วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มัวทำบุญหวังผล รอชาติหน้าไปทำไม? ทำ Whole in once กันไปเล้ยยย


ฮาโหลๆ ยามบ่ายแก่ๆ ในวันหยุดแบบนี้ หลับกันไปหมดแล้วหรือยัง ถ้ายังขอเสียงกรี๊ดหน่อย อ้ายยยย มันต้องอย่างนี้สิ ไม่มีสักแอะเลยอ่ะ ว่ะ ฮ่าๆๆ เอ้า มาเข้าเรื่องกันดีกว่า บทความนี้ ผมจะมาเม้าท์ให้ฟังเรื่อง “การทำบุญหวังผล รอชาติหน้าได้รับ” กับ “การทำ ทั้งหมด ณ ฉับพลัน” ว่ามันต่างกันยังไง ขี้เกียจพูดมาก ผมถามคุณตรงๆ เลย คุณเคยไหมที่ได้รับอะไร แบบที่ตัวเองไม่ได้ก่อกรรมให้ได้มา อยู่ๆ มันก็มาเอง เอ้าง่ายๆ เสียงเพลงที่คุณไม่ได้เปิด ไม่ได้ต้องการ แล้วจู่ๆ มันก็มาจาก “คนข้างบ้าน” บ้าง, “คนข้างห้อง” บ้าง ฯลฯ ถามหน่อย คุณรู้สึกอย่างไรครับ? โอ้ย ถามดั้ย ก็รำคาญกันทั้งนั้นแหละ ใช่มั้ยฮะ แต่น้อยคนถึงน้อยมากๆ ที่จะคิดว่า “อ่า นี่เป็นบุญของบุญชูจริงๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ฟังเพลงฟรีแล้วว่ะ” ใครขืนไปคิดแบบนั้น เขาคงว่า “ไอ้นี่มันบ้านนอกจัดเลยว่ะ คงไม่มีแม้แต่วิทยุจะเปิดฟัง?” ทว่า ไอ้คนแบบนี้แหละ ที่มันรู้จักคำว่า “พอใจในผลบุญเก่าที่ตนได้กระทำมา” ส่วนคนแบบแรก (ที่รำคาญนั้น) จัดอยู่ในกลุ่ม ไม่ยินดีกับผลบุญเก่าที่ตนเองสร้างมา อ้าว ทำไมเป็นยังงั้นละครับ? ง่ายๆ ครับ “ไม่เที่ยงไง” ก็อีเวลาคุณทำบุญนั้นมันชาติไหนเล่า? มันอดีตชาติมาแล้ว ตอนนั้นกิเลส, ความชอบ, รสนิยม ฯลฯ ของคุณมันก็อีกแบบหนึ่ง แต่ตอนที่คุณได้เสวยผลบุญนั้น กิเลส, ความชอบ, รสนิยม ฯลฯ ของคุณในชาตินั้นๆ มันก็อย่างหนึ่ง “มันเปลี่ยนไปแล้ว สายไป เธอควรเก็บใจไว้ ให้กับคนที่เขารอเธออยู่เหมือนเดิม ...” อ้าว ร้องเป็นเพลงไปซะนั่น นั่นแหละ ก็เพราะว่ามันเปลี่ยนไปแล้วอย่างไรละคร้าบบบ


เอาละ สรุปง่ายๆ นะ สมมุติว่า ณ ชาตินี้ คุณเกิดเป็นผู้หญิงนะ ชอบดาราผู้ชายหนึ่ง โอ้ แม่เจ้า มันหล่อ, ขาวใส, ล่ำบึ้ก, น่ากินไปทั้งตัวเลย (พูดแล้วน้ำลายจะไหล ฮ่าๆๆ) สมมุตินะ แค่สมมุติให้คุณลองจินตนาการเท่านั้น โอ้ย อย่าบรรเจิดเกินเลยเถิดไปซะก่อนละ แล้วพอคุณเกิดความปรารถนา อีตอนทำบุญใหญ่ ก็ทำด้วยใจที่มันปรารถนาแบบนั้นพอดี คือ อยากได้แบบนี้เป็นคู่ แล้วบังเอิ้ญ บังเอิญ ชาติต่อไปของคุณดันเกิดเป็น “ผู้ชาย” พ้นจากกรรมที่ต้องเกิดเป็นหญิงแล้ว ทีนี้แหละ แม่เจ้าโว้ย ปัญหามันก็เกิดสิคร่ะ ฮ่าๆๆ ถ้าเขาคนนั้นก็เกิดเป็นผู้ชายเหมือนกัน น่ะฮ่ะ ทีนี้ อกอีแป้นจะแตกแล้วค่ะ ทำไงดีละเจ้าคะ? ก็มันทำบุญมายังเงี้ย จะเอาไงละ? เอ้า เอาก็เอา ว้าย อารายนะตัวเอ้ง เสวยบุญกันไปเลยเจ้าคร่ะ แซ้ปเว้อร์ มั้ยเจ้าคะ? ฮ่าๆๆ แหม ถ้ามันมีกรรมนะ กรรมจะบังตามันให้มันหลงชอบเขา ตามืดมัว มันก็แฮปปี้กันทั้งสองฝ่ายนะคะ แต่ถ้ามันไม่มีกรรมบังตา มันก็เห็นโล่งโจ้งเจ้าค่ะ อั๊ยย๊ะ อะไรน่ะ แท่งเบ่อเร่อเลย กูจะอ้วกแตก ไอ้ห่าเอ้ย เล่นเอากูเสียวหลังวาบๆ อะไรแบบนั้น ใช่มั้ยละ ฮ่าๆๆ นี่ละน้าคนเรา กิเลส, รสนิยม ของแต่ละชาติ มันก็ไม่เหมือนกัน แต่ดัน ไปทำบุญกำหนดเอาไว้ ให้มันได้อย่างนั้นที่ต้องการในชาตินั้นๆ ไว้ มันก็เลยต้องมาเสวยกัน กินกันเองละคร่ะ แซ้ปเวอร์มั้ยละเจ้าคร่ะ ไอ้คนที่หลงด้วยกรรมบังตา มันก็คงโอ อ่ะค่ะ แต่คนที่มันไม่มีกรรมบังตาละคะ โอ้ย เล่นเอากู เดินขาลากเลยมึง เหี้ยเอ้ย ทำกูได้ ไอ้ห่านี่ ๕๕๕ โอ้ย แม่เจ้า จินตนาการเลยเถิดเข้าป่าไม้เดียวกันไปไหนแล้วเนี่ย?


เอาละ สรุปแว่ เอ้ย สรุปว่า อย่าไปทำมันเลย ไอ้บุญหวังผลเอาชาติหน้าหน่ะนะ ทำมันซะในปัจจุบันนี้แหละ แต่ไม่ใช่แบบ “พวกหลงยึดติดปัจจุบันขณะ” นะจ๊ะ แบบนั้นมันยังไม่พ้นวังวนของกาลเวลา ไม่พ้นมิติที่ 4 เลย ไม่ใช่ “อกาลิโก” นะตัวเอง ไอ้แบบที่ทำกรรมเพื่อให้ได้ผลเสวยในชาตินี้เลยอ่ะนะ แบบนั้นมันพวก “กรรมฟาสฟู้ด” สั่งเร่งเร็วด่วนจี๋ เหมือนอาหารตามสั่ง สั่งแล้วก็ต้องได้เลย อย่าช้า ไอ้แบบนี้ก็ไม่ใช่นะจ๊ะตัวเอง ไอ้ที่บอกว่า “ทั้งหมด ณ ฉับพลัน” นั้น มันไม่ใช่แบบนี้ มันไม่ได้ยึดติดกับกาลเวลาใดๆ เลย ไม่ได้ยึดติด ไม่ได้ผูกมัดตัวเองกับปัจจุบันขณะ อ้าวแล้วมันเป็นแบบไหนกันเล่า? เอาละ ไว้ตัวเองเลื่อนระดับไปถึงระดับมิติที่ 7 ก็จะรู้เองแหละ ยิ่งอธิบายมาก ยิ่งเลอะเทอะไปเปล่าๆ เอาเป็นว่าแค่แนะนำให้รู้ทาง ที่เหลือก็ไปเองแล้วกันนะจ๊ะ พึ่งตัวเองด้วยจ๊ะ โตแล้วนะจ๊ะ ไม่ใช่เด็กๆ สำหรับบทความนี้ ขอจบเท่านี้ก่อน บะบายจ้า...  

1 ความคิดเห็น:

เม้าท์ด้วยคน