ เห็นหัวข้อบทความแล้วอย่างเพิ่งตกใจไปเสียก่อนละครับ นี่ไม่ใช่คำทำนายอะไรนะครับ แต่เป็น "การสื่อสารต่างมิติ" ครับ ซึ่งผมได้ีัรับมาแล้วถ่ายทอดต่อไปเท่านั้นเอง ไม่อาจพิสูจน์ความจริงเท็จอะไรได้ ถ้าท่านผู้อ่านท่านไหน พิสูจน์ให้ผมเห็นจริง เชื่อได้ ก็เชิญนะครับ ผมอยากทราบเหมือนกันว่าข้อความต่างมิติที่ผมได้รับมานี้ ผมก็ควรจะเชื่อได้มากแค่ไหน? เอาละ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ท่านผู้อ่านที่กำลังรออ่านอยู่อย่างจดจ่อ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเลยละกัน


ในช่วงเวลาแห่ง "การยกระดับของโลก" กระบวนการแรกคือ การปลดปล่ือยซึ่งจะส่งผลให้ "รูปธรรมชีวิตในระดับพลังงาน" ที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่่า ได้รับการปลดปล่อยออกมาจาก "ใต้พิภพ" ถามว่าพวกเขาคือใคร? พวกเขาก็คือ "เทพชุดแรก" ที่ถูกเทพยูเรนัส (มฤตยู) จับขังไว้ใต้พิภพ เพราะพวกเขาเป็นบุตรที่ไม่ได้ความน่ารังเกียจ นั่นเอง ทว่า เทพีไกอาไม่ได้เห็นด้วยหรอกครับที่พระบิดาทำเช่นนั้นกับบุตรของตน และเทพีไกอาก็ปกป้องบุตรของตนด้วย ไม่ว่าบุตรของตนจะมีลักษณะที่น่าเกลียดอย่างไรก็ตาม ทีนี้ เมื่อเทพใต้พิภพได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้ว เขาก็จะประสานร่างกับมนุษย์โลกก่อนครับ เพื่อรอให้ได้รับการชำระล้างเพื่อการกำเนิดใหม่อีกครั้ง ทีนี้ พวกเขาจะไม่ดูแย่อีกแล้ว ทว่า เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ เมื่อเทพยูเรนัสกลับลงมาเล่นงานพวกเขา และทำให้เกิด "ภัยพิบัติ" ขึ้นบนโลกมนุษย์ขณะนี้ แต่อย่าเพิ่งไปมองเทพยูเรนัสในแง่ลบด้านเดียวนะครับ ท่านทำเ่ช่นนั้นก็ต้องมีเหตุผลเหมือนกัน เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว มนุษย์ก็จะถูกครอบงำด้วยเทพใต้พิภพ ทำให้มืดบอดและหลงโลกได้นะครับ


ต่อมาจะเกิด "มนุษย์คนหนึ่ง" ที่อ่อนแอมากจนเกือบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ทว่าเขากลับมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำเืพื่อโลก ในที่สุด เขาก็ได้รับพลังจากเทพีไกอา ทำให้กลายเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ปกติ (ก็คือ อุลตร้าแมน นั่นเอง) มนุษย์คนนี้จะต้องผ่านการทดสอบและการเลื่อนระดับมากมาย และยากเย็นอย่างยิ่งกว่าที่จะผ่านอุปสรรคแต่ละด่านได้ เพื่อที่จะรับพลังของ "เทพโครนัส" เพื่อที่จะโค่นอำนาจของเทพยูเรนัสให้ได้ นั่นเอง ทว่า กำลังของเขาไม่มากพอ เขาจึงเลื่อนระดับไปได้แค่ "เทพซูส" เท่านั้น หากจะให้เขาเลื่อนระดับไปได้มากกว่านี้ "มนุษย์ทั้งหลายก็จะต้องส่งกำลังใจเชียร์เขา" ถ้ามนุษย์ทั้งหลายไม่ส่งกำลังใจให้เขา ไม่ต้องการเขา เขาก็ไม่อาจที่จะทำหน้าที่ได้ และเทพยูเรนัสก็จะทำหน้าที่สร้างภัยพิบัติต่อไป อย่าลืมนะครับว่า "เขาคือมนุษย์ธรรมดา" ซึ่งอ่อนแอไม่น้อยกว่ามนุษย์คนอื่น ไม่สิ เขามีร่างกายที่อ่อนแอยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไปเสียอีก แต่เพราะเขามีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงได้รับพลังของไกอาครับ ทว่า แค่นั้นก็ยังไม่พอ สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ "กำลังใจจากเพื่อนมนุษย์" ครับ


เรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับ "มนุษย์ทุกคนในโลกนี้" แล้วครับ ไม่อาจที่จะกำหนดหรือลิขิตได้ด้วย "มือใครเพียงคนเดียว" อีกต่อไป เพราะตอนนี้ "พระบิดาจักรวาลมอบโลกใบนี้ให้แก่มนุษย์โลกทุกคน" ดูแลร่วมกัน มนุษย์โลกอยากเห็นอนาคตของโลกนี้เป็นอย่างไร? เป็นโลกที่งดงามหรือเสื่อมโทรม? เป็นโลกที่สงบสันติหรือเต็มไปด้วยการรบราฆ่าฟัน? เป็นโลกที่หมุนไปสู่ความหลุดพ้นเปี่ยมด้วยปัญญา หรือโลกที่ทำให้มนุษย์ลุ่มหลง-มืดบอด? ทั้งนี้ พระบิดาจักรวาลยังให้เทพีแห่งดาวโลก (เทพีไกอา) ดูแลเหล่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตบนโลกที่เป็นเชื้อสายของเธอ ร่วมกับเหล่าเทพอีกมากมายด้วย ดังนั้น โลกนี้จึงเป็นสมบัติของมนุษย์โลกทุกคนนะครับ สำหรับบทความนี้ สวัสดีครับ...

4 ความคิดเห็น:

  1. ลองสังเกตุความจริงบนแผ่นดินท่านดูนะครับว่า ...


    ๑. มีคนที่ "อ้างตัวเป็นพ่อของคนทุกๆ คน" แต่แล้วเขา
    ก็เล่นงานบุตรที่จะแกร่งกล้าเกินตนไปด้วยความระแวง
    บ้างไหม? นั่นแหละ ร่างตัวแทนของเทพยูเรนัส

    ๒. มีคนที่ "ให้สัจจะกับเสียงแห่้งแผ่นดิน" ว่าจะช่วยให้
    พี่หรือน้องของตนได้พ้นวิบากกรรม แล้วไม่ทำตามคำ
    พูดบ้างไหม? นั่นแหละ ร่่างตัวแทนของเทพโครนัส


    เอาละๆ พอแค่นี้ดีกว่าเนอะครับ เดี๋ยวจะเครียดกันไป
    ฮ่าๆๆ เอ้าเป็นว่า "นิทานก็คือนิทาน" ก็แล้วกันนะคร้าบ

    ตอบลบ
  2. เทพยูเรนัส

    เทพยูเรนัส ตามคติดั่งเดิมก็คือรูปธรรมของ ท้องฟ้า หรือ สวรรค์ หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ทรงเป็น "เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า" นั่นเอง พระองค์ทรงเป็นพระโอรสพระองค์แรกของแม่พระธรณี เกอา (Gaia) และต่อมาได้กลายมาเป็นพระ สวามีของพระนาง

    จากงานเขียนของเฮซีโอดอส (Hesiod) นักประพันธ์ชาวกรีก ได้เล่าไว้ว่า เทพยูเรนัสกับพระแม่ธรณีเกอามีพระโอรส ๖ พระองค์ และพระธิดา ๖ พระองค์ ซึ่งเรียกกันว่าเป็นคณะเทพทั้ง ๑๒ แห่งวงศ์ไตตัน พระโอรสทั้ง ๖ พระองค์ ประกอบด้วย เทพโอเซียนัส เทพคีอัส เทพครีอัส เทพไฮเปเรียน เทพลาเปตัส และ เทพโครนัส ส่วนพระธิดาทั้ง ๖ พระองค์ประกอบด้วย เทวีเธอา เทวีเรห์อา เทวีเธมิส เทวี เน็มโมซิเน่ เทวีฟีเบ่ และ เทวีเตธีส

    นอกจากคณะเทพทั้ง ๑๒ แล้ว เทพยูเรนัสกับพระแม่ธรณีเกอายังได้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์อสูรอื่นๆ อีก นั่นคือ

    ๑. พวกไซคลอป์ (The Cyclopes) ซึ่งเป็นพวกยักษ์ตาเดียว มีอยู่ด้วยกัน ๓ ตน อันประกอบด้วย บร็อนเตส (Brontes) สเตโรเปส (Steropes) และ อาร์เกส (Arges)

    ๒. พวกเฮกาตอนชีเรส (The Hecatoncheires) ซึ่งเป็นพวกอสูรร้ายมี ๕๐ หัว ๑๐๐ มือ มีอยู่ด้วยกัน ๓ ตน อันประกอบด้วย เบรียเรอัส (Briareus) ค๊อตตัส (Cottus) และ กีเอส (Gyes)

    ๓. พวกเอรินีเอส (Erinyes) ซึ่งเป็นเหล่านารีแห่งความพยาบาท ตามตำนานไม่ได้ระบุจำนวนไว้ แต่บางตำนานก็ว่ามี ๓ ตน นั่นคือ อเล็กโต (Alecto) (ความอาฆาต) เมกีร่า (Megaera) (ความริษยา) และ ติซิโฟเน่ (Tisiphone) (การล้างแค้นให้ถึงตาย) นอกจากนี้ บางตำนานก็กล่าวว่า นารีเหล่านี้กำเนิดจากนีกส์ (Nyx) เทวีแห่งราตรีกาล

    เมื่อเทพยูเรนัสได้ทรงพระเนตรเห็นเหล่าอสูรซีคลอป์และเฮกาต็อนชีเรส ก็ทรงตกพระทัยในรูปร่างอันพิสดาร และเกรงว่าด้วยกำลังอันมหาศาลของอสูรเหล่านี้ วันหนึ่งพระองค์อาจจะถูกเหล่าอสูรนี้ขับไล่ออกจากบัลลังก์ ด้วยความวิตกเช่นนี้ พระองค์จึงเนรเทศเหล่าอสูรทั้ง ๒ กลุ่มให้ไปอยู่ในแดนตาร์ตารัส (นรกใต้โลก) ซึ่งสถิตอยู่ในร่างของพระแม่ธรณีเกอานั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำพระแม่เกอาเกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และความเจ็บปวดดังกล่าวทำให้พระนางเกิดความเกลียดชังเทพยูเรนัส จึงได้ขอร้องให้พระโอรสองค์สุดท้องคือ เทพโครนัส ไปตัดอวัยวเพศของพระบิดาของพระองค์ อันเหตุผลว่า พระนางจะได้ไม่ต้องโอรสที่เป็นพวกอสูรคลอดออกมาอีก และเพื่อที่จะให้การนี้สำเร็จ พระแม่ธรณีเกอา จึงได้สร้างเคียวซึ่งมีความแข็งแกร่งราวกับเพชรขึ้นมาหนึ่งอัน และประทานให้แก่เทพโครนัส

    ในคืนนั้นเอง เมื่อเทพยูเรนัสได้เข้ามาบรรทมกับพระมเหสีของพระองค์ เทพโครนัส ซึ่งซ่อนตัวอยู่ก็สบจังหวะออกมาใช้เคียวเฉือนอวัยวเพศของเทพยูเรนัสอย่างเต็มแรงจนขาดกระเด็น เลือดที่พุ่งออกจากบาดแผลของพระองค์ บังเกิดเป็นเหล่านางอัปสร และอสูรมากมาย เทพโครนัสได้ขว้างอวัยวเพศของพระบิดาลงไปในทะเล บังเกิดเป็นฟองสีขาวขึ้น และจากฟองขาวนี้เอง เทวีอโฟรไดต์ (Aphrodite) ซึ่งเป็นเทวีแห่งความรักและความใคร่ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา

    นอกจากเรื่องราวข้างต้นแล้ว ยังมีอีกสำนวนหนึ่งที่เล่าว่า เทพยูเรนัสเริ่มขยายร่างกายของพระองค์ใหญ่ขึ้น จนสามารถเข้ามาบรรทมกับพระแม่ธรณีเกอาได้ง่ายขึ้นและบ่อยขึ้น จนทำให้พระนางทนไม่ไหว จึงได้ขอให้เหล่าพระโอรสของพระนางช่วยทำให้เทพยูเรนัส ปล่อยพระนางออกจากอ้อมกอดอันรัดแน่นนี้ด้วย แต่เหล่าพระโอรสต่างพากันปฏิเสธ ยกเว้นแต่เทพโครนัสเท่านั้นที่ทรงรับปากจะช่วยเหลือ เทพโครนัสจึงใช้เคียวเฉือนอวัยวเพศของพระบิดา เลือดที่พุ่งออกจากบาดแผลของพระองค์ ได้ให้กำเนิดเหล่าเอรีนีเอส หรือ เหล่านารีแห่งความพยาบาท พวกยักษ์ และ พวกนางอัปสรเมเลีย และเมื่อเทพโครนัสได้ทิ้งเคียวลงไปในทะเล เคียวนั้นจึงเกิดเป็นเกาะกอร์ฟู (Korfu) อันเป็นถิ่นฐานของชาวไฟอาเซีย (The Phaeacians)

    หลังจากที่เทพยูเรนัสถูกตัดอวัยวเพศแล้ว ท้องฟ้าจึงได้แยกออกจากแผ่นดิน และเทพโครนัสได้กลายมาเป็นราชาแห่งเหล่าทวยเทพทั้งปวง แต่ต่อมา ด้วยอำนาจของเหล่าเอรีนีเอส อันเกิดมาจากความอาฆาตของเทพยูเรนัส จึงทำให้เทพโครนัส ถูกพระโอรสของพระองค์คือ เทพซีอุส ขับพระองค์ออกจากบัลลังก์ในเวลาต่อมา และทรงกลายเป็นเทพเจ้าสูงสุดของเหล่าทวยเทพทั้งปวง


    http://hotacunus.tripod.com/mythology/ouranos/ouranos.htm

    ตอบลบ
  3. โครนัส (Cronos) หรือ แซทเทิร์น (Saturn)

    ไททันโครนัสหรือเทพโครนอส (Cronos หรือ Kronos) เป็นผู้นำและไททัน (Titan) รุ่นแรกที่มีอายุน้อยที่สุด ซึ่งเป็นทายาทของเทพีจี (Gaea) พระแม่ธรณี และเทพยูเรนัส (Uranus) เทพแห่งท้องนภา เทพโครนัสได้ทำการโค่นบัลลังก์ของพระบิดาเทพยูเรนัส และขึ้นครองบัลลังก์ในช่วงยุคทอง

    หลังจากถูกจีผู้มารดาสาบแช่ง โครนัสตระหนกมากเพราะหลังจากนั้นไม่นาน เทพีรีอา พระชายาก็ตั้งครรภ์ เมื่อได้ข่าวการประสูติ เทพโครนัสจึงบุกเข้าไปในตำหนักพระชายาและจับทารกผู้เป็นสายเลือดของตนกลืนลงท้องไป และครรภ์ต่อๆ มาของเทพีรีอาก็เช่นกัน ส่งผลให้เทพีรีอาเศร้าเสียใจอย่างมากความคับแค้นใจทำให้เทพีรีอาตัดสินใจเก็บบุตรคนสุดท้องเอาไว้ โดยแสร้งส่งก้อนหินห่อผ้าให้เทพโครนัสไป ทารกซุส (Zeus) ถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยเหล่าชนเผ่า จนเติบใหญ่แข็งแรงและหวนกลับไปตามคำร้องขอของมารดา

    เทพโครนัสพ่ายแพ้แก่บุตรตามคำทำนาย แต่ไม่ได้ถูกจองจำในตรุทาร์ทารัสเหมือนไททันตนอื่นๆ แต่เขากลับหลบหนีไปหลังจากถูกบังคับให้สำรอกบุตรที่เคยกลืนออกมา ด้วยความเป็นเทพเจ้าทำให้เหล่าเทพที่ถูกกลืนลงไปไม่ตายซ้ำยังเติบโตขึ้น เรียงลำดับได้ดังนี้
    1.เทพฮาดีสหรือพลูโต จ้าวแห่งยมโลก เป็นผู้ปกครองพิภพบาดาลและโลกคนตาย มีเทพีเพอร์ซิโฟเนธิดาเทพีเซเรสเป็นมเหสี
    2.เทพโปเซดอนหรือเนปจูน จ้าวแห่งท้องทะเล ปกครองน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนียนและน้ำที่ใช้ประโยชน์ได้ มีเทพีแอมฟิไทร์หรือ อัมฟิตรีติ เป็นมเหสี
    3.เทพีดิมิเทอร์หรือเซเรส เทพีแห่งพันธุ์พืช ธัญญาหารและการเพาะปลูก มีธิดากับเทพซุสหนึ่งองค์คือ เทพีเพอร์ซิโฟเน
    4.เทพีเฮราหรือจูโน เทพีแห่งการสมรส เป็นมเหสีของเทพซุส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหึงหวง มีโอรสและธิดากับเทพซุส 3 องค์คือ เฮฟเฟสตุส ฮีบีกับ อาเรส

    ด้วยเหตุที่ว่าเทพโครนัสมีความเกี่ยวเนื่องกับยุคทอง เขาจึงได้รับการสักการะในฐานะเทพแห่งฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งรวมไปถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลเช่น ข้าว ธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตร และการเดินไปข้างหน้าของกาลเวลาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ภาพของเทพโครนัสมักถือเคียวไว้ในมือ ซึ่งพระองค์ใช้ในการเก็บเกี่ยวพืชผล และเป็นอาวุธที่พระองค์ใช้โค่นบัลลังก์เทพยูเรนัส ในกรุงเอเธนส์ (Athens) วันที่ 12 ของทุกๆ เดือน ถูกเรียกว่าวันฮีคาทอมบาเอียน (Hekatombaion) ซึ่งจะมีงานเทศกาลชื่อว่า เทศกาลโครเนีย (Kronia) จะจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพโครนัสสำหรับฤดูเก็บเกี่ยว พระนามของเทพโครนัส


    http://andaman2002.blogspot.com/2009/01/cronos-saturn.html

    ตอบลบ
  4. [URL="http://www.youtube.com/watch?v=7VdONYkKFmQ"]http://www.youtube.com/watch?v=7VdONYkKFmQ[/URL]

    หนังที่เกี่ยวไททัน และกษัตริย์ในเนื้อเรื่อง ผู้ปลดปล่อยไททัน

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน