วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หนัง ละคร นิยาย เกม ก็เป็นความจริงได้นะ แล้วมันเป็นไปได้ยังไง?

มนุษย์ต่างดาว แจ้งมาว่า ในโลกของเรามีมิติหลากหลายเหลื่อมซ้อนกันอยู่ แท้แล้วทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่อาจแยกขาดจากกันได้ และแต่ละมิติก็เชื่อมโยงถึงกัน นั่นคือ สภาวะความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกมิติ ทว่า เราผู้มีสติปัญญาจำกัด จึงไม่อาจมองเห็นทะลุกำแพงกั้นระหว่างมิติและยังคงมองเห็นสิ่งต่างๆ ในมิติใดมิติหนึ่ง เท่าที่เราถนัด หรือที่เราเคยๆ เข้าใจจึงมีความเข้าใจโลกและสรรพสิ่ง ในมุมมองแบบเดิมๆ ที่เราเคยๆ เข้าใจอยู่นั้น ทว่า มนุษย์ที่เลื่อนระดับไปเกินกว่าระดับมิติที่ ๕ แล้วก็ดี หรือมนุษย์ต่างดาวก็ดี ต่างก็เข้าใจความเป็นหนึ่งเดียวกันของมิติทั้งหลายเหล่านี้นะครับ


เอาละ ยกตัวอย่างง่ายๆ ดีกว่า อย่างหนังจีนที่เราดู หรือเกมที่เราเล่นอยู่นั้น เราอาจคิดว่าหนังก็คือหนัง เกมก็คือเกม มันไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้หรอก ทว่า มนุษย์ต่างดาวบอกว่า อย่าคิดอย่างนั้น เพราะมันจะทำให้เรา "ตัดขาดสายสัมพันธ์ระหว่างมิติที่เรามองไม่เห็น หรือเข้าไม่ถึงได้" ทว่า ก็หาใช่ว่าเราจะเชื่อในหนังจนงมงาย แบบนั้น ก็ถูก "ม่านอำพรางของมิติเดิมๆ ปิดบังความจริงในมิติอื่นอยู่" ไม่ได้เข้าความจริงถึงมิติอีกมิติหนึ่งอยู่ดี หมายความว่าอย่างไร? อย่างนี้ครับ หนังก็ดี เกมก็ดี มันมีด้านแห่งความเป็นจริงที่ปรากฏในอีกมิติหนึ่ง ในอีกแบบหนึ่งครับ หนังก็เป็นเพียงประตูผ่านมิติที่จะเปิดรับให้ใครสักคนเข้าสู่มิติแห่งความจริงนั้นๆ แต่ถ้าเราดูหนังแล้วยึดหนังมากเกินไป เราก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่หา "ประตูเชื่อมมิติ" ไม่เป็น เราไปติดแหง่กอยู่ ณ "กำแพงกั้นมิติ" เท่านั้นเองครับ พอเข้าใจนะครับว่ามันมีทั้งส่วนที่เป็นประตูเปิดให้เราเข้าไปได้ แล้วเราก็จะเข้าใจความจริง แต่เราจำต้องอาศัยอะไรบางอย่างที่ดูยังไม่จริงมากนัก เช่น หนังหรือเกม ก็ตามที เป็นประตูเปิดเข้าไปสู่ความจริงในอีกมิติหนึ่ง ทว่า ถ้าเราเข้าประตูไม่เป็น ไม่ถูกแล้ว เราก็ "ชนกำแพง" นะสิครับ ใครละที่ชนกำแพง ก็คนที่ยึดติดอยู่ว่าความจริงในอีกมิติ อีกด้านหนึ่งของจักรวาลคู่ขนานนั้น จะต้องเป็นเหมือนอย่างในหนังแบบ "เป๊ะๆ" มากเกินไป ครับ นั่นแหละ คนที่เข้าประตูผ่านมิติไม่เป็น ส่วนอีกพวกหนึ่งคือ "คนขี้ขลาด" ที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงประตูผ่านมิตินี้ พวกเขาก็จะมองว่า "หนังคือหนัง ไม่มีความจริงในหนังหรอก" เกมคือเกม มันจะเป็นความจริงไปได้อย่างไร อะไรแบบนั้น ทว่า มนุษย์ต่างดาวบอกผมว่า "ทุกอย่างคือความจริง" แต่เราต้องหา "ประตูสู่มิติแห่งความจริงในอีกโลกหนึ่งให้ได้ก่อน" เราจึงจะเข้าถึงความจริงในมิตินั้นๆ ได้ครับ



4 ความคิดเห็น:

  1. อาวละ ทีนี้ถ้าเพื่อนๆ อยากทดลองเข้าประตูสู่อีกมิติหนึ่ง ก็ต้องกล้าหาญสักหน่อยนะครับ กล้าที่จะถูกคนมองหาว่าบ้า แต่เราไม่ได้บ้าครับ เราจะตามสื่อต่างๆ เช่น หนัง, นิยาย,เกม ฯลฯ ไปดูว่าความจริงในอีกมิติหนึ่ง อีกด้านหนึ่ง เป็นอย่างไร? โดยการเปิดประตูสู่มิตินั้นๆ ด้วยตัวของเราเอง ทดลองดูนะครับ อย่างเช่น เวลาดูหนังจีนกำลังภายใน เห็นจางซานฟงใช้ไทเก๊ก เลยสงสัยว่ามันมีจริงมั้ย? ก็ต้องลองเข้าไปในประตูผ่านมิติดูครับ มันจะเป็นความจริงในมิติ "แห่งอดีตชาติ" ก็ดี หรือมันจะเป็นความจริงในมิติ "แห่งจักรวาลคู่ขนาน" ก็ดี หรือภพภูมิอื่นใด ก็ดี ลองดูครับว่าความจริงในมิตินั้นๆ มันเป็นอย่างไร?

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. แล้วมีวิธีเจอประตูไหมคะT Tหรือทริคเล็กน้อยพอจะแนะนำให้ได้บ้างไหมคะ...?

    ตอบลบ
  4. คิดว่าจะเจอประตูได้ คงต้องผ่านด่านสองด่านนะ
    คือ เริ่มอย่างแรกเรามีความรู้ (สุตมยปัญญา)มา
    แล้ว เมื่อไม่ยึดติด หลงว่าความรู้คือปัญญา ก็จะ
    ไปสู่ขั้น "จินตนาการ" ครับ (จินตมยปัญญา)
    แล้วต่อไป เมื่อสุดทางของจินตนาการแล้ว คือ
    หมด จบ ไม่เหลือแล้ว เกลี้ยงหมด ก็อาจจะเข้าสู่
    ประตูมิติแห่ง ภาวนามยปัญญาได้ ดังนั้น จินตนา
    การ จึงน่าจะเป็น "กุญแจ" สำคัญในการไขประตู
    สู่อีกมิติหนึ่งนี้นะครับ ...


    การอธิบายให้คนมีความรู้ ก็ได้แค่ขั้นสุตมยปัญญา
    แต่ถ้าเรากระตุ้นจินตนาการเขาได้ด้วย เขาก็จะยก
    ระดับไปสู่จินตมยปัญญาได้ ซึ่งใกล้ภาวนามยปัญญา
    มากขึ้นไปอีกขั้นครับ

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน