วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับสุดยอดพลัง "ซุปเปอร์เม้าท์" ง่าย, เร็ว, ลัด, สั้น และเหนือชั้นกว่าใครๆ

เอาละ เมื่อท่านได้อ่านบทความเกี่ยวกับการฝึกโดยไม่ฝึกมาแล้ว จากระดับมิติที่สาม เห็นทีผมควรจะเม้าท์ต่อเผื่อใครในที่นี้ มาอ่านแล้วเบื่อเพราะเลื่อนระดับไปสูงกว่ามิติที่สามตั้งนานแล้วนะครับ ดังนั้น บทความนี้เลยมีมิติที่สูงขึ้นกว่าบทความก่อนเล็กน้อย มันเป็นเรื่องของ "พลังเม้าท์" ครับ อ้าว เอ๊ะ ? แล้วมันคืออะไร? เหมือนการโกหกมั้ย ม่ายช่ายยย โกหก ก็คือ โกหกสิ จะต้องหาคำศัพท์ใหม่มาเรียกมันไปทำผรือราย อ้าว แล้วมันเหมือนกับการนินทาหรือจับกลุ่มคุยกันในวงสนทนาหรือเปล่า? โอ้ย ไม่ใช่ อุตส่าห์หาคำศัพท์ใหม่มาให้ มันก็ต้องเป็นของใหม่สิ "พลังงานใหม่" จ๊ะ ไม่ใช่พลังงานเก่า ห่วยแตก พูดไร้สาระ นินทากันไปวันๆ ผิดศีลข้อมุสา ไปเรื่อยๆ แบบนั้น มนุษย์ต่่างดาวชาวไซย่า เขาไม่ทำ ทำไปทำไมละ ต่ำจะตาย เอาไว้ให้คนงี่เง่าที่อยู่ในระดับต่ำเขาทำกันไปละกัน เอาละ เฉลยเลยดีกว่านะ ง่ายๆ มันคือ "พลังงานใหม่" ที่ไม่ได้ไกลตัวเรามากเลยเอาง่ายๆ นะคุณลองนึกย้อนไปใน "วัยเด็กที่ใสซื่อไร้เดียงสา" ดู ในตอนที่เรายังเด็กไม่ถูกยัดเยียดและปรุงแต่ง ความถูก-ผิด, ดี-ชั่ว, จริง-เท็จ และเรายังไม่รู้จักการโกหกเลยด้วยซ้ำ แล้วเด็กผู้ชายอาจเม้าท์กะตัวตุ๊กตา "ซุปเปอร์แมน" ของเขา ก็ดี, เด็กผู้หญิงคุยกะตุ๊กตาหมีของเขา ก็ดี ฯลฯ มันไม่ใช่การโกหกเลยครับ แต่นั่นคือ กระบวนการพัฒนาสมองและสติปัญญาของเด็กๆ นะครับ ถ้าเด็กไม่ได้เล่นอย่างนั้น คงปัญญาอ่่อนละครับ ไม่ใช่บ้าครับ คนที่จะบ้าจะปัญญาอ่อน คือ คนที่เป็นเด็กไม่เป็นครับ คนที่เป็นเด็กเป็น คือ "คนอัจฉริยะ" ครับ โอเค? พอเข้าใจนะ


เอาละ ทีนี้ผมขอเลื่อนระดับ "ต่ำๆๆๆ" ลงมาพูดในมิติที่สามบ้าง เผื่อใครเข้ามาอ่านแล้วแสลงใจ ไม่รู้เรื่อง จะหาเรื่องตีกะผมได้ ผมจะบอกให้ว่าศาสนาพุทธเอง ก็กล่าวถึง "จินตมยปัญญา" ครับ ว่าคือ ปัญญาที่เกิดจากการจินตนาการ อันใกล้กับภาวนามยปัญญา มากกว่าสุตตมยปัญญาเสียอีก คนที่มัวจมปลักอยู่กับความรู้มาก ก็ได้แค่สุตมยปัญญาแหละครับ เรียกว่า "โง่ดักดาน" โง่จมปลักวัวควายไปตลอดกาลแหละครับ โฮ่ๆๆ พูดขนาดนี้แล้ว ถ้ายังไม่ตื่นอีกก็ไม่ใช่ปลาเป็นแล้วตายไหลตามน้ำไปได้เลย ที่ธิเบตก็มี "การใช้ศิลปะเพื่อทำสมาธิ" เช่น การวาดภาพพระโพธิสัตว์และพุทธะต่างๆ นั่นแหละ การทำสมาธิืในระดับจินตมยปัญญา ซึ่งไปไกลกว่าสุตมยปัญญามากเลยนะครับ แถวฝรั่งเขาก็พูดกันโดยไอสไตน์กล่าวว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" โอ้ย เขารู้กันทั่วโลกแหละครับ ใครยังโง่ดักดาน จมปลักวัวปลักควายอยู่กับการท่องจำ ความรู้มาก (สุตมยปัญญา) ก็เอา เขาไปไหนต่อไหนกันแล้ว ยังหลงอยู่แค่ตรงนั้น ก็เอาครับ สรุปง่ายๆ ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ดี, แนวคิดของไอสไตน์ ก็ดี, การฝึกสมาธิแบบทิเบตโดยใช้ศิลปะ ก็ดี หรือแม้แต่แนวคิดปัจจุบันที่ส่งเสริม "ความคิดสร้างสรรค์" ก็ดี "ตรงกันหมด" ครับ ว่าจินตนาการเป็นสิ่งสำคัญมากก่อนที่จะเกิด "ปัญญาที่แท้จริง" ได้ครับ เอาละ ไม่อยากพูดมาก เยอะขนาดนี้ ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะอธิบายอะไรอีกครับ


กลับมาพูดถึง "พลังซุปเปอร์เม้าท์" ในระดับมิติที่สูงขึ้นกว่ามิติที่สามกันบ้าง ว่าทำอย่างไร? อย่างที่บอกไปแล้วว่าถ้าคุณใช้อิทธิบาทสี่ คุณจะทำอะไรก็ได้ เกิดสมาธิ, สติ, กรรมฐานได้ทั้งนั้น ดังนั้น ถ้าคุณวาดภาพ มันก็ได้เหมือนกัน ทีนี้ ถ้าคนไม่มีอุปกรณ์ละ? ไม่มีเงินซื้อสีละ? ก็นี่เลย "ซุปเปอร์เม้าท์" ไปเลยครับ เม้าท์ๆๆๆ ออกไปเลย ไม่ต้องสนใจว่ามันจะถูกหรือผิด จริงหรือเท็จอะไรทั้งนั้น เราเม้าท์ของเราเองเฉยๆ ไม่ได้ไปหลอกลวงใครนี่นา? เราเม้าท์ด้วยจิตที่ใสซื่อบริสุทธิ์นะครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งสิ้น ปลดปล่อยไปกะการเม้าท์นั่นแหละ เท่านี้เอง โคตรจะง่ายเลย ใครเม้าท์ทางเสียงไม่ไ่ด้ พูดไม่ไ่ด้ เม้าท์ทางจิตก็ได้ ไม่เห็นจะยาก นี่ผมก็เม้าท์อยู่ มีเสียงที่ไหนละ เห็นมั้ย โฮ่ๆๆๆ...    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เม้าท์ด้วยคน