วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คุณก็เป็น "ดาว" (มนุษย์ต่างดาว) กะเขาได้ แล้วทำยังไงกันละครับ?

เอาละ เห็นทีว่าคงต้องเข้าเรื่องกันซะที เรื่องของเรื่องก็คือ สิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ "มีวิวัฒนาการร่วมกัน" คือ ไม่ได้แยกกันแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เราสามารถไปเกิดยังโลกต่างๆ ดาวต่างๆ ได้มากมาย ในจักรวาลนี้ เพื่อกระบวนการวิวัฒนาการของเรา (มองแบบตัวตนเดี่ยวๆ นะครับ) เมื่อมองภาพรวมแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในจักรวาลนี้ จึงมีวิวัฒนาการร่วมกันดังกล่าว คุณลองสังเกตุได้เลยว่า เมื่อใดที่มี "มนุษย์ต่างดาว" เข้ามาเยือนโลกมากๆ เมื่อนั้น สัตว์ในโลกจะถึงวาระในการ "วิวัฒนาการครั้งใหญ่" เพราะอะไร? เพราะเขาจะได้รับพลังและวิทยาการ อะไรต่อมิอะไรจากการเข้ามาของมนุษย์ต่างดาวไงละครับ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ โลกนี้ มันจะมีวิวัฒนาการของสัตว์ที่ "ช้ามากๆๆๆ" ถ้าเราไม่ได้มนุษย์ต่างดาวเข้ามาร่วมด้วยครับ และเมื่อใดก็ตาม หรือยุคใดก็ตามที่มีมนุษย์ต่างดาวมาสู่โลกมากๆ คุณจะเห็น "การวิวัฒนาการแบบยกระดับ" เหมือนขึ้นบันได ไม่ใช่กราฟที่ค่อยๆ ไต่ขึ้น แต่มันยก (Shift) ขึ้นไปเลย และในช่วงเวลาแห่งการวิวัฒนาการร่วมกันของมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาวนี้เอง จะเกิดมี "ลูกครึ่ง" ขึ้นมาก่อน เยอะมากๆ อย่างที่ในปัจจุบันเราเรียกว่า "อินดิโก้" ไงละครับ ในอดีตโลกนี้ก็มี "ลูกครึ่งต่างดาว" เยอะมาก ซึ่งปรากฏในเทพนิยายปรำปรา พวกครึ่งมนุษย์ครึ่งอะไรต่อมิอะไร ที่เกิดจากผู้ที่มาจากมิติที่สูงกว่าโลก เหนือโลกน่ะครับ นั่นก็คือ หลักฐานอย่างหนึ่งของการ "วิวัฒนาการร่วมของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้" นั่นเองครับ


ที่นี้ เราเข้าสู่เนื้อหาของเราก่อน เราเองก็สามารถพัฒนาตัวเอง ยกระดับไป เพื่อการวิวัฒนาการนี้ได้ครับ ถ้าคุณพร้อมและเข้าใจสิ่งนี้ดี การเข้าสู่ความเป็นดาว จะดาวอะไรดีละ? "ดาวมหาลัย" ดีมั้ย ว่ะ ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ขำๆ นะครับ หนทางนั้นจะต้องผ่าน "รัตติกาล" ครับ นึกว่ารัตติกาลนี้คือ คนๆ หนึ่งก็แล้วกัน ที่จะคอยดูแลทดสอบพวกคุณว่า คุณจะผ่านได้ไหม? ถ้าคุณผ่านได้ คุณก็จะมี "แสงประกายเกิดขึ้นมาเฉพาะตัวคุณเอง" แต่อาจไม่มากพอถึงขั้นดวงอาทิตย์ก็ได้ ไม่เป็นไรครับ เพราะคุณไต่ระดับแค่ดาวใช่มั้ยละ คำว่า "ผ่านรัตติกาล" หมายความว่า "คุณต้องกล้าหาญอยู่ท่ามกลางความมืด" หรือคนที่มืดมน หรือสิ่งแวดล้อมที่มืดมนหลงทาง เช่น เมืองหลวงที่มีแต่คนที่ลุ่มหลงมืดมน อย่างไรละครับ แล้วคุณก็ต้องไม่ถูกรัตติกาลกลืนกินไปเป็นส่วนหนึ่งของเธอละ หมายความว่าถ้าคุณไม่กลายเป็นความมืด ส่วนหนึ่งของความมืด ไปเสียก่อน คุณจึงจะเปล่งประกายเป็นดาวได้ครับ เช่น ในวงการบันเทิง ก็คือ ท้องของรัตติกาล ถ้าคุณเข้าไป คุณจะถูกกลืนกินจนมืดไปด้วยมั้ย? ถ้าคุณไม่ถูกกลืนกิน คุณเปล่งประกายแสงได้ คุณก็จะได้เป็นดาว อย่างไรละครับ ทีนี้ คำว่า "รัตติกาลกลืนกิน" มันคืออะไร? ก็เช่น คุณผิดประเวณี อย่างนี้ คุณจะเข้าภาคมืด แล้วก็ค่อยๆ มืดลง รัศมีแห่งแสงสว่างของคุณจะค่อยๆ ริบหรี่ลงเรื่อยๆ กลายเป็นพลังให้แก่รัตติกาล เปลี่ยนไปเป็นพลังมืดแทน แรกเริ่มคุณอาจใสมาก หรือสว่างมาก เด่นอยู่แล้ว แต่พอเข้าวงการคุณอาจมืดลง หมองลง แล้วก็ "ดับ" ไปในที่สุด นั่นเองครับ   

4 ความคิดเห็น:

  1. ในการยกระดับจิตวิญญาณของคุณเองนั้น มันไม่อาจที่จะพัฒนาไปเกินกว่าที่มันเป็นได้เลยถ้าปราศจาก "พลังด้านมืด" ครับ นั่นหมายความว่า ระดับธรรมของคุณจะคงที่อยู่อย่างนั้น ตราบเท่าที่คุณยังไม่กล้าที่จะเข้าสู่ความมืดดำที่มากยิ่งขึ้น (หรือรัตติกาล นั่นเอง)ยิ่งถ้าคุณ ไม่กล้าเข้าสู่รัตติกาลเลย คุณจะไม่อาจเป็นดาวได้แน่นอนคือ เป็นได้อย่างมากคือเทพประจำโลกนี้เท่านั้น เช่น เทพนักษัตรทั้งหลายที่หากินในเวลากลางวัน นั่นเอง ดังนั้น การยกระดับของคุณไปมากกว่าเทพนักษัตรนี้ จำต้องอาศัยความกล้าหาญที่จะผ่านด่านความมืดของรัตติกาลไปให้ได้นั่นเองครับ และยิ่งถ้าคุณผ่านด่านความมืดมากเท่าใด คุณก็จะค้นพบ "ดาวที่มีวิวัฒนาการสูงยิ่งกว่า" มากขึ้นเท่านั้น เช่นกันครับ

    ตอบลบ
  2. บ้างครั้งต้องแสดงบทนางมารร้ายมากพอดู เราได้มาเรียนรู้ในโลกมนุษย์มีทุกรสชาติจนเราสนุกกับมันแต่ก็ต้องไปแต่รักที่จะอยู่กับมัน

    ตอบลบ
  3. สิ่งสำคัญของการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง คือ เราจะผ่านมันไปได้อย่างไร? โดยไม่เสียเวลาจมปลักกับมันนานเกินไปครับ (แต่ถ้าออกมาเร็วเกินไป ก็จะยังไม่ทันเข้าใจรายละเอียดมาก ก็ได้ครับ)

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ7 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:43

    ขอบคุณคะ

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน