วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ค้นหา "ตัวตน" หลากมิติของคุณ เพื่อแผ่ขยายขอบเขตพลังแห่งการเชื่อมโยง!

สวัสดีเช้าตรู่วันหยุดนะครับ วันนี้มีเรื่องเบาๆ แต่พิเศษนิดหน่อยมาเม้าท์ให้ฟังละ คือ เรื่องทำอย่างไร เราจึงจะขยายขอบเขตของพลังในการเชื่อมโยงตัวตนหลากมิติของเราออกไปให้กว้างไกลยิ่งๆ ขึ้นไปได้เพราะถ้ายิ่งเรามีพลังที่ขยายออกไปมากเท่าไร นั่นก็หมายความว่า "เรายิ่งเติบโตในอีกทางด้านหนึ่ง" ด้วยครับ ผมจะอุปมาอย่่างนี้ ถ้าตัวคุณเหมือนพีรามิดนะ เวลาคุณเลื่อนระดับขึ้นไป คุณพัฒนาตัวเองไปใน "แนวตั้ง" คุณอาจไปได้เร็วก็จริง แต่พีรามิดของคุณ มันก็จะผอมและแหลมเปี๊ยบ ในขณะที่อีกคนหนึ่ง เขาอาจทำได้ดีกว่่า คือทั้งขยายในแนวตั้งและแนวนอน พีรามิดของเขา นอกจากจะก่อได้สูงแล้วยังมีขนาดใหญ่ด้วย แน่นอนเขาย่อมมีความมั่นคงกว่าจริงมั้ยครับ


ดังนั้น จึงไม่ใช่เพียงแต่การเลื่อนระดับเท่านั้น แต่คุณควร "แผ่บารมี" ของคุณออกในแนวนอนด้วย คุณอาจกลายเป็นคนที่เก่งมาก เพราะเลื่อนระดับไปได้สูงมาก ในเวลาอันสั้น แต่นั่นหมายความว่าคุณอาจกลายเป็น "พระปัจเจกพุทธเจ้า" ไป คือ เก่งมากแต่สำเร็จได้เพียงคนเดียว ทว่า นี่ก็ไม่ใช่ความผิดหรือความเลวร้ายอะไรนะ มันเป็นแค่ทางเลือกหนึ่ง ก็เท่านั้น แต่ถ้าท่านไม่ต้องการเช่นนี้ ท่านต้องการคนอื่นๆ ให้ร่วมเดินทางไปกับท่านให้ได้ด้วย มันก็จำเป็นครับที่ท่านจะต้องทำ การเลื่อนระดับ ควบคู่กันไปกับ "การแผ่บารมี" ด้วย เอาละ ในบางคนจะมุ่งเน้นแต่แผ่บารมี แต่ไม่มีการเลื่อนระดับเลยก็มี เขาก็จะกลายเป็นคนที่ได้รับการนิยมชมชอบมากในหมู่ชนระดับล่าง แต่เขาจะไม่อาจมีความเข้าใจและวิถีชีวิตแบบ "ระดับสูง" ได้อย่างแท้จริง มันก็เหมือนคนที่ยิ่งใหญ่ "แต่ไปไม่ถึงฝั่ง" นั่นแหละครับ เพราะอะไร? อาจเป็นเพราะ "สัมภาระ" เยอะเกินไปก็ได้มังครับ ดังนั้น การแผ่บารมีควบคู่ไปกับการเลื่อนระดับ จึงเหมือนการก่อสร้างพีรามิดที่สมดุล ทั้งด้านความสูงและความกว้าง นั่นเอง ซึ่งผมจะได้อธิบายต่อไปนะครับ


ทีนี้ เรามาเข้าสู่ "เทคนิกในการแผ่ขยายขอบเขตพลังแห่งการเชื่อมโยง" กับตัวตนหลากมิติกันบ้าง เพราะสิ่งนี้จะช่วยในการแผ่ขยายบารมีของคุณได้ นั่นเอง เช่น ถ้าคุณค้นพบว่ามีตัวตนหลากมิติของคุณอีกตัวหนึ่ง อยู่ที่ อเมริกา แล้วคุณเชื่อมโยงพลังงานไปถึงเขาได้ คุณก็จะแผ่ขยายพลังงานได้กว้างไกลไปถึงอเมริกาโน่น มันเหมือนการเชื่อมต่อสัญญาณที่มีสถานีรับส่งสัญญาณ หลายๆ สถานี นั่นละครับ ซึ่งในช่วงแรกนี้ เป็นการยากที่คุณจะเชื่อมโยงกับตัวตนหลากมิติที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเครือข่ายของคุณแบบมิติที่ 6 เขาทำกัน ดังนั้น คุณจึงควรเริ่มต้นจากมิติที่ 5 ให้ได้ก่อน คือ เชื่อมโยงกับตัวตนหลากมิติของคุณเอง ก่อนที่จะแผ่ขยายไปสู่ตัวตนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวตนในเครือข่ายของคุณ บางท่านจะ "ลัดขั้นตอน" คือ เชื่อมโยงพลังงานไปยังตัวตนมากมายที่ไม่ใช่ตัวตนในเครือข่ายของตน เช่น การที่คนๆ หนึ่งขึ้นเวทีร้องเพลง มีคนห้อมล้อมและเชื่อมโยงพลังงานกับเขามาก เขาจะได้รับพลังงานจากคนเหล่านั้นมาก และทำให้เขาดูเหมือนว่าไปได้ไกล มีชีวิตที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทว่า ม้ันเป็นการลัดขั้นตอน แม้จะให้ผลดีดังใจต้องการในระยะสั้น แต่มันจะมีผลร้ายตามมาภายหลังได้ครับ สุดท้าย ถามว่าคุณจะค้นหา "ตัวตนหลากมิติของคุณ" เพื่อเชื่อมโยงได้อย่างไร? คำตอบก็ไม่ยากครับ คุณอาจดูจากสื่อต่างๆ ทีวี, วิทยุ, หนัง, ละคร, เกม, นิยาย, หนังสือ ฯลฯ อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณ "สัมผัสถึงตัวตนอีกมิติหนึ่งของคุณได้" มันก็จะช่วยให้คุณค้นหา "ตัวตนหลากมิติอื่นๆ" ของคุณได้อีก เช่น ถ้าคุณค้นพบว่ามีคนที่อเมริกาเป็นเครือข่ายตัวตนหนึ่งของคุณ ผ่านการดูหนัง เท่านี้ละ คุณก็เชื่อมโยงพลังงานกับเขาได้เลย แต่ถ้าคุณไม่อาศัยสิ่งเหล่านี้ ก็ยากเหมือนกันครับ ที่จะค้นหา "ตัวตนหลากมิติ" ของคุณได้ สวัสดี...   

10 ความคิดเห็น:

  1. มารจะถูกส่งเข้ามาทดสอบเรื่อยๆทุกครั้งที่ฝึกไต่ระดับ ทั้งเจ้ากรรมนายเวรเก่าซึ่งอาจมาในรูปของโรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาอุปสรรคในเรื่องของเงินทองหรือหน้าที่การงาน มีปากเสียงจากญาติมิตรคนใกล้ตัวหรือคนพาลเข้ามายั่วโมโหอยู่บ่อยๆ ถ้าตบะแตกก็จบเหมือนกำลังเรียงตัวต่อปัดทีเดียวพังทั้งหมดต้องมาเริ่มใหม่แต่คุณจะมีสกิลเพิ่มขึ้นในการรับมือกับปัญหาเดียวกันครั้งต่อไป เพราะฉะนั้นสติจึงเป็นเรื่องสำคัญกำกับไว้กับตัวอย่าให้หลุด

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ...


    กำลังฝึกใช้ "พลังทุกอย่าง" น่ะครับ เช่น พลังความโกรธ, พลังความแค้น ฯลฯ ก็นำมาใช้ได้ (ในทางสร้างสรรค์) ได้รับข้อมูลสื่อสารมาว่า "ไม่้ต้องยึดหัวโขนใดๆ" เป็นได้ทุกอย่าง เป็นวิถีของการเข้าสู่มิติที่ 5-6 น่ะครับ


    ก็ไม่ใช่จะใช้ได้ง่ายๆ เลยเนอะ แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็จะบอกให้คนอื่น "ใช้กิเลสเป็นโพธิ" ไม่ได้ เมื่อเราบอกคนอื่นอย่างนี้แ้ล้ว เราก็ต้องทำได้น่ะครับ ใช้ิกิเลส, โกรธ ฯลฯ มาทำงานให้ได้


    ข้อมูลที่รับมานั้น ก็ไม่ได้เชื่อในทันทีหรอกนะครับ รับมาแล้วก็ปฏิบัติดูก่อนว่ามันพอจะเชื่อถือได้ไหมน่ะครับ

    ตอบลบ
  3. ผมโดนข้างบ้านชอบเอารถมาจอดขวางหน้าบ้านประจำ พูดกับคนในบ้านเค้าแล้วก็ยังทำอยู่ ก็แปลกบ้านติดกันอีกบ้านเป็นพวกขี้เหล้าเมายาเขาไม่ไปจอดคงกลัวโดนขูดสี มาจอดขวางบ้านที่ไม่มีปากเสียงดูแล้วปลอดภัย คนดีมักจะถูกรังแกและตกเป็นเหยื่อเป็นประจำ นี่กำลังทดสอบจิตใช้พลังขั้วตรงข้ามดีดให้ไปไกลๆไม่รู้สำเร็จหรือเปล่า กับคนพาลไปทะเลาะด้วยมีแต่เสียกับเสีย

    ตอบลบ
  4. ที่คุณต้นหลิวพูดมาคงหมายถึงในวิกฤติมีโอกาส อย่างเช่นเวลาเศรษฐกิจพังมาม่าขายดี ค่าเช่าที่ก็ถูกลง (บล็อกนี้เม้นท์ยากจังโพสต์ตั้งหลายทีกว่าจะขึ้น)

    ตอบลบ
  5. เออออออออออ...........อื่อออออออออออออ :(

    ตอบลบ
  6. กรณีโพสยาก


    จริงๆ ครับ ผมเองก็ทดลองดูแล้ว โพสยากจริงๆ
    แต่ไม่ทราบจะแก้ไขอย่างไร เพราะเป็นเทคโนฯ
    ของกูลเกิล ไม่ใช่ของผมเองทั้งหมดน่ะครับ


    อาจมีข้อดีคือ ไม่ค่อยมี คคห. รกจนเกินไปครับ

    ตอบลบ
  7. กรณีท่านที่ถูกรบกวนจากบ้านข้างเคียง


    เป็นการยากเหมือนกันนะครับ ผมเองถ้าอยู่ใน
    สถานการณ์นั้น ก็คงยากจะแ้ก้ไข บางครั้ง เรา
    คุยดีๆ คุยตรงๆ ก็ไม่มีผล แถมยังอาจกลายเป็น
    เรื่องบาดหมางกันไปอีก บางมุม เราอาจได้ฝึก
    ความอดทน ขันติบารมีเพิ่มขึ้น


    บางครั้งนะ แปลกมาก พอผมโดนเล่นงานนะ
    ผมก็คิดว่า เอาละ ฉันพร้อมแล้ว จะใช้่การทำ
    ของเขานั่นแหละ เ็ป็นเครื่องพัฒนาตัวเองไป
    ซะเลย อ้าว ปรากฏว่า เขาไปเฉยเลยอ่ะ? นี่
    อย่างนี้ก็มี ยังกะมีจิตรู้คอยคุมร่างนั้นเลยนะ?
    ส่วนเจ้าร่างสังขารนั้น ก็งี่เง่าละ ไม่ได้รู้เรื่อง
    อะไร ปล่อยให้เขาครอบงำ เอาร่างไปทำสิ่ง
    ไม่ดี ทั้งๆ ที่ไม่ยากเกินไปที่จะคิดนะ อันนี้ก็
    มีเยอะนะครับ คนเรา นั่นแหละ เลยพิจารณา
    คนหนอคน มันยังงี้ละนะ คนเรา มันปนๆ กัน

    ตอบลบ
  8. แผ่บารมีหมายถึง "การเข้าไปคลุกวงกับคนอื่นล่ะสิ"

    ตอบลบ
  9. เรื่องการไปคลุกคลีหรือทำกิจกรรมร่วมกัน
    ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ผมไม่ได้พูดถึง เพราะมี
    คนพูดเยอะแล้ว เรียนกันเยอะ พวกหลักการ
    มนุษยสัมพันธ์ อะไรแบบนั้น


    ที่ผมเขียนจะหมายถึง "การใช้พลังจิต" นะ
    ครับ ใช้พลังจิตเชื่อมโยงไปก่อน แล้วมันก็
    จะเสริมกิจกรรมต่างๆ ได้ต่อไปเองครับ

    ตอบลบ
  10. จิตข้างในบอกว่า "ไปทำงานที่ปั๊มได้เหมือนเดิม แต่ไปทำงานอย่างอื่นไม่ได้อ่ะ งง"

    ตอบลบ

เม้าท์ด้วยคน